พบเสือโคร่งตายในพื้นที่ อช.แม่วงก์ ตรวจสอบจากฐานข้อมูลตรงกับ "เสือวิจิตร" เสือหนุ่มจากห้วยขาแข้ง คาดสาเหตุเกิดจากการต่อสู้แย่งชิงอาณาเขต
14 ม.ค.2566 - นายรุ่งโรจน์ อัศวกุลธารินท์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 เปิดเผยถึงกรณีพบเสือโคร่งตายภายในเขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จังหวัดกำแพงเพชรว่า เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 ได้รับรายงานจากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ หลังเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ มว.6 (ซับตามิ่ง) แจ้งทางวิทยุสื่อสารว่าพบเสือโคร่งขนาดโตเต็มวัยนอนนิ่งอยู่บริเวณริมลำห้วยในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และเมื่อเข้าตรวจสอบพบว่าเสือโคร่งตัวดังกล่างได้ตายลงแล้ว
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า บริเวณลำตัวและคอมีบาดแผลคล้ายถูกฟันเขี้ยวของสัตว์ป่ากัด มีร่องรอยเล็บของสัตว์ป่าขนาดใหญ่อยู่ทั่วลำตัว บริเวณข้อเท้าหน้าหัก มีแผลเน่าหลายจุด ตรวจสอบบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุไม่พบสิ่งผิดปกติและบุคคลอื่นแต่อย่างใด พร้อมกับประสานขอนายสัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) เข้าไปตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการตายในพื้นที่ แต่เนื่องจากมีระยะทางที่ไกล ทำให้ไม่สามารถเข้าตรวจพิสูจน์การตายของเสือโคร่งในพื้นที่เกิดเหตุได้ จึงขอกำลังสนับสนุนเพื่อขนย้ายเสือโคร่งออกมาจากที่เกิดเหตุ เพื่อที่จะนำมาตรวจสอบสาเหตุการตาย ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่วงก์
ต่อมาเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2566 นางสาวพิมพ์ชนก สรงมงคล นายสัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) พร้อมเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจพิสูจน์เสือโคร่งที่ตายพร้อมผ่าพิสูจน์ซาก พบว่าเป็นเสือโคร่งเพศผู้ ตัวโตเต็มวัย ความยาวลำตัว 265 เซนติเมตร ความกว้าง 120 เซนติเมตร ความยาวขาหน้าซ้าย 85 เซนติเมตร ความยาวขาหน้าขวา 85 เซนติเมตร ความยาวขาหลังขวา 80 เซนติเมตร ความยาวขาหลังซ้าย 80 เซนติเมตร ความกว้างอุ้งเท้าหน้าซ้าย 9.1 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม อายุประมาณ 7-8 ปี ลักษณะภายนอก สภาพซากเริ่มเน่าเปื่อย ขนหลุดร่วงเป็นบางบริเวณ พบหนอนแมลงวันขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ คาดว่าตายมาประมาณ 3 วัน
พบบาดแผลลักษณะกลมและรี เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1-2 เซนติเมตร ซึ่งเป็นลักษณะของบาดแผลที่เกิดจากรอยเขี้ยวสัตว์ทั่วลำตัว บริเวณหลัง ต้นคอ ขาหน้า และขาหลัง โดยบริเวณขาหน้าทั้ง 2 ข้าง พบบาดแผลจำนวนมาก และพบบาดแผลเป็นทางยาวขนาด ประมาณ 3-5 เซนติเมตร คล้ายบาดแผลที่เกิดจากรอยเล็บสัตว์ ข้อเท้าหน้าซ้ายหัก ทำการเปิดผ่าซาก พบว่ากล้ามเนื้อบริเวณที่มีบาดแผลเป็นสีดำคล้ำต่างจากบริเวณที่ไม่มีบาดแผล พบก้อนหนองแทรกตามกล้ามเนื้อ สันนิษฐานได้ว่าเกิดการติดเชื้อในบริเวณดังกล่าว
จากการตรวจสอบภาพถ่ายของเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปยังจุดเกิดเหตุ ไม่พบรอยเลือดในบริเวณที่เสือนอนตาย ซึ่งคาดการณ์ได้ว่า บาดแผลที่พบตามลำตัวของเสือโคร่งไม่ใช่บาดแผลสด สันนิษฐานสาเหตุการตายของเสือโคร่งได้ว่า เกิดการติดเชื้อจากบาดแผลเข้าสู่กระแสเลือด (septicemia) ไม่ได้เกิดจากการกระทำของมนุษย์ เป็นการตายตามธรรมชาติในระบบนิเวศ
พิจารณาแล้วเห็นว่าซากเสือโคร่งที่ไม่เน่าเสีย ได้แก่ กระดูก ซึ่งมีคุณค่าสมควรแก่การเก็บรักษาไว้เพราะเป็นซากสัตว์ป่าคุ้มครองที่หายากใกล้สูญพันธุ์
ดังนั้นเพื่อประโยชน์ในทางราชการและการศึกษาวิจัย จึงให้เก็บรักษาซากสัตว์ป่าไว้มิให้ทำลาย โดยวิธีการต่อกระดูกสัตว์ ในส่วนของซากอื่น ๆ ได้แก่ หนัง และเนื้อ เห็นควรทำลายซากโดยวิธีการเผา ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการดำเนินการแก่สัตว์ป่า ซากสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่า และค่าใช้จ่ายในการดูแลสัตว์ป่า พ.ศ. 2565 โดยเคร่งครัด
ทั้งนี้จากการพิสูจน์เปรียบเทียบลวดลายบนตัวเสือที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ จำแนกระบุยืนยันตัวเสือโคร่ง พบว่าเสือโคร่งมีรหัสข้อมูลตามโครงการฟื้นฟูประชากรเสือโคร่ง WWF หรือชื่อ "เสือวิจิตร" ที่ข้อมูลสถานีวิจัยเขานางรำบันทึกไว้ ในการนี้ จากข้อมูลวิจัยเสือโคร่งวิจิตรเป็นเสือหนุ่มอายุประมาณ 5 ปี เกิดในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี เริ่มมาตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัยในป่าอุทยานแห่งชาติแม่วงก์และคลองลาน ใกล้บริเวณที่ทำการอุทยานฯ และจุดสกัดแม่กระสา ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา บริเวณนี้มีเสือตัวเมียประจำถิ่น มีสัตว์เหยื่อ เช่น กวางป่า ที่มีความหนาแน่นของประชากรน้อยกว่าหลายๆจุด จึงได้มีการดำเนินโครงการฟื้นฟูประชากรสัตว์กีบ เพื่อเพิ่มอัตราการแพร่พันธุ์ของกวางป่าในพื้นที่ ตั้งแต่ปี 2565-2566 ต่อเนื่อง อนึ่งบริเวณใกล้เคียงยังมีเสือโคร่งตัวผู้ประจำถิ่นครองอาณาเขตอยู่ด้วย จึงมีโอกาสเป็นไปได้ว่าจะมีการต่อสู้กันเพื่อแย่งการครอบครองอาณาเขตได้ อันอาจเป็นสาเหตุของการตายของเสือวิจิตรในครั้งนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เดือด! 'หนูนา' ซัดคนใจมืดบอดเอาเรื่องความอยู่รอดของ 'น้องกันยา' มาโจมตี ขู่ฟ้องพรบ.คอมพ์
นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา หรือ "หนูนา" ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา อดีตรมช. ศึกษาธิการ ผู้มีบทบาทอนุรักษ์ช้างไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า
'ลุงโชค' ย้อนยุคสงครามคอมมิวนิสต์ ถึงเขตป่าทับลาน ทับซ้อน 'หมู่บ้านไทยสามัคคี'
นายโชคดี ปรโลกานนท์ หรือ ลุงโชค อดีตเจ้าหน้าที่มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ผู้ฟื้นผืนป่าเขาแผงม้า เจ้าของ ‘สวนลุงโชค’ บ้านคลองทุเรียน ตำบลวังน้ำเขียว อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
ลันตาดูแลเข้ม'พะยูน' แจ้งระมัดระวังใกล้พื้นที่แหล่งหากิน
กรมอุทยานแห่งชาติฯ ดำเนินมาตราการอนุรักษ์พะยูน แจ้งประชาชนชะลอความเร็วเมื่อใกล้แหล่งหากินของพะยูน
'ปลอดประสพ' ฟันฉับ สปก.รุกที่เขาใหญ่ อาจมีคนผิดม.157 เตือนการเมืองอย่ายุ่ง
นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กกรณี สปก.ประกาศที่เข้าไปในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ว่า
'พัชรวาท' มอบผู้ช่วยลงพื้นที่ กรมอุทยานฯสอบปมหมุดนิรนาม ที่ดิน ส.ป.ก. รุกป่าเขาใหญ่
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีพิพาท จุดหมุดนิรนาม ส.ป.ก. 4-01 ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ว่า เมื่อวันที่ 18ก.พ. ได้มอบหมายให้ ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร
'วราวุธ' สุดปลื้ม มดชนิดใหม่ของโลกชื่อ 'มดท็อป' สะท้อนการทำงานเป็นทีม
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เข้ามอบป้ายข้อมูลอนุกรมวิธาน “มดท็อป” โดยนายวราวุธ เปิดเผยว่า เมื่อต้นปี 2567