รองโฆษกรัฐบาล เผยกลางปีนี้ เชื่อมต่อพื้นที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) เปิดให้บริการต้นปี 67 หวังยกระดับ “บึงกาฬ”เป็นศูนย์กลางด้านการค้าในภูมิภาค ชี้ “พล.อ.ประยุทธ์”เน้นสร้างความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนสองประเทศ
28 ม.ค.2566 - น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เร่งขับเคลื่อนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศไทย ทั้ง 4 มิติ คือ บก ราง น้ำ และอากาศ เชื่อมโยงการเดินทางสู่ภูมิภาคอาเซียนอย่างไร้รอยต่อ ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยวในภูมิภาค ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้สามารถเข้าถึงการเดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยด้วยระบบการคมนาคมขนส่งที่มีประสิทธิภาพ
โดยคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2562 มีมติอนุมัติโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) มูลค่าการลงทุน 3,930 ล้านบาท โดยรัฐบาลไทยใช้งบประมาณลงทุน 2,630 ล้านบาท ส่วน สปป.ลาวใช้เงินกู้จากสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) หรือเนด้า วงเงินลงทุน 1,300 ล้านบาท รวมเงินลงทุนก่อสร้าง ระยะทางรวม 16.18 กิโลเมตร แยกเป็นงานก่อสร้างฝั่งไทย 12 กิโลเมตร และฝั่งลาว 2.8 กิโลเมตร
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า สำหรับสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 ปัจจุบันมีความคืบหน้าในการก่อสร้างเร็วกว่ากำหนดเกิน 60 % แล้ว โดยพล.อ.ประยุทธ์ และนายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ร่วมเป็นประธานพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการฯ ไปเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ที่พล.อ.ประยุทธ์ ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ คาดว่าจะเชื่อมต่อพื้นที่สะพานได้ประมาณกลางปี 2566 และเปิดให้บริการได้ประมาณต้นปี 2567 เมื่อเปิดให้บริการจะช่วยยกระดับให้ จ.บึงกาฬ กลายเป็นศูนย์กลางด้านการค้า ในภูมิภาค เพิ่มศักยภาพในการขนส่ง เดินทางสะดวกและประหยัดเวลามากยิ่งขึ้น ดึงดูดการค้าการลงทุนและส่งเสริมการท่องเที่ยว
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เส้นทางแห่งนี้จะเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างสามประเทศ คือ ไทย สปป. ลาว และเวียดนามที่สั้นที่สุดในระยะทางเพียง 150 กิโลเมตร โดยผ่านสะพานและทางหลวงแห่งชาติลาว หมายเลข 8 ทั้งยังช่วยส่งเสริมการขนส่งพัฒนาเศรษฐกิจการค้าสู้ฝั่งตะวันออกที่ทะเลจีนใต้ตามกรอบการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Subregion : GMS) ที่เป็นความร่วมมือของ 6 ประเทศ คือ ไทย พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีน (ยูนนาน)และช่วยสนับสนุนการส่งออกสินค้าระหว่าง 2 ประเทศได้อย่างรวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น
“พล.อ.ประยุทธ์เน้นเสริมสร้างความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม สร้างความมั่นคงให้เศรษฐกิจ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนทั้งสองประเทศและภูมิภาค อย่างยั่งยืน”รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทีมโทรโข่งรัฐบาล ติวเข้มโฆษกกระทรวงส่ง 'ข่าวดี' ทุกสัปดาห์ เร่งตีปี๊บผลงาน 3 เดือน
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายคารม พลพรกลาง นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
นายกฯอิ๊งค์ แถลงผลงานรัฐบาลรอบ 100 วัน 12 ธ.ค.นี้
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแถลงผลงานรัฐบาลในรอบ 100 วันจะเป็นช่วงใด ว่า ประมาณเดือน ธ.ค.
'ดุสิตโพล' เปิดดัชนีการเมืองล่าสุด พบผลงาน แพทองธาร พุ่งเด่น ฝ่ายค้านคะแนนตก
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนตุลาคม 2567” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,136 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 25-30 ตุลาคม 2567 พบว่า กลุ่มตัวอย่างให้คะแนนภาพรวมดัชนีการเมืองไทยประจำเดือนตุลาคม 2567 เฉลี่ย 5.01 คะแนน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2567 ที่ได้ 4.80 คะแนน
'นิด้าโพล' ชี้ประชาชนไม่พอใจผลงาน 9 เดือนรัฐบาลเศรษฐา
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “ขอถามบ้าง … 9 เดือน รัฐบาลนายกฯ เศรษฐา” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 มิถุนายน 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ
'เศรษฐา' พอใจผลงานรัฐบาล 6 เดือน ชูโพลสนง.สถิติแห่งชาติชี้เรตติ้งดีขึ้น
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงผลงาน 6 เดือนรัฐบาลมีอะไรต้องปรับเพิ่มเติม และอะไรคือผลงานที่โดดเด่นที่สุดในสายตาของนายกฯ หลังโพลของรัฐบาลโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุเรตติ้งดีขึ้น
'เพื่อไทย' ชี้โพลสนง.สถิติฯ คนถูกใจนโยบายรัฐบาล ไม่ได้หวังแย้งโพลพระปกเกล้า
นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยผลสำรวจประชาชนที่พอใจผลงานรัฐบาลในรอบ 6 เดือน