ชาวบางกลอยเตรียมคืนถิ่นป่าใหญ่ ทำไร่หมุนเวียนเพื่อปากท้อง 'อนุชา' แจงเร่งแก้ปัญหา

ชาวบางกลอยเตรียมคืนถิ่นป่าใหญ่อีกครั้ง กลับไปทำไร่หมุนเวียนเพื่อปากท้อง ยื่นหนังสือถามความคืบหน้า คณะกรรมการอิสระแก้ปัญหา ขอเร่งแก้คดี-ที่ดินทำกินดั้งเดิม เผยกรรมการแก้ปัญหาเงียบจ้อย “อนุชา” แจงกำลังเร่งดำเนินการ

18 ม.ค.2566 - ที่ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มประชาชนชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ในนามตัวแทนกลุ่มบางกลอยคืนถิ่น ได้ยื่นหนังสือกับนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย หมู่ที่ 1 ต. ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ในระหว่างการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ที่อาคารสำนักงาน ก.พ.(เดิม) ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอทราบความคืบหน้าการดำเนินงานคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอยฯ และเสนอข้อเรียกร้องของกลุ่มบางกลอยคืนถิ่นต่อประธานคณะกรรมการอิสระฯ

นายพงษ์ศักดิ์ ต้นน้ำเพชร ชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย ตัวแทนผู้ยื่นหนังสือ กล่าวว่า การดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาล่าช้าและสร้างผลกระทบต่อชาวบ้าน เนื่องจากการตัดสินใจกลับขึ้นไปทำกินที่บ้านบางกลอยบนนั้นเป็นไปเพื่อปากท้อง เพื่อทำไร่หมุนเวียน ปลูกข้าวกิน การดำเนินการที่ล่าช้าจึงกระทบต่อปากท้องของชาวบ้านที่เดิมทีก็เดือดร้อนอยู่แล้ว รวมถึงยังต้องถูกจับกุมดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรม “2 ปีแล้วที่เราโดนคดี จนมีคณะกรรมการอิสระฯ แต่เรายังไม่ทราบความคืบหน้า ปัญหาของพวกเรายังไม่ได้แก้ เราไม่อาจรอได้แล้ว เราจำเป็นต้องกลับไปทำกิน และถ้าไม่คืบหน้าเราจะกลับไปให้ถึงใจแผ่นดิน เราอยากให้การแก้ปัญหามันจบที่รัฐบาบชุดนี้เพราะมันเกี่ยวข้องกับปากท้องของเรา เราไม่อยากให้ลูกหลานต้องเกิดมาลำบากแบบเราอีกแล้ว” พงษ์ศักดิ์ กล่าว

หนังสือของกลุ่มบางกลอยคืนถิ่น ระบุว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 26/2565 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและ แก้ไขปัญหาชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย หมู่ที่ 1 ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ลงวันที่ 3 ก.พ. 2565 พวกเราชาวบ้านกลุ่มบางกลอยคืนถิ่นอยากทราบการดำเนินการของคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอยฯ ว่าดำเนินการไปถึงขั้นตอนไหน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพวกเราชาวบ้านกลุ่มบางกลอยคืนถิ่นยังไม่ทราบการดำเนินงานของคณะกรรมการว่าดำเนินการไปถึงขั้นตอนไหนแล้ววันนี้พวกเรากลุ่มบางกลอยคืนถิ่นจึงทำหนังสือถึงประธานฯ เพื่อขอทราบความคืบหน้า

รวมทั้งพวกเรากลุ่มบางกลอยคืนถิ่นมีข้อเสนอให้คณะกรรมการดำเนินการดังต่อไปนี้
1. ให้คณะกรรมการมีคำสั่งไปยังอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องพวกเรา 30 คน
2. ให้คณะกรรมการมีคำสั่งให้พวกเราชาวบ้านกลุ่มบางกลอยคืนถิ่นได้กลับไปยังพื้นที่ดั้งเดิม บริเวณ
บางกลอยบน
3. ให้คณะกรรมการมีคำสั่งไปยังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสั่งการณ์ให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ให้เจ้าหน้าที่ร่วมกับชาวบ้านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขึ้นไปรางวัดพื้นที่ไร่หมุนเวียนที่บริเวณบางกลอยบน ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการ

“พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับทราบการดำเนินของคณะกรรมการภายในเดือน ก.พ. 2566 หากคณะกรรมการไม่ดำเนินตามข้อเสนอของพวกเราได้ พวกเราจำเป็นต้องกลับไปอีกครั้ง แต่ถ้าหากพวกเรากลับไปโดยไม่มีคำสั่งคณะกรรมการฯ พวกเราจำเป็นต้องกลับไปที่บริเวณใจแผ่นดิน สิ่งที่พวกเราเสนอไปนั้นพวกเราไม่ได้มีเจตนาร้ายหรือสร้างความเดือดร้อนให้ใคร หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่พวกเราจำเป็น เพื่อปากท้องของพวกเราและอนาคตของลูกหลาน ได้มีชีวิตอยู่ยังมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ พวกเราชาวบ้านกลุ่มบางกลอยคืนถิ่นหวังว่าท่านประธาน และคณะกรรมการฯ ทุกท่านจะเข้าใจพวกเรา”

ชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอยถูกอพยพจากบ้านบางกลอยบนและใจแผ่นดิน ในช่วงปี 2539 โดยอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้จัดสรรที่ดินอยู่อาศัยและทำกินให้ที่ชุมชนบ้านบางกลอย (ล่าง) หมู่ที่ 1 ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ก่อนที่เมื่อต้นปี 2564 ชาวบ้านบางกลอยกลุ่มหนึ่งได้กลับขึ้นไปแผ้วถางพื้นที่ทำกินดั้งเดิมที่บ้านบางกลอยบนอีกครั้ง เนื่องจากพื้นที่จัดสรรไม่เพียงพอต่อการทำกิน และไม่สามารถทำกินได้ตามวิถีดั้งเดิม หลังจากนั้นอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจึงได้สนธิกำลังเข้าจับกุมชาวบ้าน ออกหมายจับชาวบ้าน 30 คน พนักงานสอบสวนตั้งข้อกล่าวหาความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ขณะนี้คดีความอยู่ในชั้นพนักงานอัยการ และจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถกลับขึ้นไปทำกินที่บางกลอยบนตามข้อเรียกร้องได้

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่ากำลังเร่งดำเนินการแก้ปัญหาให้ชาวบ้านบางกลอยอยู่ซึ่งมีความคืบหน้าอยู่พอสมควร และตอนนี้ได้เรียกรายงานของคณะกรรมการฯมาพิจารณาอีกครั้งเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปดำเนินการ

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัยการเลื่อนฟังคำสั่ง 2 เยาวชนบางกลอย ส่อโดนสั่งฟ้อง รัฐบาลแก้ปัญหาไม่คืบหน้า

ที่สำนักงานอัยการอัยการเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเพชรบุรี น.ส.เฉลิมศรี ประเสริฐศรี ทนายความจากมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชนพร้อมด้วยเยาวชนบบางกลอย 2 คน เข้าพบอัยการตามนัด

แปลงใหญ่กล้วยน้ำว้า เพชรบุรี วางแผนกู้วิกฤต

นายวีรศักดิ์ บุญเชิญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อผลผลิตทางการเกษตร เช่นเดียวกับเกษตรกรแปลงใหญ่กล้วย หมู่ 2,3,6

สปส.มอบสุข ตรวจเยี่ยมและติดตามคุณภาพชีวิตผู้ประกันตนทุพพลภาพ จ. เพชรบุรี

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ลงพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี โดยมี นางวันทนา ณัฐพูลวัฒน์ ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม นางรัศมี สุจโต ประกันสังคมจังหวัดเพชรบุรี นางสาวสรันยา สุวรรณวัฒน์

'ก้าวไกล' แพ้ยับ! ศึกนายก อบจ. 3 จังหวัด บ้านใหญ่ชนะขาดลอย

'ส้ม-ก้าวไกล' ไม่แรงอย่างที่คุย แพ้ยับศึก นายก อบจ. อยุธยา-ชัยนาท-พะเยา บ้านใหญ่ชนะขาดลอย 'เจ๊สมทรง-พี่สาวเสี่ยแฮงค์-มือขวาน้องธรรมนัส' คว้าชัย

“ถ้ำเสือ” จากตำนานสู่การจัดการป่า สร้างฝายมีชีวิต สร้างเศรษฐกิจชุมชน อย่างยั่งยืน

มีตำนานเล่าขานของบ้านถ้ำเสือในอดีต สภาพบริเวณแถวนี้เป็นป่าดงดิบที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีสัตว์นานาชนิดอาศัยอยู่ และยังมีสัตว์ป่าดุร้าย ช้างป่า ม้า เสือ