21 ก.พ.2566 - กรมอุตุนิยมวิทยา เผยแพร่ประกาศเรื่อง "การคาดหมายลักษณะอากาศช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย พ.ศ.2566 ช่วงประมาณต้นเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2566" ปรับปรุงใหม่ล่าสุด ระบุว่า ฤดูร้อนของประเทศไทยปีนี้ คาดว่า จะเริ่มในช่วงต้นเดือนมีนาคม ซึ่งจะช้ากว่าปกติประมาณ 2 - 3 สัปดาห์ และจะสิ้นสุดในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม
ลักษณะอากาศจะร้อนอบอ้าวโดยทั่วไป และจะมีอากาศร้อนจัดในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะช่วงกลางเดือนมีนาคมถึงปลายเดือนเมษายน สลับกับจะมีฝนฟ้าคะนองในหลายพื้นที่ ซึ่งจะช่วยคลายความร้อนลงได้
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยประเทศไทยตอนบนประมาณ 35.5 องศาเซลเซียส ซึ่งจะใกล้เคียงกับค่าปกติ (ค่าปกติ 35.4 องศาเซลเซียส) แต่จะสูงกว่าปีที่แล้ว (ช่วงฤดูร้อนปี พ.ศ.2565 อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 34.0 องศาเซลเซียส) และปริมาณฝนรวมเฉลี่ยจะใกล้เคียงค่าปกติ
ข้อควรระวัง ในช่วงฤดูร้อนของทุกปี มักจะเกิดพายุฤดูร้อนในหลายพื้นที่ โดยจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกบางแห่ง ซึ่งสภาวะดังกล่าวก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนผลผลิตทางการเกษตรได้ ส่วนปริมาณฝนที่ตกนั้น มีไม่เพียงพอกับความต้องการในหลายพื้นที่ ทั้งด้านอุปโภคและบริโภค รวมทั้งด้านเกษตรกรรม โดยเฉพาะพื้นที่ที่แล้งซ้ำซากนอกเขตชลประทาน ดังนั้นประชาชนจึงควรใช้น้าอย่างประหยัด และให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเตรียมการป้องกันสภาวะดังกล่าว
บริเวณประเทศไทยตอนบน ในระยะครึ่งแรกของเดือนมีนาคม จะมีอากาศร้อนหลายพื้นที่ในตอนกลางวัน กับมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ แต่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมตอนบนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่จะมีกาลังอ่อนและไม่ต่อเนื่อง
จากนั้นจนถึงปลายเดือนเมษายน จะมีอากาศร้อนอบอ้าวโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดในหลายพื้นที่ อุณหภูมิสูงที่สุด 40 - 43 องศาเซลเซียส และจะเกิดพายุฤดูร้อนในหลายพื้นที่ โดยจะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมทั้งอาจมีลูกเห็บตกลงในบางแห่ง ซึ่งจะช่วยคลายความร้อนลง เนื่องจากจะมีหย่อมความกดอากาศต่าเนื่องจากความร้อนปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนเป็นระยะๆ ประกอบกับจะมีตะวันออกเฉียงใต้หรือลมใต้พัดพาความชื้นจากทะเลอ่าวไทยเข้าปกคลุม
ส่วนช่วงปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ลักษณะอากาศจะแปรปรวน โดยยังคงมีอากาศร้อนอบอ้าวหลายพื้นที่ในบางช่วง กับจะมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ ทั้งนี้เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงใต้ที่หรือลมใต้พัดปกคลุม จะเริ่มเปลี่ยนเป็นมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมแทน
ภาคใต้ ช่วงต้นเดือนมีนาคมถึงปลายเดือนเมษายน จะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 30 ของพื้นที่ คลื่นลมทั้งทะเลอ่าวไทยและอันดามันจะมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ทั้งนี้เนื่องจาก ลมตะวันออกหรือลมตะวันออกเฉียงใต้จะพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้เกือบตลอดช่วง
จากนั้นจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม จะมีฝนตกชุกหนาแน่นเพิ่มขึ้นและต่อเนื่อง โดยเฉพาะฝั่งตะวันตกจะมีฝนตกร้อยละ 60 - 80 ของพื้นที่ กับจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากในบางแห่ง สาหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันจะมีกาลังแรงขึ้น ในบางช่วงจะมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร ส่วนทะเลอ่าวไทยยังคงมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร เนื่องจากลมตะวันออกหหรือลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ จะเปลี่ยนเป็นมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้แทน
ข้อควรระวัง อัคคีภัยและไฟป่า ในช่วงฤดูร้อนนี้ ลักษณะอากาศจะเอื้ออำนวยต่อการเกิดอัคคีภัยและไฟป่าได้ง่าย ประชาชนจึงควรต้องระมัดระวังการใช้เชื้อเพลิงในการทำกิจกรรมต่างๆ ไว้ด้วย
พายุไซโคลน ช่วงปลายเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม อาจมีหย่อมความกดอากาศต่ำก่อตัวขึ้นบริเวณทะเลอันดามัน ซึ่งอาจทวีกาลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชั่นและพายุไซโคลนได้ โดยมีการเคลื่อนตัวทางทิศเหนือค่อนไปทางตะวันออกและอาจเข้าใกล้ด้านตะวันตกของประเทศไทย ซึ่งทำให้บริเวณด้านตะวันตกของทั้งภาคเหนือและภาคกลาง รวมทั้งภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมาก อาจก่อให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พยากรณ์อากาศ 24 ชม.ข้างหน้า ทั่วปท. อากาศหนาวเย็น ’กทม.’ ต่ำสุด 16 องศาฯ
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีอากาศเย็นถึงหนาว
ประกาศฉบับ9 มวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอก ส่งผลอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ
กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนฉบับที่ 9 เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยรวมทั้งทะเลอันดามัน
อุตุฯเผยวันนี้ทั่วไทยอากาศหนาว อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
พยากรณ์อากาศวันนี้ 12 ม.ค. 2568 "อุตุฯ" ประกาศเตือนฉบับที่ 9 ไทยตอนบน - กทม.อากาศหนาว อุณหภูมิลด 1-3 องศาฯ เช็กรายชื่อจังหวัดฝนถล่ม
หนาวเย็นต่อเนื่อง กรมอุตุฯ ประกาศฉบับที่ 8 อุณหภูมิจะลดลงอีก 5-7 องศา
กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยรวมทั้งทะเลอันดามัน (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 13 มกราคม 2568) ฉบับที่ 8
เตรียมรับหนาวแรง 11-13 ม.ค. อุณหภูมิลด 5-7 องศา กทม.ลุ้นต่ำสุด 15 องศา
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ในช่วงวันที่ 10 – 13 ม.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ภาคใต้ตอนบน และทะเลจีนใต้ ลั
พยากรณ์อากาศ 15 วันล่วงหน้า ลมหนาวพัดแรง ยาวถึงปลายเดือน
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม. : (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 15 วันล่วงหน้า ระหว่าง 10 - 24 ม.ค. 68