18 ก.พ.2566 - กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระบุว่า ในวันที่ 18 ก.พ. 66 คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่
ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า
ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร และดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ไว้ด้วย
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันเริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้
ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 19 – 24 ก.พ. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า กับมีลมแรง
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 18 – 24 ก.พ. 66 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้
คาดหมายอากาศรายภาค
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 18 – 24 ก.พ. 66 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ ในวันที่ 18 ก.พ. 66 ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 13 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 – 34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3 – 14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในวันที่ 18 ก.พ. 66 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า โดยมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 15 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10 – 16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 19 - 24 ก.พ. 66 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14 – 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10 – 16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม.
ภาคกลาง ในวันที่ 18 ก.พ. 66 อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ส่วนในวันที่ 19 - 24 ก.พ. 66 มีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในวันที่ 18 ก.พ. 66 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 34 องศาเซลเซียส
ในช่วงวันที่ 19 - 24 ก.พ. 66 อากาศเย็นในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 19 - 24 ก.พ. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 35 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 19 – 24 ก.พ. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 36 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 18 – 19 ก.พ. 66 อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 20 – 24 ก.พ. 66 อากาศเย็นในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลง 1 – 2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.
นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการส่วนพยากรณ์อากาศกลาง กองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า พยากรณ์โอกาสการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อน บริเวณทะเลจีนใต้ มหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก และทะเลอันดามัน และพยากรณ์ฝน ทุกๆ 6 ชม. จาก ECMWF init.2023021712 : ภาคใต้ยังมีฝนฟ้าคะนอง บางพื้นที่ มีสัญญาณการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อนบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก โดยในขณะนี้ยังเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง บริเวณทางตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นได้ในระยะ 1- 2 วันนี้ แต่ไม่มีทิศทางเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย จึงไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด
สัปดาห์หน้าฝนยังน้อย ลมหนาวยังคงพัดปกคลุม มวลอากาศเย็นยังแผ่เสริมลงมาปกคลุมเป็นระยะๆ ไปถึงต้นเดือนหน้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กรมอุตุฯ อัปเดตพายุ 3 ลูก พร้อมพยากรณ์อากาศ 10 วันข้างหน้ายังมีฝนตก
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตภาพถ่ายดาวเทียม เช้าตรู่วันนี้ (14/11/67) ยังมีเมฆฝนบางส่วนบริเวณภาคอีสานตอนล่าง ภาคตะวันออก มีลมตะวันออก ตะวันออกเฉียงใต้ พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุม
วันนี้ต้องพกร่ม! กรมอุตุฯ ประเมินเจอฝน 10-30%ของพื้นที่
กรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าในลักษณะทั่วไป
กรมอุตุฯ พยากรณ์อากาศ 'วันลอยกระทง' เช็กจังหวัดมีฝนตก กทม. 30% ของพื้นที่
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศสำหรับวันลอยกระทงวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567
กทม.ร้องเพลงรอลมหนาวต่อไปซ้ำร้ายอุณหภูมิสูงขึ้นด้วย
กรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าในลักษณะทั่วไป
มาพร้อมกัน 2 ลูก! จับตาพายุ 'หยินซิ่ง-โทราจี' ถล่มทะเลจีนใต้
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนที่ปกคลุม
กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 13 ไต้ฝุ่น 'หยินซิ่ง' อ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อนแล้ว
นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ “หยินซิ่ง” ฉบับที่ 13 โดยมีใจความว่า