รัฐบาลลุยนโยบายลดโลกร้อน ทส.ปรับโครงสร้างหน่วยงานตั้งกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมขับเคลื่อนภารกิจ
21 ธ.ค.2565 - น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ให้นโยบายพร้อมมีข้อสั่งการหน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการขับเคลื่อนในมิติต่างๆ เพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศหรือปัญหาโรคร้อนที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ และเป็นไปตามถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีต่อที่ประชุม COP26 ที่ระบุว่าประเทศไทยจะบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี2050 (พ.ศ.2593) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ได้ในปี 2065 (พ.ศ.2608)
ล่าสุด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นำโดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้จัดตั้งกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมขึ้น เพื่อดูแลภารกิจรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งสภาพแวดล้อม บริบทด้านสังคม เศรษฐกิจ ตลอดจนข้อตกลงระหว่างประเทต่างๆ เป็นหนึ่งในหน่วยงานหลักที่จะมาขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายทั้งความเป็นกลางทางคาร์บอนและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศฯ จัดตั้งขึ้นโดยการปรับโครงสร้างส่วนราชการภายใน ทส.โดยปรุงหน้าที่และอำนาจและเปลี่ยนชื่อมาจากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม มีการตัดโอนหน่วยงานระหว่างกรมในกระทรวง โอนกองประสานการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้ม (สผ.) เข้ามาเป็นหน่วยงานภายใต้กรมด้วย
สำหรับโครงสร้างของกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศฯ จะประกอบด้วย สำนักงานเลขานุการกรม, กองยุทธศาสตร์และความร่วมมือระหว่างประเทศ, กองขับเคลื่อนการลดก๊าซเรือนกระจก, กองขับเคลื่อนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, กองส่งเสริมการมีส่วนร่วมต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และ ศูนย์วิจัยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และมีหน่วยงานกลุ่มตรวจสอบภายในและกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร มีอัตรากำลัง ประกอบด้วย ข้าราชการ จำนวน 219 คน พนักงานราชการ จำนวน 309 คน และลูกจ้างประจำ จำนวน 19 คน
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ภายหลังการปรับปรุงโครงสร้างแล้วและกรมที่เกิดขึ้นใหม่นี้ จะมีหน้าที่และอำนาจเกี่ยวกับการขับเคลื่อนภารกิจรองรับกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหลายด้าน อาทิ เสนอแนะและจัดทำนโยบาย ยุทธศาสตร์ แผน มาตรการเกี่ยวกับการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศ การลดก๊าซเรือนกระจก และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และขับเคลื่อนเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลการดำเนินงานตามนโยบาย ประเมินความเสี่ยงและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจัดทำและให้บริการข้อมูลและข้อสนเทศด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จัดทำบัญชีก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ศึกษา วิจัย พัฒนา ถ่ายทอด และส่งเสริมเทคโนโลยีการจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นศูนย์เทคโนโลยีสะอาดและศูนย์ปฏิบัติการอ้างอิงด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนดูแลภารกิจเพื่อให้ไทยดำเนินการตามพันธกรณีของอนุสัญญา พิธีสาร และความตกลงระหว่างประเทศ เสนอแนะแนวทาง และท่าทีในการเจรจาความตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องและรายงานข้อมูลตามพันธกรณีระหว่างประเทศด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เช็กเลย! ของเล่นประเภทไหนบ้าง ผู้ปกครองอย่าซื้อให้เด็ก
'คารม' เตือนผู้ปกครอง ระวังอย่าซื้อของเล่นที่เป็นอันตรายกับเด็ก พร้อมแนะเลือกของเล่นที่ช่วยเสริมทักษะการเรียนรู้-พัฒนาการ-จินตนาการ และผู้ปกครองควรแนะวิธีการเล่นของเล่นอย่างถูกต้อง
“วราวุธ" เผย ความคืบหน้า พม. รับ ด.ช. 7 ขวบ กาฬสินธุ์ เข้าบ้านพักเด็กและครอบครัวคุ้มครองสวัสดิภาพแล้ว-วางแผน อุปการะ เลี้ยงดู
วันที่ 9 มกราคม 2568 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยถึงกรณีเด็กชาย 7 ขวบ ไร้พ่อแม่ดูแล ซ้ำยังถูกทำร้ายร่างกายจนหน้าตาบวมช้ำ เต็มไปด้วยรอยขีดข่วน ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ว่า
'อนุทิน' ลงสงขลาเปิดอาคารเทศบาลเมืองคอหงส์
'อนุทิน' ลงพื้นที่สงขลา เป็นประธานเปิดอาคารเทศบาลเมืองคอหงส์ อ.หาดใหญ่ ย้ำบทบาทเทศบาลยุคใหม่ส่งเสริมยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนทุกด้าน
รัฐบาลคิกออฟโครงการปลดหนี้เอสเอ็มอี
รัฐบาลเดินหน้าช่วย SMEs เต็มสูบ ประกาศคิกออฟโครงการ 'บสย. พร้อมค้ำ พร้อมช่วย' ชู 3 มาตรการปลดหนี้
แนะ 8 วิธีเที่ยวงานวันเด็กอย่างปลอดภัย
'อนุกูล' เผยรัฐบาลห่วงใยสุขภาพเด็ก ๆ แนะ 8 วิธีเที่ยวงานวันเด็กปลอดภัย กำชับผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด
รัฐบาลปลื้มนักท่องเที่ยวมาไทยเฉลี่ยวันละ 1 แสน
รัฐบาลเผยจบปีนักท่องเที่ยวทะลุเกิน 35.54 ล้าน เม็ดเงินทะลุสูงถึง 1.67 ล้านล้านบาท เผยเที่ยวไทยยังปังตั้งแต่1 ม.ค.มาไทยเฉลี่ยวันละ 1 แสนคน สร้างรายได้แล้วเพียง 7 วันกว่า 2.5 หมื่นล้าน