โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ดูแลเกษตรกรไทย ช่วยผลักดันสินค้าเกษตรราคาสูงขึ้น เพิ่มรายได้เกษตรกรโครงการประกันราคาข้าวงวดที่ 14 รัฐจ่ายเงินภายใน 18 ม.ค.2566
18 ม.ค.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับทราบรายงานกรณีราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการมีราคาที่สูงขึ้น ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น สืบเนื่องจากโครงการประกันรายได้ให้กับเกษตรกรของรัฐบาล ทั้งนี้สำหรับการประกันราคาข้าว รัฐบาลได้ดำเนินการ เบิกจ่ายงวดที่ 14 ให้กับเกษตรกร ที่ขึ้นทะเบียนปลูกข้าวเรียบร้อยแล้ว
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวเพิ่มเติมถึงการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 งวดที่ 14 สำหรับเกษตรกรกว่า 4 พันราย ที่แจ้งวันเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 7-13 .ค.2566 โดยมีราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและส่วนต่างชดเชย ดังนี้ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 14,139.99 บาท ชดเชยตันละ 860.01 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 13,540.74 บาท ชดเชยตันละ 459.26 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 9,949.63 บาท ชดเชยตันละ 50.37 บาท ซึ่งจากการดำเนินการการจ่ายส่วนต่างราคาสินค้าเกษตรให้กับเกษตรกร ในงวดที่ 1-13 รัฐบาลได้ดำเนินการจ่ายเงินชดเชยไปแล้ว กว่า 2.575 ล้านครัวเรือน
นอกจากนี้ รัฐบาลได้ทำการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) กับผู้ประกอบการต่างประเทศ เพื่อเพิ่มกำลังซื้อให้สินค้าเกษตรของไทย อาทิ มันสำปะหลัง ข้าว หรือ ข้าวโพด รวมทั้งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งสำหรับการเบิกจ่ายเงินประกันราคาสินค้าเกษตร ในงวดที่ 14 มีสินค้าเกษตรหลายรายการ อาทิเช่น ข้าวโพด และ มันสำปะหลัง ที่มี ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง สูงกว่าเกณฑ์ที่รัฐบาลประกันราคา ทำให้รัฐบาลไม่ต้องจ่ายเงินประกันราคาในส่วนนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินนโยบายของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง สำหรับสถานการณ์การส่งออกข้าว ในปีที่ผ่านมาถึง 7.7 ล้านตัน ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 7.5 ล้านตัน ทั้งนี้สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 4 ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 จะดำเนินการจ่ายเงินชดเชยงวดที่ 14 ภายในวันที่ 18 มกราคม 2566
“นายกฯ ยินดีกับผลการดำเนินนโยบายของรัฐบาล ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรหลายตัวมีราคาสูงขึ้น โดยรัฐบาลได้จ่ายเงินส่วนต่างตามโครงการประกันรายได้ข้าวด้วยแล้ว ประกอบกับรัฐบาลได้เร่งหาตลาดให้กับเกษตรกร โดยเฉพาะตลาดส่งออกสินค้าในต่างประเทศ เพื่อทำให้สินค้าไทยติดตลาดเป็นที่ต้องการในต่างประเทศ ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง” นายอนุชาฯ กล่าว
ทั้งนี้ การตรวจสอบประกันรายได้ข้าว 65/66 จ่ายส่วนต่าง 3 ขั้นตอน ดังนี้ 1. เข้าไปที่เว็บไซต์ chongkho.inbaac.com ตลอด 24 ชั่วโมง 2.กรอกเลขที่บัตรประชาชนจำนวน 13 หลัก และ 3.โดยระบบจะแจ้งรายละเอียดของบัญชี จำนวนเงิน และโครงการของเงินช่วยเหลือที่ได้รับ ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรละสหกรณ์การเกษตร ในสาขาที่มีบัญชีหรือลงทะเบียนไว้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลดี๊ด๊า! เปิดทำเนียบฯ รับม็อบเชียร์ 'กิตติรัตน์' นั่งปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ
เครือข่ายภาคประชาสังคมฯ ยื่น 1.5 หมื่นรายชื่อ หนุน 'กิตติรัตน์' นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ 'รองเลขาฯนายกฯ' รีบหอบส่ง ธปท.ทันที แย้มวันนี้ไม่เลื่อนแล้ว
1พ.ย.นายกฯอิ๊งค์ลงร้อยเอ็ดตามติดนโยบายปราบยาเสพติด
โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯเร่งแก้ปัญหายาเสพติด เตรียมบินร้อยเอ็ด 1 พ.ย. ตรวจการป้องกันและปราบปรามตามนโยบายรัฐบาล
นายกฯ ปลื้มยอดผู้โดยสารใช้บริการสนามบินเกือบ 120 ล้านคน
นายกฯ ปลื้มยอดผู้โดยสารใช้บริการท่าอากาศยาน 6 แห่ง เกือบ 120 ล้านคนในปีงบประมาณ 2567 พร้อมเปิดใช้งานเช็กอินระบบ Biometric นำร่องผู้โดยสารในประเทศก่อนเริ่ม 1 พ.ย.นี้
โฆษกรบ. โชว์สินค้าเกษตรของไทยขึ้นแท่นเบอร์ 1 อาเซียน
โฆษกรบ. เผย สินค้าเกษตรขึ้นแท่นที่ 1 อาเซียน ติดอันดับ 8 ของโลก หลัง 8 เดือน ส่งออกพุ่ง4.3แสนล้านบาท นายกฯสั่ง เร่งลดเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรค ดันติด Top5 โลกให้ได้ต้นปีหน้า
นายกฯอิ๊งค์ทัวร์ 'อุดรธานี-หนองคาย' 17 ต.ค.
นายกฯ บินหนองคาย 17 ต.ค. ตรวจฟื้นฟูเยียวยาหลังน้ำท่วมอีสาน พร้อมเปิดงานบั้งไฟพญานาค ชู 'ซอฟต์พาวเวอร์'
นายกฯ อิ๊งค์สั่งแรงงงานเยียวยา 'ผู้ประกอบการ-ผู้ประกันตน' ที่เจอน้ำท่วมใน 41 จังหวัด
นายกฯ กำชับแรงงานดูแลผู้ประกอบการ-ผู้ประกันตน ม. 33 ,39,40 ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมใน 41 จังหวัด มั่นใจเป็นส่วนหนึ่งเยียวยาผู้ประสบภัยได้อย่างตรงจุด