17 ก.พ.2566 - เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติเรื่อง การยกเว้นให้คนโดยสารไม่ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยในรถบางประเภท พ.ศ. 2566
โดยที่เป็นการสมควรกำหนดหลักเกณฑ์ในการบรรทุกคนโดยสาร การใช้อัตราความเร็วและการยกเว้นการรัดเข็มขัดนิรภัยสำหรับรถนั่งสองแถว รถบรรทุกคนโดยสารขนาดเล็กที่มีการจัดที่นั่งตามความยาวของรถ รถกระบะ และรถกึ่งกระบะ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่และการโดยสาร
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 123/1 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า
“ประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง การยกเว้นให้คนโดยสารไม่ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยในรถบางประเภท พ.ศ. ๒๕๖๖”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 ในประกาศนี้
“รถกระบะ” หมายถึง รถบรรทุกตามกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และให้รวมถึงรถยนต์กระบะสี่ประตู
“รถกึ่งกระบะ” หมายถึง รถกระบะที่มีพื้นที่ใส่สัมภาระด้านหลังที่นั่งคนขับ(Space Cab)
ข้อ 4 ในการใช้รถนั่งสองแถว รถบรรทุกคนโดยสารขนาดเล็กที่มีการจัดที่นั่งตามความยาวของรถ รถกระบะ รถกึ่งกระบะ หากได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ ให้คนโดยสารที่อยู่ในรถยนต์นั้นนอกจากคนโดยสารที่นั่งแถวตอนหน้า ได้รับยกเว้นไม่ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัย
4.1 จ านวนการบรรทุกคนโดยสาร
(1) รถนั่งสองแถว รถบรรทุกคนโดยสารขนาดเล็กที่มีการจัดที่นั่งตามความยาวของรถให้บรรทุกคนโดยสารในที่นั่งตอนสองแถวได้ไม่เกินจำนวนที่กำหนดไว้สำหรับรถแต่ละประเภทนั้นตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก
(2) รถกระบะ และรถกึ่งกระบะ บรรทุกคนโดยสารในตอนท้ายกระบะได้ไม่เกิน 6 คน
(3) รถกึ่งกระบะ บรรทุกคนโดยสารในตอนพื้นที่ใส่สัมภาระด้านหลังที่นั่งคนขับ(Space Cab) ได้ไม่เกิน3 คน
4.2 การโดยสารนั้นต้องไม่มีการยืนหรือนั่งโดยสารในลักษณะที่เป็นการเสี่ยงภัยดังนี้
(1) รถนั่งสองแถว และรถบรรทุกคนโดยสารขนาดเล็กที่มีการจัดที่นั่งตามความยาวของรถต้องจัดให้ผู้โดยสารปฏิบัติดังต่อไปนี้ ตลอดการโดยสาร
ก. นั่งโดยสารในที่นั่งที่กำหนดสำหรับรถประเภทนั้น
ข. ห้ามนั่งโดยสารเกินจำนวนที่นั่ง
ค. ห้ามนั่งบนอุปกรณ์ที่เพิ่มเติม นอกเหนือที่นั่งที่กำหนดไว้
ง. ห้ามยืนโดยสารไม่ว่าตอนใดของรถ
จ. ไม่ยื่นส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายออกนอกตัวรถในขณะนั่งโดยสาร
(2) รถกระบะ และรถกึ่งกระบะ ต้องจัดให้ผู้โดยสารปฏิบัติดังต่อไปนี้
ตลอดการโดยสาร
ก. กรณีนั่งในบริเวณกระบะ ต้องปิดฝากระบะท้าย
ข. ห้ามนั่งริมขอบกระบะ
ค. ห้ามนั่งซ้อนผู้โดยสารอื่น หรือนั่งบนสิ่งของที่บรรทุกในรถ
ง. ห้ามยืนโดยสารไม่ว่าตอนใดของรถ
จ. ไม่ยื่นส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายออกนอกตัวรถในขณะนั่งโดยสาร
4.3 ในขณะที่มีการบรรทุกคนโดยสาร ผู้ขับขี่ต้องใช้อัตราความเร็ว ดังต่อไปนี้
(1) รถนั่งสองแถว ให้ใช้อัตราความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
(2) รถบรรทุกคนโดยสารขนาดเล็กที่มีการจัดที่นั่งตามความยาวของรถให้ใช้อัตราความเร็วไม่เกิน 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
(3) รถกระบะและรถกึ่งกระบะ กรณีที่มีผู้โดยสารนั่งท้ายกระบะ ให้ใช้อัตราความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ใกล้ขอบทางเดินรถด้านซ้าย เว้นแต่ ในช่องเดินรถนั้นมีสิ่งกีดขวางหรือถูกปิดการจราจร หรือจะต้องเข้าช่องทางให้ถูกต้องเมื่อเข้าบริเวณใกล้ทางร่วมทางแยก หรือเมื่อจะแซงขึ้นหน้ารถคันอื่น
ประกาศณ วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2566
พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ขรก.ฝ่ายศาลปกครอง ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ 3 ราย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง แต่งตั้งข้าราชการฝ่ายศาลปกครอง
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง 9 ขรก.ประเภทบริหารระดับสูง สังกัดกระทรวงการคลัง
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ขรก.สังกัดมหาดไทย ประเภทบริหารระดับสูง 25 ราย
กิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
ราชกิจจาฯ เผยแพร่หลักเกณฑ์การแต่งตั้ง-พ้นจากตำแหน่ง 'นางสนองพระโอษฐ์'
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศเรื่อง การดำรงตำแหน่งนางสนองพระโอษฐ์ ข้าราชบริพารในพระองค์
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งพันเอกหญิงคุณหญิงมนัสสิยา ทิพยวชิราภักดิ์ เป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษ
ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 141 ตอนพิเศษ 313 ง ลงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 ประกาศ ให้นายทหารสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษ
โปรดเกล้าฯ กำหนดหลักเกณฑ์ผู้ดำรงตำแหน่ง 'นางสนองพระโอษฐ์' ดำรงตำแหน่งมีวาระ 3 ปี
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ หลักเกณฑ์กำหนดการดำรงตำแหน่ง “นางสนองพระโอษฐ์” ให้มีวาระ 3 ปี เว้นแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ต่อเวลาอีกคราวละ 3 ปี