เดินหน้าสานต่อสัมพันธ์ไทย-ตุรกี ครม.เคาะแผนปฏิบัติการร่วมไทย-ตุรกี ฉบับที่ 2 ส่งเสริมความร่วมมือหลากมิติตั้งแต่เศรษฐกิจถึงความมั่นคง
18 ม.ค.2566 - นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2566 ครม.เห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการร่วมระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐตุรกี (Joint Plan of Action) ฉบับที่ 2 ค.ศ. 2023 - 2028 ซึ่งจะมีการลงนามแผนปฏิบัติการร่วมในช่วงการประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ (Joint Committee on Economic and Technical Cooperation: JETC) ไทย - ตุรกี ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 25 - 26 มกราคม 2566 ณ กรุงอังการา ตุรกี
ร่างแผนปฏิบัติการร่วม ฉบับที่ 2 นี้ จัดทำขึ้นเพื่อสานต่อการดำเนินความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยกับตุรกี จากแผนปฏิบัติการร่วม ฉบับที่ 1 โดยเน้นย้ำความร่วมมือเดิม เช่น ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การศึกษา การทหาร และขยายความร่วมมือให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เช่น ความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ คมนาคม การเกษตร โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1.เศรษฐกิจ อาทิ 1.ทั้งสองฝ่ายพร้อมเจรจาความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับตุรกี 2.ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนคณะนักธุรกิจและการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า นิทรรศการ และสัมมนาทางธุรกิจ 3.ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสถาบันทางการเงิน เช่น EXIM Bank และกองทุนรวมระหว่างทั้งสองประเทศ 4.ร่วมมือด้านการลงทุนและการวิจัยและพัฒนาระหว่างหน่วยงานทั้งสองประเทศ และ 5.สำรวจความเป็นไปได้ในการดำเนินกิจการร่วมกัน ในสาขาผลิตภัณฑ์อาหาร บริการก่อสร้าง ยานยนต์และชิ้นส่วน อัญมณี พลังงาน และการท่องเที่ยว
2.การท่องเที่ยวและวัฒนธรรม อาทิ 1.ส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การท่องเที่ยวโดยชุมชน การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม/อาหาร/กีฬา การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ รวมถึงธุรกิจการท่องเที่ยว MICE และ 2.สานต่อการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระดับประชาชนอย่างต่อเนื่อง อาทิ การแลกเปลี่ยนศิลปิน เยาวชน นักเรียน นักวิชาการและตัวแทนสื่อมวลชน และวัฒนธรรมของไทยและตุรกีในประเทศของแต่ละฝ่าย รวมถึงแสวงหาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมไทยและตุรกีร่วมกัน
3.การศึกษา วิชาการ และการพัฒนา อาทิ 1.สนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษาทั้งของไทยและตุรกีศึกษาต่อในด้านวิชาชีพและในระดับอุดมศึกษาในสถาบันการศึกษาของแต่ละฝ่าย และ 2.ส่งเสริมโครงการความร่วมมือทางวิชาการ ผ่านกิจกรรมส่งเสริมศักยภาพและการแบ่งปันประสบการณ์ในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายสนใจและเห็นพ้องร่วมกัน อาทิ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การเกษตร สิ่งแวดล้อม และพลังงาน
4.วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และดิจิทัล อาทิ 1.แลกเปลี่ยนข้อมูลและส่งเสริมกิจกรรมร่วมกันในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี เทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีอวกาศ และอุตสาหกรรม 4.0 และ 2.ส่งเสริมการเข้าร่วม "เทศกาลการบิน อวกาศ และเทคโนโลยี TEKNOFEST" ที่จัดขึ้น ณ ตุรกี ซึ่งเป็นเทศกาลการบินและอวกาศประจำปีที่ใหญ่ที่สุดในโลก
5.กลาโหมและความมั่นคง อาทิ 1.สนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการขายระหว่างกันของบริษัทอุตสาหกรรมป้องกันของทั้งสองประเทศ 2.จัดตั้งกลไกหารือด้านความมั่นคง (Security Dialogue) และ 3.กระชับความร่วมมือระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและหน่วยข่าวกรอง เพื่อต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติทุกรูปแบบ
6.การคมนาคม อาทิ 1.เสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีด้านการคมนาคม เช่น การขนส่งทางทะเล การบริการต่อเรือซ่อมเรือ โทรคมนาคม 2.ทบทวนสถานะของเที่ยวบินในปัจจุบันระหว่างไทยและตุรกี เช่น จำนวนเที่ยวบิน จุดหมายปลายทาง และความถี่ของเที่ยวบิน และ 3.สนับสนุนให้ภาคเอกชนของทั้งสองประเทศเข้าร่วมโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่
7.การเกษตร อาทิ 1.สนับสนุนความร่วมมือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการเกษตรในสาขาต่าง ๆ อาทิ แนวปฏิบัติด้านเกษตรกรรมที่เท่าทันต่อภูมิอากาศ การจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และ 2.ส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการและกิจกรรมแบ่งปันข้อมูลในสาขาการวิจัยแหล่งดินและน้ำ การใช้เครื่องจักรการเกษตร และการวิจัยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
8.พหุภาคี อาทิ 1.ส่งเสริมความร่วมมือและการประสานงานในองค์การระหว่างประเทศ โดยเฉพาะภายใต้กรอบ UN 2.เสริมสร้างความร่วมมือในประเด็นความมั่นคงรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะประเด็นอาชญากรรมข้ามชาติ อาทิ ยาเสพติด การก่อการร้าย การค้ามนุษย์ การปลอมแปลงเอกสาร การฟอกเงิน และ 3.ส่งเสริมความร่วมมือในทางปฏิบัติระหว่างอาเซียนและตุรกี ในฐานะคู่เจรจาเฉพาะสาขาของอาเซียน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลยันผู้ปลูกมันสำปะหลังไม่ถูกกดราคาแน่
รัฐบาลให้ความเชื่อมั่นผู้ปลูกมันสำปะหลัง เตือนพ่อค้ากดราคา โทษจำคุกสูงสุด 7 ปี จัดสายตรวจเฉพาะกิจ ลงพื้นที่ตรวจสอบการซื้อขายมันฯ ในแหล่งเพาะปลูกทั่วประเทศ รับฤดูเก็บเกี่ยวที่จะเริ่ม ธ.ค.นี้
รัฐบาลโอ่ผลงานยกระดับเส้นทางสู่ภาคตะวันออกเชื่อมโยงอีอีซี
รัฐบาลยกระดับเส้นทางสู่ภาคตะวันออก เพิ่มประสิทธิภาพการจราจร เชื่อมโยงอีอีซี ล่าสุดกรมทางหลวงขยาย 4 ช่องจราจร ทล.3481 ตอน บ้านหัวไผ่ - การเคหะฯ จังหวัดปราจีนบุรี แล้วเสร็จ
อย่าหลงเชื่อ! มิจฉาชีพใช้โซเชียลหลอกไปทำงานฟาร์มออสเตรเลีย
รัฐบาลเตือนภัยอย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพใช้โซเชียลหลอกทำงานฟาร์มออสเตรเลีย ย้ำรัฐบาลออสเตรเลีย ยังไม่มีความร่วมมือกับไทยด้านการส่งแรงงานและยังไม่มีนโยบายการออกวีซ่าเกษตรให้กับคนไทย
ข่าวดี! สปสช.เห็นชอบเพิ่มสัดส่วนล้างไตผ่านช่องท้องรายใหม่ 50%
'คารม' เผย บอร์ด สปสช. เห็นชอบข้อเสนอพัฒนาระบบมาตรฐานและคุณภาพของนโยบายล้างไต เพิ่มสัดส่วนผู้ป่วยล้างไตผ่านช่องท้องรายใหม่ 50% ดูแลผู้ป่วยไตวายเรื้อรังมีความยั่งยืน
ก.อุตฯ ลุยเสริมทักษะเอสเอ็มอีกว่า 200 ราย
'ศศิกานต์' เผย ก.อุตฯ เดินหน้าส่งเสริมเอสเอ็มอีกว่า 200 ราย เสริมทักษะ เพิ่มขีดการแข่งขัน เน้นดิจิทัลและความยั่งยืน คาดดันเศรษฐกิจโตกว่า 62 ล้านบาท
อึ้ง! ร้องเรียนโจรชวนลงทุนออนไลน์วันละกว่า 3.2 พันสาย
รองโฆษกรัฐบาล เตือนภัย 'มิจฉาชีพชวนลงทุนออนไลน์' พบผู้เสียหายโทรแจ้งอาชญากรรม ผ่านศูนย์ AOC เฉลี่ยวันละ 3,206 สาย ดำเนินการระงับบัญชีวันละ 1,130 บัญชีต่อวัน