โฆษกรัฐบาลเผยผลสำรวจดัชนีการรับรู้การทุจริตปี 2565 ไทยอันดับโดยรวมดีขึ้น 9 อันดับจากปีก่อนหน้า อยู่ในอันดับ 101 และอยู่ในอันดับที่ 4 ของอาเซียน
16 ก.พ.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ผลการสำรวจดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index: CPI) ประจำปี 2565 ขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International: TI) ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 101 ของโลกจาก 180 ประเทศทั่วโลก มีคะแนนเพิ่มขึ้นเป็น 36 คะแนน ดีขึ้นจากปี 2564 ที่อยู่อันดับ 110 ได้ 35 คะแนน ถือเป็นอันดับที่ 4 ของกลุ่มประเทศอาเซียน
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ปี 2565 ผลการสำรวจดัชนีการรับรู้การทุจริตของไทยเป็นการประเมินจาก 9 แหล่งข้อมูล โดยไทยได้คะแนนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า (พ.ศ. 2564) 2 แหล่ง คือ IMD World Competitiveness Yearbook (IMD) เพิ่มขึ้นจาก 39 เป็น 43 คะแนน และ World Economic Forum (WEF) เพิ่มขึ้นจาก 42 เป็น 45 คะแนน ในขณะที่แหล่งข้อมูลที่คะแนนคงที่มี 5 แหล่ง คือ 1) Varieties of Democracy Institute ที่ 26 คะแนน 2) Bertelsmann Foundation Transformation Index ที่ 37 คะแนน 3) Economist Intelligence Unit Country Risk Ratings ที่ 37 คะแนน 4) Global Insight Country Risk Ratings ที่ 35 คะแนน และ 5) PRS International Country Risk Guide ที่ 32 คะแนน ทั้งนี้ แหล่งข้อมูลที่ได้รับคะแนนลดลงจากปีก่อน 2 แหล่ง คือ The Political and Economic Risk Consultancy ลดลงจาก 36 เป็น 35 คะแนน และ World Justice Project Rule of Law Index ลดลงจาก 35 เป็น 34 คะแนน
โฆษกรัฐบาลกล่าวเพิ่มเติมว่า การรวบรวม CPI นั้นครอบคลุมการคอร์รัปชันของภาครัฐ อาทิ การติดสินบน การแปลงงบประมาณ (Diversion of public funds) เจ้าหน้าที่ใช้สำนักงานของรัฐเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวโดยไม่ต้องเผชิญกับผลที่ตามมา ความสามารถของรัฐในการควบคุมการทุจริตในภาครัฐ กฎหมายที่รับรองว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องเปิดเผยข้อมูลทางการเงินและผลประโยชน์ทับซ้อนที่อาจเกิดขึ้น และการคุ้มครองทางกฎหมายสำหรับผู้ที่รายงานกรณีการติดสินบนและการทุจริต เป็นต้น
“นายกฯ ให้ความสำคัญ และผลักดันการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันเป็นวาระแห่งชาติ โดยได้บรรจุแนวทางการแก้ไขไว้ในทุกระดับ ทั้งระดับชาติ จนไปถึงแผนระดับรอง เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการทุจริตอย่างจริงจัง และเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งสั่งการ และกำชับให้แก้ปัญหาอย่างต่อเนื่องและจริงจังมาโดยตลอด รวมทั้งกำชับการทำงานของทุกหน่วยงาน ให้ทำงานด้วยความโปร่งใส และตรวจสอบได้ รวมทั้งสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน จากการนำระบบดิจิทัลเข้ามาใช้ สร้างความตื่นตัวให้ภาคประชาชนในการจับตามองการดำเนินการของหน่วยงานภาครัฐ” นายอนุชา กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ สั่งโชว์ความจริงสิทธิมนุษยชนไทยให้โลกเห็นในการไปดูชีวิตชาวอุยกูร์
'จิรายุ' เผย 'ภูมิธรรม' ยกคณะบินเยี่ยมอุยกูร์แล้ว นายกฯกำชับสื่อสารความจริงด้านสิทธิมนุษยชน ของไทยให้นานาประเทศเห็น
'ดร.ชิดตะวัน' เตือนระวังนรกบนดินซ้ำรอยตุรกีหากดันทุรังเปิดกาสิโน!
ดันทุรังเปิดกาสิโน จะสร้างนรกบนดินตามรอยตุรกี นักเศรษฐศาสตร์กางข้อมูล พบเปิดได้แค่ 6 ปี สุดท้ายรัฐสภาต้องออกกฎหมายปิดหมด หลังคอร์รัปชันเบ่งบาน แก๊งมาเฟียครองเมือง ศูนย์กลางแหล่งฟอกเงินดำ
'TikTok' ทุ่มเงินลงทุน 3 แสนล้าน ดันซอฟพาวเวอร์ไทยกระหึ่มโลก
'TikTok' ประกาศทุ่มเงินกว่า 3 แสนล้านบาท เดินหน้าลงทุนในไทย พร้อมสนับสนุนนวัตกรรม-เศรษฐกิจดิจิทัล ทั้งสินค้าโอทอป และซอฟพาวเวอร์ไทย ผ่านแพลตฟอร์มให้กระหึ่มโลก
นายกฯ อิ๊งค์เตรียมจ้อผ่านจอ 2 มี.ค.เรื่องเศรษฐกิจ!
'นายกฯอิ๊งค์' เตรียมจ้อหน้าจออัปเดตเศรษฐกิจไทย - โอกาสการลงทุน- อนาคตเกษตรกร ในรายการ 'โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร' วันอาทิตย์ 2 มี.ค.นี้
'สมชาย' ยกดัชนีคอร์รัปชันปี67 ถามคนไทย รัฐบาลจะสร้าง 'กาสิโน' ทำได้แบบสิงคโปร์หรือ
นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ดัชนีคอรัปชั่น ดูสิงคโปร์แล้วย้อนดูตัว
'เทพไท' ชี้ดัชนีความโปร่งใสไทยรั้งท้ายเพราะจุดเริ่มต้นมาจากการซื้อเสียง!
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช