'เด็กเพื่อไทย' เห็นด้วยกฎหมายปราบอาชญากรรมไซเบอร์แต่ข้องใจทำไมเพิ่งมาออก

'เพื่อไทย' ข้องใจรัฐบาลเพิ่งออก พ.ร.ก.อาชญากรรมไซเบอร์ทั้งที่มีอำนาจเต็ม เห็นด้วยกับกฎหมายแต่ยังติดใจใน 2 เรื่อง พร้อมจี้ 'ชัยวุฒิ' ปราบแก๊งต้มตุ๋น

25 ม.ค.2566 - นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566 อนุมัติร่างพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ ว่าเหตุใดรัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอยู่มา 8 ปีเพิ่งจะคิดทำเอาตอนนี้ ทั้งที่การออก พ.ร.ก.เป็นอำนาจเต็มของรัฐบาลที่ทำได้ทันที และทุกภาคส่วนก็เรียกร้องให้ดำเนินการปราบปรามอย่างจริงจังมานานมากแล้ว

“ที่ผ่านมาเกิดปัญหาภัยไซเบอร์มากมาย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีดีอีเอส ที่มีอำนาจอยู่เต็มมือ ต้องอธิบายกับสังคมให้ได้ว่าจงใจปล่อยปละละเลยไม่ดำเนินการให้เด็ดขาดหรือไม่ หรือดำเนินการล่าช้าเพราะอยู่ภายใต้รัฐบาลที่ทำงานไม่เป็น จนเกิดเป็นหลักฐานความล้มเหลวคาตาประชาชนมากมาย ทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บไซต์หลอกลวงและพนันออนไลน์ แอปพลิเคชันฝังมัลแวร์ล้วงข้อมูลประชาชนตลอดจนคดีออนไลน์กว่า 114,000 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 22,000 ล้านบาท”

นายชนินทร์กล่าวอีกว่า เห็นด้วยกับเนื้อหาหลายส่วนใน พ.ร.ก. แต่ยังมีข้อกังวล 2 ประการเกี่ยวกับ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีว่า 1.มีหน้าที่และอำนาจอย่างไรบ้าง เพราะควรมีความพอดีในอำนาจสิทธิ์ขาด อย่าให้เกิดการให้อำนาจล้นจนละเมิดความเป็นส่วนตัวของประชาชน และ 2.จะมีส่วนช่วยให้การแก้ปัญหาให้รวดเร็วขึ้นได้อย่างไร เพราะปัญหาเดิมที่แก้ไม่ได้คือความล่าช้าและไม่จริงใจในการดำเนินการ ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอท. รวมถึง ปปง. ทำงานเหนื่อยอยู่ปลายทางไปเรื่อยๆ แต่ไม่มีการแก้ไขเชิงรุก หรือเข้าไปดำเนินปิดกั้นเว็บไซต์ - แอปพลิเคชันที่ผิดกฎหมายอย่างรวดเร็ว เช่น แอปพลิเคชันล้วงข้อมูลกว่า 200 แอปที่มีการตรวจพบแล้ว แต่กลับไม่มีการขยายผลสร้างระบบป้องกัน ทำเพียงประกาศให้ประชาชนสำรวจด้วยตัวเอง หรือกรณีมีการพัฒนาแอปเตือนเบอร์โทรศัพท์เข้าที่มีความเสี่ยงเป็นเบอร์หลอกลวง ที่รัฐมนตรีเคยอ้างว่ากำลังพัฒนาอยู่ ก็ไม่เห็นมีความคืบหน้า ปล่อยให้ประชาชนโดนหลอกลวงซ้ำซากอยู่รายวัน สูญเสียทั้งทรัพย์สิน และชีวิตไปไม่น้อย

“รัฐมนตรีดีอีเอสต้องทำให้ชาวโลกเห็นว่า ประเทศไทยไม่ใช่สวรรค์ของธุรกิจสีเทา ไม่ใช่ประเทศที่คนพวกนี้จะเข้ามาหาประโยชน์จากพี่น้องประชาชนจนเฟื่องฟู พวกเขารวยขึ้น แต่คนไทยถูกหลอกจนหมดตัว ประเทศไทยต้องไม่เป็นฐานที่มั่นของแก๊งต้มตุ๋นหลอกลวงอีกต่อไป”นายชนินทร์กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สส.เพื่อไทย ดักคอ 'ก้าวไกล' เสนอเพิ่มวันประชุมสภาฯ อย่าหวังเอาคะแนนลอยๆ

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวกรณีที่ฝ่ายค้านเสนอให้เพิ่มวันประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาพิจารณากฎหมายสำคัญให้มากขึ้นว่า ขณะนี้ยังไม่มีการหารือกัน แต่หากย้อนไปดูในอดีต เราจะมีการประชุมสภาฯ