จับกัง 1 เผย วันแรกผู้ประกันตนแห่กดรับรหัสผ่านร่วมโครงการสินเชื่อบ้านวงเงิน 30,000 ล้านบาท เต็มแล้ว คาดว่าจะพิจารณาเฟสต่อไป
21 ธ.ค.2565 - นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ดำเนินโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตนภายในวงเงินจำนวนไม่เกิน 30,000 ล้านบาทนั้น
โครงการนี้เกิดจากการที่ท่านนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความห่วงใยต้องการที่จะช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ใช้แรงงาน ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานจึงได้คิดโครงการนี้ขึ้นมา เป็นโครงการที่ไม่มีเคยมีใครทำมาก่อน ถือเป็นครั้งแรกที่กระทรวงแรงงานทำ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ใช้แรงงานได้มีสิทธิ์ไถ่ถอนจำนองที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงิน ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่อาศัยที่ผู้ประกันตนเป็นหนี้อยู่
ทั้งนี้ ที่อยู่อาศัยนั้นจะต้องเป็นเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ประกันตนหรือกรรมสิทธิ์รวม ซึ่งผมดูแลให้ความสำคัญพี่น้องผู้ใช้แรงงานทุกคนเหมือนคนในครอบครัว โครงการนี้ทำให้ผู้ใช้แรงงานมีสิทธิ์ได้กู้เงินส่งบ้านในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ยกตัวอย่างเช่น แต่เดิมผู้ใช้แรงงานกู้เงินต้นมา 2 ล้านบาท แต่ต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงถึง 6 % ต่อปี ต้องเสียเงินค่าดอกเบี้ยปีละ 120,000 บาท 5 ปี คิดเป็นค่าดอกเบี้ย 600,000 บาท แต่พอผมคิดถึงเรื่องความมั่นคงในชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องผู้ใช้แรงงานจึงคิดโครงการนี้ขึ้นมา เท่ากับว่าโครงการนี้พี่น้องผู้ใช้แรงงานกู้เงินต้นมา 2 ล้านบาทเท่ากัน แต่ดอกเบี้ยถูกกว่าเหลือเพียง 1.99 % ต่อปี เสียดอกเบี้ยเพียงปีละ 40,000 บาท ทำให้ 5 ปี จะเสียดอกเบี้ยเพียงแค่ 200,000 บาท
"โครงการที่ผมคิดขึ้นมานี้จะทำให้ลดดอกเบี้ยจากเดิม 5 ปี 600,000 บาท เหลือเพียง 200,000 บาท โดยลดดอกเบี้ยให้พี่น้องผู้ใช้แรงงานได้ถึง 400,000 บาทต่อครอบครัว ซึ่งเงินในส่วนนี้จะทำให้ผู้ใช้แรงงานมีเงินเหลือเก็บเข้ากระเป๋าเดือนละกว่า 6,000 บาท สามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายลดหนี้สินได้ และเกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอีกด้วย"รมว.แรงงาน กล่าว
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ความคืบหน้าโครงการนี้ทราบว่า ภายหลังที่ ธอส.เปิดให้ผู้ประกันตนรับรหัสผ่านเข้าร่วมโครงการผ่าน Application : GHB ALL หรือ GHB ALL GEN เพื่อรับรหัสผ่าน GHB Buddy ในแอพพลิเคชั่น ไลน์ มาตั้งแต่ 16.00 น. ของเมื่อวานนี้ (20 ธ.ค.65) จนกระทั่งถึงเมื่อช่วงเที่ยงเศษของวันนี้ (21 ธ.ค.65) ปรากฏว่า มีผู้ประกันตนกดรับรหัสเข้าร่วมโครงการแล้ว จำนวน 15,000 ราย คิดเป็นเงินสินเชื่อ จำนวน 30,000 ล้านบาท ซึ่งครบตามเป้าหมายที่กำหนดแล้ว
โครงการดังกล่าวถือว่าประสบความสำเร็จมีพี่น้องผู้ใช้แรงงานให้ความสนใจรับรหัสผ่านเข้าร่วมโครงการอย่างล้นหลาม ส่วนท่านใดที่สนใจและดำเนินการไม่ทันตามกำหนดขอให้ติดตามข่าวสาร โดยจะนำข้อมูลผลตอบรับจากโครงการในเฟสแรกนี้ไปประมวลปรับปรุงเงื่อนไขต่างๆ ให้เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของพี่น้องผู้ใช้แรงงานให้มากขึ้น เพื่อนำไปพิจารณาสู่โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตนในเฟสต่อไป
สำหรับโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตนนี้ เพื่อให้ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม มาตรา 33 ที่จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน สามารถใช้สิทธิในการลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัย ปีที่ 1-5 ปี อัตราดอกเบี้ย 1.99 % ต่อปี คงที่ 5 ปี ปีที่ 6–8 อัตราดอกเบี้ย MRR - 2.00 % ต่อปี และปีที่ 9 เป็นต้นไปจนถึงตลอดอายุสัญญา อัตราดอกเบี้ย MRR - 0.50 % ต่อปี กู้ได้ไม่เกินรายละ 2 ล้านบาท ซึ่งผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิในการไถ่ถอนจำนองที่อยู่อาศัย หรือ รีไฟแนนท์ จากสถาบันการเงินอื่น รวมถึงเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในบัญชีเงินกู้ที่กู้อยู่กับธนาคารอาคารสงเคราะห์
ทั้งนี้ ผู้ประกันตนที่สนใจ สามารถขอรหัสเข้าร่วมโครงการผ่าน Application : GHB ALL หรือ GHB ALL GEN ได้ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2566 เวลา 24.00 น. ซึ่งผู้ประกันตนจะได้รับรหัสเข้าร่วมโครงการผ่าน GHB Buddy ใน Line Application จากนั้นนำรหัสที่ได้รับมาประกอบการยื่นขอสินเชื่อได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ
โดยผู้ประกันตนที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถดาวน์โหลด GHB ALL GEN ได้ที่ App Store, Google Play และ App Galleryสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Mobile Application : GHB ALL,Mobile Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th
และสามารถติดต่อขอหนังสือรับรองสถานะความเป็นผู้ประกันตน แบบอิเล็กทรอนิกส์กับสำนักงานประกันสังคมทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อประกอบการยื่นกู้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2566 และสามารถทำนิติกรรมภายในวันที่ 31 มกราคม 2567
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ ทั้ง 12 แห่ง สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/ สาขา/ ที่ท่านสะดวก หรือโทรสายด่วน 1506 ติดต่อสอบถาม ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sso.go.th
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พิพัฒน์' ย้ำสิทธิประโยชน์อาชีพอิสระ มอบทุนซื้อบ้าน เงินทดแทนเจ็บป่วย เงินทุพพลภาพตลอดชีวิต บำเหน็จชราภาพ ด้วยประกันสังคมมาตรา 40
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นรุ่นแรก เป็นจังหวัดซึ่งมีประชากรจำนวนมากที่สุดในภาคใต้ ประกอบอาชีพอิสระกว่า 500,000 คน
เคาะ 'รองปลัดคลัง-อธิบดี กสร.' นั่งบอร์ดไตรภาคี ลุยขึ้นค่าแรง 400 ของขวัญปีใหม่
'กระทรวงแรงงาน' เตรียมเสนอชื่อ 'ตัวแทน กสร.-รองปลัดคลัง' นั่งบอร์ดไตรภาคี ขง ครม. 19 พ.ย. เดินหน้าขึ้นค่าแรง 400 บาท เป็นของขวัญปีใหม่
‘พิพัฒน์’ คาดชงชื่อกรรมการค่าจ้างเข้า ครม.อังคารนี้ มั่นใจขึ้นค่าแรง 400 บาท เป็นของขวัญปีใหม่ 2568 ให้ผู้ใช้แรงงาน ทันแน่นอน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน
“สุชาติ” เผยลู่ทาง “นำเข้า สินค้าไทยสู่ ตลาดยูเออี” ดันสินค้าชุมชน ประกาศศักดา Soft Power ไทย
รมช.สุชาติ ชมกลิ่น เยือนเมืองดูไบ พบผู้นำเข้าสินค้าไทยรายใหญ่ในยูเออี
ประกันสังคมเผย เปิดรับสิทธิโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน ปี 2567 วันแรก 1 พ.ย. 2567 ผู้ประกันตนให้ความสนใจเกือบเต็มโควตา ยื่นขอรับสิทธิกว่า 9,000 ล้านบาท
โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567 นี้ จะช่วยให้ผู้ประกันตนมีสินเชื่อเพื่อกู้ซื้อที่อยู่อาศัย ปลูกสร้างที่อยู่อาศัย หรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างที่อยู่อาศัยได้อัตราดอกเบี้ยต่ำ เพียงร้อยละ 1.59 ต่อปี
'พิพัฒน์' รมว.แรงงาน ห่วงทายาทพนักงานกวาดถนนเทศบาลนครอ้อมน้อย ประสบเหตุถูกรถกระบะชนเสียชีวิต 2 ราย มอบประกันสังคม จ่ายเงินทดแทนกรณีตายในงาน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยและแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมมอบหมายให้ นางมารศรี ใจรังษี ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เร่งดำเนินการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้แก่ทายาทผู้มีสิทธิ