ศาลรธน.มติ 7: 2 ปมลดสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าของรัฐต่ำกว่า 51% ไม่ขัดรธน.

9 ม.ค.2566 - ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 วินิจฉัยว่าการกระทำของสำนักงานปลัดกระทรวงพลังงานผู้ถูกร้องที่ 1 และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีผู้ถูกร้องที่ 2ที่ให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการผลิตไฟฟ้า เป็นการปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 56 วรรคสอง ประกอบมาตรา 3 วรรคสอง และมีมติโดยเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 วินิจฉัยว่าการกระทำของสำนักงานปลัดกระทรวงพลังงานผู้ถูกร้องที่ 1 และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีผู้ถูกร้องที่ 2 ที่ให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการผลิตไฟฟ้า เป็นการปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 56 วรรคสาม และวรรคสี่ ประกอบมาตรา 3 วรรคสอง

นอกจากนี้ศาลรัฐธรรมนูญ ยังมีมติเป็นเอกฉันท์ให้มีข้อแนะนำว่ารัฐโดยคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานต้องดำเนินการกำหนดกรอบหรือเพดานของสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าของเอกชนในระบบผลิตไฟฟ้าของประเทศและกำหนดปริมาณไฟฟ้าสำรองอันเกี่ยวกับสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าของเอกชนอันส่งผลต่ออัตราค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บจากประชาชนให้สอดคล้องและใกล้เคียงกับความเป็นจริงตามความต้องการใช้ไฟฟ้าของทั้งประเทศในแต่ละช่วงเวลาหากกำหนดกำลังไฟฟ้าสำรองสูงเกินสมควรและก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์สาธารณะอาจถูกดำเนินการโดยองค์กรอื่นหรือศาลอื่นได้

ทั้งนี้คดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากนายสุทธิพร ประทุมเทวาพิทักษ์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ยื่นฟ้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 51 ว่ากระทรวงพลังงานกำหนดยุทธศาสตร์กระทรวงพลังงาน(พ.ศ 2559-2563) และแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยพ.ศ 2561 -2580 ทำให้สัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าของรัฐลดต่ำกว่าร้อยละ 51 เป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 56 ประกอบมาตรา 3 วรรคสอง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พีระพันธุ์' วอนม็อบรถบรรทุก ขอให้ใจเย็นรออีกหน่อย จะได้ใช้น้ำมันราคาถูก

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกช่วงครึ่งหลังของปี 2567