“นารี” อสส.สั่งเปิดศูนย์อัยการรับแจ้งอุ้มทรมาน 113 จุดทั่วประเทศ เปิด24 ช.ม.หลังพรบ.อุ้มหายฯบังคับใช้วันนี้รองโฆษก”โกศลวัฒน์”เผยอัยการพร้อมตรวจสอบกำกับการสอบสวนงมุ่งรักษากฎหมายให้มีประสิทธิภาพ
22 ก.พ.2566 - ที่สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด อาคาร ถนนบรมราชชนนี นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดเปิดเผยความคืบหน้า พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายว่า กฎหมายป้องกันการทรมานและอุ้มหาย ที่จะมีผลบังคับใช้ความว่า พรบ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย มีผลใช้บังคับวันนี้เป็นวันแรก กฎหมายนี้เป็นกฎหมายที่จะคุ้มครองประชาชนจากการใช้อำนาจจับกุม อุ้ม ซ้อมทรมาน จากเจ้าหน้าที่ของรัฐเมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา น.ส.นารี ตันฑเสถียร อัยการสูงสุด ห่วงใย ตรวจสอบความพร้อม ศูนย์รับแจ้งเรื่องราวจากประชาชนและญาติ ผู้ถูกกระทำต้องมีความพร้อมตั้งแต่ 00.01 น ของวันที่ 22 ก.พ. 2566 ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดจะต้องจัดตั้งศูนย์ขึ้นทุกจังหวัดเพื่อให้ประชาชนหรือญาติหรือเหยื่อแจ้งเหตุตามกฏหมายใหม่นี้ได้ตลอด 24 ชั่วโมงจึงได้จัดตั้งขึ้นรวม 113 ศูนย์ทั่วประเทศ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ และประชาชนได้แจ้งเหตุให้อัยการเข้า ตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวนทันที หรือสอบสวนตามที่กฎหมายกำหนด ตามนโยบายท่านอัยการสูงสุดนารี ตันฑเสถียร ที่อัยการทุกคนจะต้องพร้อม ยกระดับปรับเปลี่ยน ใช้กฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน คุ้มครองสังคมให้สงบสุข
กฎหมายมาตรา 5,6,7 ทุกมาตรา เขียนว่าผู้ใดเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทำการ… จึงเป็นกฎหมายที่เอาผิดต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ทำการจับกุม คุมขัง ทรมาน อุ้ม โดยมิชอบไม่ปฎิบัติการจับกุมตามกฏหมาย มีโทษ..ขั้นสูงสุดถึงจำคุกตลอดชีวิต แม้จะมีการเลื่อนการใช้บังคับใน 4 มาตราแต่มาตราอื่นๆก็ยังคงมีสภาพบังคับใช้ตามกฏหมายต่อไป ซึ่งอัยการก็มีหน้าที่ทำให้กฏหมายมีประสิทธิภาพในการคุ้มครองประชาชนตามเจตนารมย์ของกฎหมาย
นายโกศลวัฒน์ กล่าวว่าต่อกรณีที่ถามว่ากรณีป้าขายบุหรี่ที่ถูกเจ้าหน้าที่สรรพสามิตพาขึ้นรถแล้วเรียกรับเงินตามข่าวที่ปรากฏ กฎหมายที่ประกาศใช้วันนี้จะมีผลอย่างไรบ้างนั้น เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดก่อนวันที่กฎหมายฉบับนี้ มีผลใช้ บังคับ อัยการก็คงต้องขอให้พิจารณามาตรา 43 ที่ให้นำความในมาตรา 10 มาใช้บังคับแก่การกระทำให้บุคคลสูญหายก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับโดยอนุโลม
ซึ่งมาตรา 10 นั้นให้ดำเนินการสืบสวนจนกว่าจะพบบุคคลซึ่งถูกทำให้สูญหายหรือปรากฎหลักฐานอันน่าเชื่อว่าบุคคลนั้นถึงแก่ความตายและทราบรายละเอียดของการกระทำความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดจึงเป็นกรณีที่ใช้กฎหมายในการติดตามตัวบุคคลจนกว่าจะพบตัวหรือรู้ตัวผู้ถูกกระทำ ซึ่งคุณป้าถูกนำตัวขึ้นรถไปในช่วงเวลาหนึ่งตอนนี้พบตัวคุณป้าแล้ว จึงไม่เป็นไปตามมาตรา 43 ที่ให้ปฏิบัติตามมาตรา 10 ให้ดำเนินการสืบสวนจนกว่าจะพบบุคคลซึ่งถูกกระทำให้สูญหาย การรักษากฎหมายให้มีประสิทธิภาพจึงเป็นการค้นหาพยานหลักฐานหรือสอบสวนให้ได้ความจริงมากที่สุด
โดยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน เพื่อให้เกิดความยุติธรรมตามตัวบทกฏหมายโดยไม่เลือกปฏิบัติและไม่เข้าข้างฝ่ายใด เพื่อคุ้มครองสิทธิ์ของประชาชน และรักษาความสงบให้สังคมด้วยกฏหมาย
โดยศูนย์รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ของรัฐ อุ้ม ซ้อม ทรมาน กฎหมายใหม่อัยการพร้อมทำงาน 24 ชั่วโมง โทร 024348325-27 ต่อ 601-605ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไพศาล' เผยเหตุศาลรธน. ให้อัยการสูงสุดชี้แจงคำร้องสอบ 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ทำไมศาลรัฐธรรมนูญต้องให้อัยการสูงสุดชี้แจงคำร้องขอเกี่ยวกับการล้มล้างการปกครอง
'เหยื่อเมาแล้วขับ' นั่งวีลแชร์ ร้อง อสส. สั่งคดีฟ้องศาลลงโทษสถานหนัก
'เหยื่อเมาแล้วขับ' นั่งวีลแชร์ ร้องอัยการสูงสุด สั่งคดีเมาแล้วขับทั่วประเทศ ฟ้องศาลลงโทษสถานหนัก พบช่องโหว่กฎหมาย ตำรวจนอกรีตตบทรัพย์ขี้เมา
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง 'ไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ' ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศวุฒิสภาเรื่อง แต่งตั้งข้าราชการอัยการ
อสส. ตามเงินสินบน 10.46 ล้าน จากอดีตผู้ว่าการ ททท.-ลูกสาว คดีทุจริตจัดเทศกาลหนัง
งานโฆษก สำนักงานอัยการสูงสุด แถลงกรณีการติดตามเงินจำนวน 10.46 ล้านบาทจากผู้กระทำผิดจากโครงการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพความว่า
'สมยศ' กับพวกรวม 8 คน ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาช่วยเหลือคดีบอสอยู่วิทยา
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดสอบคำให้การ คดีที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วงอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมพวกรวม 8 คน เดินทางมาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อสอบคำให้การตามนัดของศาล
เปิดโปรไฟล์ 'ไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ' อัยการสูงสุด คนที่ 19
ประชุมวุฒิสภาครั้งที่ 9 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) ได้มีมติให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด ตามมาตรา 10 แห่ง พรบ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. 2553