11 ม.ค.2566 - เวลา 09.30 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (บอร์ดส่งเสริม SME) ร่วมกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้ที่เกี่ยวข้อง
นายกรัฐมนตรีกล่าวมอบนโยบายต่อที่ประชุมตอนหนึ่งว่า งานด้านส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หลายอย่างมีความคืบหน้า หลายอย่างมีปัญหาและอุปสรรคอยู่บ้าง แต่จำเป็นต้องทำเพื่ออนาคต เพราะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมถือเป็นเครื่องจักรสำคัญในด้านเศรษฐกิจของประเทศ โดยบอร์ด สสว. เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน จึงขอให้ติดตามปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่หลายเรื่องมีการเสนอมาถึงนายกรัฐมนตรีให้ช่วยดูแก้ไขปัญหา ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ชี้แจงข้อเท็จจริง และความเป็นไปได้ว่าจะแก้ไขอุปสรรคต่าง ๆ ได้อย่างไร ดังนั้น ขอฝากไปถึงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการทำงานเรื่องวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งปัจจุบันมีทั้งโอกาสและวิกฤต โดยจะต้องเดินหน้าต่อไปให้ได้ ไม่ว่าจะสำเร็จเมื่อไรก็ตาม เพราะเป็นนโยบายที่จะต้องทำต่อไปในอนาคต เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำเรื่องการให้ช่วยเหลือ สนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ให้เข้าถึงการดูแลของภาครัฐ โดยให้เร่งรัดส่งเสริมให้ผู้ประกอบการธุรกิจ SME เข้าระบบโครงการ SME One ID : หนึ่งรหัส หนึ่งผู้ประกอบการ ให้เร็วที่สุด โดยขอความร่วมมือจากภาคธุรกิจเอกชนให้ร่วมดำเนินการ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงการดูแลช่วยเหลือต่าง ๆ จากภาครัฐ พร้อมยืนยันว่านายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับธุรกิจ SME โดยต้องการให้งานด้าน SME มีความต่อเนื่อง ก้าวหน้า บรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และหาแนวทางทำให้ SME สามารถไปอยู่ในห่วงโซ่ของธุรกิจขนาดใหญ่ เพื่อนำพาทั้งกระบวนการให้เติบโตไปด้วยกัน เพื่อเพิ่มรายได้ของประเทศ และเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนในทุกกลุ่มกิจกรรม สำหรับมติที่ประชุมบอร์ดส่งเสริม SME ที่สำคัญ เห็นชอบในการสนับสนุน SME และช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ในวงเงิน 1,180 ล้านบาท โดยมีโครงการหลักที่สำคัญ 3 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการค้ำประกันสินเชื่อสำหรับธุรกิจท่องเที่ยว งบประมาณ 968 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี มีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม เป็นหน่วยงานดำเนินการ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ประกอบการที่ได้รับประโยชน์มากกว่า 1,500 ราย วงเงินค้ำประกันรวมที่จะเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท โดยจะมีการผ่อนปรนให้กับผู้ประกอบการที่เป็นผู้ประกอบการชั้นดี เป็นกรณีพิเศษ 2. โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการ ด้านการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อช่วยผู้ประกอบการ SME ที่ทำการค้าระหว่างประเทศ วงเงิน 200 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเหลือผู้ประกอบการส่งออกโดยตรง และ 3. โครงการ SME Restart เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว งบประมาณ 12 ล้านบาท โดยมีหน่วยร่วมดำเนินการ คือสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ชินวัตร' ตีปีกดันรัฐบาลครบเทอม วิบากกรรมไล่ล่า 'ชั้น14' หลอกหลอน
ดูจากมติเอกฉันท์ของศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49
ชูศักดิ์ดิ้นหนัก ลุยล็อบบี้กมธ. ปั้นกม.การเงิน
“นายกฯ อิ๊งค์” บอกไม่ได้จบกฎหมายมา โยน “ชูศักดิ์” ดูแลเรื่องรัฐธรรมนูญ
นายกฯ สั่งเกาะติด 7จังหวัดภาคใต้ที่เจอฝนถล่มหนัก
นายกฯ กำชับทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์พื้นที่เสี่ยงจากฝนตกหนักในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้
นายกฯ อิ๊งค์ฝากติดตามแถลง 12 ธ.ค.ผลงานรัฐบาล 90 วัน
นายกฯอิ๊งค์ ลั่นรัฐบาล มุ่งสร้างโอกาสจับต้องได้ให้ประชาชน ปากท้องอิ่ม ดึงศักยภาพคนไทย ลั่นปรับสมดุลการค้าสหรัฐ-จีน ย้ำ รบ.อยู่ครบเทอม ฝากติดตามแถลงผลงานรัฐบาล 12 ธ.ค.นี้
เปิดโปรแกรมทัวร์ 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรกที่เมืองเหนือ
เปิดโปรแกรม 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรก จัดที่แม่ริม เชียงใหม่ 29 พ.ย. ก่อนถก 'คลังสัญจร' เชียงราย ฟื้นฟูพื้นที่เศรษฐกิจ พร้อมพบประชาชน
'เทพไท' วิเคราะห์ชัดๆ 'ทักษิณ-อุ๊งอิ๊งค์' ใครคือนายกฯตัวจริง
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช