13 ก.พ. 2566 – นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบและยินดีที่ประเทศไทยเป็นสถานที่ยอดนิยมที่ต่างประเทศมักเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ ทำให้สถานที่สวยงามของไทยเป็นที่รู้จัก เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ รวมทั้งยังมีส่วนในการกระจายรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว และกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศไปในโอกาสเดียวกันด้วย
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า จากรายงานของกองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า ในปี 2565 มีการถ่ายทำภาพยนต์ต่างประเทศในประเทศไทยถึง 348 เรื่อง โดยเดือนกันยายน และพฤศจิกายน 2565 มีการถ่ายทำสูงสุดที่ 42 เรื่อง ในขณะที่ล่าสุด เดือนมกราคม 2566 มีการถ่ายทำไปแล้วถึง 34 เรื่อง สร้างรายได้ให้ประเทศกว่า 298.11 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคม 2566)
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย ภาครัฐยังได้ให้การสนับสนุนเป็นสิทธิประโยชน์ในรูปแบบการคืนเงิน (Cash Rebate) ตามมติคณะรัฐมนตรี (7 ก.พ. 2566) ร้อยละ 20-30 เป็นระยะเวลา 2 ปี สิทธิประโยชน์หลักอยู่ที่ร้อยละ 20 เมื่อมีการลงทุนในประเทศไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท ส่วนสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมรวมแล้วไม่เกินร้อยละ 10
นายอนุชา กล่าวว่า ยังมีการปรับเพิ่มการคืนเงินจากเดิม 75 ล้านบาท/เรื่อง เป็น 150 ล้านบาท/เรื่อง จะทำให้เพดานเงินลงทุนสร้างภาพยนต์ต่อเรื่องเพิ่มเป็น 750 ล้านบาท จากเดิม 375 ล้านบาท เพื่อเป็นการรับกับแนวโน้มที่คณะถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศที่เข้ามาในไทยเป็นผู้สร้างรายใหญ่ เงินทุนสูง โดยเฉพาะภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์
ทั้งนี้ ในปี 2565 ที่ผ่านมา จังหวัดสถานที่ถ่ายทำยอดฮิตของกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต สมุทรปราการ เชียงใหม่ และพังงา โดยรัฐบาลได้ให้การสนับสนุนงบประมาณในการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย รวมถึงในการจ่ายเงินคืนให้ผู้ผลิตภาพยนตร์ต่างชาติ โดยในช่วง 7 ปี (พ.ศ. 2560-2566) มีภาพยนตร์จำนวนกว่า 45 เรื่องที่เข้าร่วมมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย นำรายได้เข้าประเทศเกือบ 9 พันล้านบาท หมุนเวียนเศรษฐกิจในอัตราทวีคูณถึงกว่า 17,000 ล้านบาท
“นายกรัฐมนตรีเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย ซึ่งสะท้อนมาจากความเชื่อมั่นในอดีตที่ผ่านมา ไทยมีศักยภาพของสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ที่มีความหลากหลาย ความสามารถของบุคลากรในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย เสริมภาพลักษณ์ประเทศตามนโยบาย Soft Power ทั้งนี้ รัฐบาลเชื่อมั่นว่า มาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยจะเป็นอีกหนึ่งในมาตรการที่เกิดประโยชน์ต่อประเทศและคุ้มค่า เพราะรายได้ที่ได้รับจะส่งถึงประชาชนในพื้นที่ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำทั่วประเทศ” โฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไทยบนเส้นทาง Data Center Hub: ปลดล็อคศักยภาพ สู่ "Digital Thailand" อย่างยั่งยืน
ปี 2567 นับเป็นปีแห่งจุดเปลี่ยนสำคัญบนแผนที่ Data Center โลก เมื่อยักษ์ใหญ่สายเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น AWS, Microsoft, Google ต่างประกาศลงทุนสร้าง Data Center ในประเทศไทย
ผู้สูงอายุไทยหลังเกษียณงานอายุ 60 ยังมีโอกาสทำงานต่อไปได้อีกกี่ปี?
ในปีพ.ศ. 2567 นี้ ประเทศไทยได้กลายเป็นสังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง ประชากรคนไทยทั้งหมด 100 คน จะมีผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป 20 คน และผู้สูงอายุเหล่านี้จะมีอายุขัยหรือชีวิตยืนยาวไป อีกประมาณ 21 ปี ช่วงชีวิตที่ยืนยาวต่อไปนี้
'อิ๊งค์' คุย กกร. ชื่นมื่น! ปลื้มอวย 'พ่อนายกฯ' แก้เศรษฐกิจเก่งสุด
นายกฯ คุย ‘กกร.’ รับข้อเสนอแก้เศรษฐกิจ จับมือเอกชนหารายได้ใหม่เข้าประเทศ ด้าน ‘สนั่น’ เชื่อมั่นรัฐบาลอิ๊งค์ พร้อมช่วยดันจีดีพีโต ชมเปาะ 'ทักษิณ' เก่งสุด
ภาพรวมความยิ่งใหญ่ 'โมโตจีพี'ประเทศไทย อลังการทั้งใน-นอกสนาม
เข้าสู่โปรแกรมการแข่งขันอย่างยิ่งใหญ่ ของศึกกรังด์ปรีซ์อันดับหนึ่งของโลก รายการ “PT Grand Prix of Thailand 2024” ระหว่าง 25- 27 ตุลาคม 2567 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ สนามที่ 18 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ล่าสุด เข้าสู่โปรแกรมการควอลิฟายของทุกรุ่น แฟนความเร็วหลายหมื่นคนหลั่งไหลเข้าสู่สนามอย่างต่อเนื่อง รัฐ-เอกชนผนึกกำลังต้อนรับอย่างดีเยี่ยมทุกมิติ ชูเสน่ห์กีฬา-อาหาร-วัฒนธรรม-ท่องเที่ยวและวิถีชีวิตอย่างไทยครบวงจร