ครม.รับทราบรายงานผลการประชุม รมต.แรงงานอาเซียน ครั้งที่ 27 เดินหน้าฟื้นฟูแรงงานหลังโควิด พร้อมเห็นชอบรับรองเอกสาร 2 ฉบับ
25 ม.ค.2566 - น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ประชุม ครม.มีมติรับทราบรายงานผลการประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียน (ASEAN Labour Ministers’ Meeting: ALMM) ครั้งที่ 27 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ภายใต้หัวข้อหลัก “รวมกันเป็นหนึ่ง พลิกโฉมโลกแห่งการทำงานในประชาคมอาเซียนสู่การเติบโต และฟื้นฟูด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีส่วนร่วมและยั่งยืน” และเห็นชอบต่อการรับรองเอกสาร 2 ฉบับ คือ ร่างแถลงการณ์ร่วม (Joint Communique) ของการประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 27 และร่างถ้อยแถลงร่วม (Joint Statement) ของการประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนบวกสาม (ASEAN Plus Three Labour Ministers’ Meeting: ALMM+3) ครั้งที่ 12
ทั้งนี้ การประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนครั้งที่ 27 มีสาระสำคัญของการประชุม เช่น เน้นย้ำวัตถุประสงค์ของการประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนที่จะนำปัญหาของแรงงานมาแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การจ้างงาน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และคุณภาพชีวิตในการทำงาน และนโยบายเพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 โดยกระทรวงแรงงานได้กล่าวถ้อยแถลงเกี่ยวกับมาตรการทางสาธารณสุขของไทย เช่น การดูแลแรงงานให้เข้าถึงการรักษา บริการทางการแพทย์และสถานพยาบาลอย่างเท่าเทียมและทั่วถึงโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย การดำเนินการโครงการ Factory Sandbox และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 3 การประชุม ดังนี้
1. การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสแรงงานอาเซียน (Senior Labour Officials’ Meeting: SLOM) ครั้งที่ 18 โดยมีสาระสำคัญของการประชุม เช่น การติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของกรอบความร่วมมือบูรณาการระหว่างภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น กรอบคุณวุฒิอ้างอิงของอาเซียนควรมีการวางแผนร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิกเพื่อให้มีแนวทางที่เอื้อต่อการเคลื่อนย้ายแรงงานในภูมิภาคโดยคำนึงถึงความแตกต่างของระดับทักษะ การรายงานผลการดำเนินงานตามปฏิญญาอาเซียนและแถลงการณ์ของรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนที่เกี่ยวข้อง จำนวน 8 ฉบับ เช่น การรับรองปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการเชื่อมโยงสิทธิประกันสังคมสำหรับแรงงานข้ามชาติในภูมิภาคอาเซียนโดยประเทศสมาชิกแล้ว
2. การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสแรงงานอาเซียนบวกสาม (Senior Labour Officials’ Meeting + 3: SLOM + 3) ครั้งที่ 20 โดยมีสาระสำคัญของการประชุม เช่น การหารือและรายงานความคืบหน้าความร่วมมือ/โครงการ/กิจกรรมที่เกี่ยวข้องภายใต้กรอบความร่วมมือด้านแรงงาน รวมถึงหารือเกี่ยวกับการจัดการประชุม SLOM + 3 ครั้งที่ 21 ที่จะจัดขึ้นในเดือนตุลาคม 2566 โดยมีประเทศบรูไนเป็นเจ้าภาพ โดยจีนสนับสนุนด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการให้ความคุ้มครองสิทธิของแรงงาน ญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และเกาหลีใต้ให้ความสำคัญกับบทบาทของภาครัฐในการสร้างงานสร้างอาชีพและปัญหาภาวะโลกร้อน
3. การประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนบวกสาม (ASEAN Plus Three Labour Ministers’ Meeting: ALMM+3) ครั้งที่ 12 โดยมีสาระสำคัญของการประชุม เช่น การกล่าวถ้อยแถลงของกระทรวงแรงงานที่มุ่งเน้นความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในปัจจุบัน เช่น นโยบายเร่งพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้มีความรู้ด้านดิจิทัล ปรับรูปแบบการฝึกอบรมแรงงานให้สอดคล้องกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น การเข้าถึงการฝึกอบรม ในรูปแบบออนไลน์) รวมถึงการรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ของ ALMM ครั้งที่ 27 และร่างถ้อยแถลงร่วมฯ ของการประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนบวกสาม (ASEAN Plus Three Labour Ministers’ Meeting: ALMM+3) ครั้งที่ 12
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ร่างแถลงการณ์ร่วม (Joint Communique) ของการประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 27 ที่ ครม. มีมติเห็นชอบรับรอง เป็นเอกสารแสดงความมุ่งมั่นของรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนในการขับเคลื่อนถ้อยแถลงร่วมระดับรัฐมนตรีเพื่อตอบสนองต่อการฟื้นฟูด้านแรงงานภายหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1.ส่งเสริมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและส่งเสริมดิจิทัล โดยใช้กรอบการบูรณาการด้านดิจิทัลของอาเซียนในการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและปรับตัวต่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีให้กับแรงงานอาเซียน
2.ส่งเสริมการพัฒนาเกษตรกรรมที่ทันสมัย เพื่อนำไปสู่ความมั่นคงทางด้านอาหาร ยกระดับผลผลิตให้มีประสิทธิผลและประสิทธิภาพ ส่งเสริมกิจการให้มีความยั่งยืนโดยใช้เทคโนโลยีสีเขียว เพื่อก่อให้เกิดการจ้างงานที่สำคัญและมีคุณค่า
3.ปฏิรูประบบการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์แรงงานอาเซียนมีทักษะและพร้อมสำหรับการจ้างงาน รวมทั้งให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะเดิม เพิ่มเติมทักษะใหม่และส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
4.ส่งเสริมการปกป้องสิทธิและความเป็นอยู่ที่ดีของแรงงาน รวมถึงให้ความสำคัญกับกระบวนการเคลื่อนย้ายแรงงานในภาพรวมเพื่อปกป้องแรงงานข้ามชาติ
5.การยกระดับฐานข้อมูลระดับภูมิภาคด้านแรงงาน โดยจัดทำดัชนีผลิตภาพแรงงานอาเซียนและสถิติการจ้างงานนอกระบบอาเซียน
6.การรับรองเอกสารในการประชุม 2 ฉบับ ได้แก่ 1. ปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการเชื่อมโยงสิทธิประกันสังคมสำหรับแรงงานข้ามชาติในภูมิภาคอาเซียน โดยให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงสิทธิประกันสังคมของแรงงานต่างด้าว จากประเทศปลายทางไปยังประเทศบ้านเกิดของตนเองให้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นธรรมตามมติ ครม. วันที่ 5 ตุลาคม 2565 และ 2.แนวทางอาเซียนว่าด้วยการให้คำปรึกษาและการตรวจหาเชื้อเอชไอวีในสถานประกอบการ เพื่อสนับสนุนให้ภาคธุรกิจมีส่วนร่วมในการพัฒนาและขับเคลื่อนโยบายไปสู่การปฏิบัติ เพื่อส่งเสริมมาตรฐานด้านสุขภาพและความปลอดภัยในสถานที่ทำงานตามมติ ครม. วันที่ 25 ตุลาคม 2565
“นอกจากนี้ วันนี้ ครม. ยังมีมติเห็นชอบร่างถ้อยแถลงร่วมฯ ของการประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ 12 ซึ่งเป็นเอกสารแสดงการแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างประเทศอาเซียนบวกสาม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแข่งขัน การพัฒนาฝีมือแรงงาน และความสามารถ ในการปรับตัวของแรงงานในอนาคตของงานภายหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 และการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ซึ่งได้รับงบฯ และการสนับสนุนทางวิชาการจากจีน ญี่ปุ่น และประเทศเกาหลีใต้” น.ส.ทิพานัน กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลยันผู้ปลูกมันสำปะหลังไม่ถูกกดราคาแน่
รัฐบาลให้ความเชื่อมั่นผู้ปลูกมันสำปะหลัง เตือนพ่อค้ากดราคา โทษจำคุกสูงสุด 7 ปี จัดสายตรวจเฉพาะกิจ ลงพื้นที่ตรวจสอบการซื้อขายมันฯ ในแหล่งเพาะปลูกทั่วประเทศ รับฤดูเก็บเกี่ยวที่จะเริ่ม ธ.ค.นี้
รัฐบาลโอ่ผลงานยกระดับเส้นทางสู่ภาคตะวันออกเชื่อมโยงอีอีซี
รัฐบาลยกระดับเส้นทางสู่ภาคตะวันออก เพิ่มประสิทธิภาพการจราจร เชื่อมโยงอีอีซี ล่าสุดกรมทางหลวงขยาย 4 ช่องจราจร ทล.3481 ตอน บ้านหัวไผ่ - การเคหะฯ จังหวัดปราจีนบุรี แล้วเสร็จ
อย่าหลงเชื่อ! มิจฉาชีพใช้โซเชียลหลอกไปทำงานฟาร์มออสเตรเลีย
รัฐบาลเตือนภัยอย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพใช้โซเชียลหลอกทำงานฟาร์มออสเตรเลีย ย้ำรัฐบาลออสเตรเลีย ยังไม่มีความร่วมมือกับไทยด้านการส่งแรงงานและยังไม่มีนโยบายการออกวีซ่าเกษตรให้กับคนไทย
ข่าวดี! สปสช.เห็นชอบเพิ่มสัดส่วนล้างไตผ่านช่องท้องรายใหม่ 50%
'คารม' เผย บอร์ด สปสช. เห็นชอบข้อเสนอพัฒนาระบบมาตรฐานและคุณภาพของนโยบายล้างไต เพิ่มสัดส่วนผู้ป่วยล้างไตผ่านช่องท้องรายใหม่ 50% ดูแลผู้ป่วยไตวายเรื้อรังมีความยั่งยืน
ก.อุตฯ ลุยเสริมทักษะเอสเอ็มอีกว่า 200 ราย
'ศศิกานต์' เผย ก.อุตฯ เดินหน้าส่งเสริมเอสเอ็มอีกว่า 200 ราย เสริมทักษะ เพิ่มขีดการแข่งขัน เน้นดิจิทัลและความยั่งยืน คาดดันเศรษฐกิจโตกว่า 62 ล้านบาท
อึ้ง! ร้องเรียนโจรชวนลงทุนออนไลน์วันละกว่า 3.2 พันสาย
รองโฆษกรัฐบาล เตือนภัย 'มิจฉาชีพชวนลงทุนออนไลน์' พบผู้เสียหายโทรแจ้งอาชญากรรม ผ่านศูนย์ AOC เฉลี่ยวันละ 3,206 สาย ดำเนินการระงับบัญชีวันละ 1,130 บัญชีต่อวัน