![](https://storage-wp.thaipost.net/2022/12/484423B3-89DE-4040-B40F-7A6B362CB51B.jpg)
18 ธ.ค. 2565 -นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อวันศุกร์สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่สภาได้มีการถกเถียงกันเกี่ยวกับการศึกษาแก้ไขด้านคมนาคมเกี่ยวกับรถรับจ้างสาธารณะ กรรมาธิการคมนาคมสภาผู้แทนราษฎร โดยตนเองมองว่าการบริการรถรับจ้างสาธารณะ ผ่านแอปพลิเคชันของต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น LINE GRAB หรือไรเดอร์ยี่ห้อต่างๆซึ่งมีหลากหลาย แต่กลับพบว่าเป็นของประเทศไทยมีเพียง 1-2 เจ้าเท่านั้น ที่เหลือเป็นแพลตฟอร์มของต่างประเทศทั้งสิ้น
นางมัลลิกา กล่าวว่าปัจจุบันนี้ด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปเร็วและวิถีชีวิตบริบทการดำเนินชีวิตของพี่น้องประชาชนเปลี่ยนไปโดยเฉพาะหลังสถานการณ์โควิด-19 เราปรับตัวค่อนข้างมากไม่ว่าจะเป็นการเรียกใช้บริการส่งอาหาร การเรียกบริการรถสาธารณะแทนแท็กซี่ เพราะก็น้อยแล้วที่เราจะออกไปหน้าปากซอยโบกแท็กซี่ บริการสาธารณะสังกัดกระทรวงคมนาคมที่ถูกต้องตามกฎหมาย ปัจจุบันนี้การใช้รถบริการสาธารณะโดยรถที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันของต่างประเทศมีอยู่มา
นางมัลลิกา กล่าวว่า ดังนั้นตนเองจึงได้เรียนถามผ่านท่านประธานถึงประธานกรรมาธิการและกรรมาธิการคมนาคมทั้งหมดว่าได้ศึกษาครอบคลุมหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็น 1.เรื่องการจัดเก็บภาษีรายได้จากแอปฯโดยประสานกระทรวงการคลังว่าครอบคลุมจุดนี้อย่างไร 2.กรณีการจัดทำบัญชีผู้ให้บริการรถสาธารณะลงทะเบียนถูกต้องหรือไม่ อย่างไรและมีสมาชิกเท่าไร มีการจัดเก็บภาษีรายได้อย่างไร เพราะสถานการณ์โรคระบาดผ่านไป 3 ปีกว่าบริการสาธารณะเช่นนี้เกิดขึ้นมากแต่กระทรวงคมนาคมค่อนข้างล้าหลังพอสมควรไปไม่ทันเขา จนป่านนี้ควรที่ประเทศชาติจะได้จัดเก็บภาษีรายได้จาก 2-3 ส่วนนี้เป็นจำนวนเท่าไรควรมีตัวเลขและสถิติแล้ว
“คิดว่าเรื่องนี้เราจะรอไม่ได้ จะมานั่งอยู่โดยใช้ลักษณะการทำงานแบบเก่าไม่เท่าทัน ไม่น่าจะรอด และในส่วนของแอปพลิเคชันเหล่านี้ที่ลงทะเบียนของต่างประเทศรูปแบบของทันสมัยน่าใช้ ผู้ใช้บริการจึงไปใช้แอปพลิเคชันของต่างประเทศค่อนข้างมากและลงทะเบียนเป็นสมาชิกค่อนข้างเยอะ ดิฉันมองว่าเราต้องให้คนที่ทำมาหากินในประเทศไทยทำกระบวนการนี้อย่างถูกต้อง ผู้จัดการเรื่องนี้ควรเป็นกระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคมและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดนี้ อยากสะท้อนปัญหาให้ท่านทราบ เพื่อการศึกษาและแก้ไขโดยเสนอผ่านสภาไปยังกระทรวงคมนาคม ” นางมัลลิกา กล่าว
นางมัลลิกา กล่าวด้วยว่า ตนเองยังได้พูดถึงในเรื่องการให้บริการรถสาธารณะที่มากขึ้น ทั้งรายได้การประกอบสัมมาชีพของประชาชนมีเพิ่มขึ้นหลากหลายขึ้นก็เป็นเรื่องดี แต่รัฐรัฐควรทำให้เข้าระบบให้เป็นวิธีที่ถูกต้องก็จะสามารถช่วยประเทศชาติ ช่วยส่งเสริมอาชีพของประชาชนได้ แต่จะทำอย่างไรตรงนี้ต่างหากที่กรรมาธิการควรศึกษาและสามารถเชิญทุกหน่วยงานให้ข้อมูลโดยไม่ต้องเกรงใจ เพราะเป้าหมาย วิธีคิดคือทำอย่างไรจะช่วยประชาชนให้มีพื้นที่ทำมาหาเลี้ยงชีพได้อย่างปลอดภัย
“ ที่สำคัญที่สุดผู้ให้บริการหรือผู้บริโภคพี่น้องประชาชนอย่างเราจะมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินต่อการได้รับบริการอย่างเป็นธรรมถูกต้องอย่างไร ทั้งนี้ดิฉันได้ฝากท่านประธานสภาไปถึงกรรมาธิการคมนาคมไว้ช่วยศึกษาวิจัยเรื่องนี้เพิ่มเติมและเสนอเรื่องนี้ให้กระทรวงคมนาคมกับกระทรวงการคลัง เพื่อเกิดประสิทธิผลด้วย” นางมัลลิกา ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กรุงศรีเผยธุรกรรมผ่านแอปฯกรุงศรี มั่งมี ช้อป โต 30%
แคมเปญ “กรุงศรี มั่งมี ช้อป ใช้กรุงศรี มั่งมี ทุกร้าน” จัดคาราวานลงพื้นที่พบปะร้านค้าธุรกิจ SME ในย่านการค้า ตลาดขนาดใหญ่ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองใช้บริการแอปพลิเคชัน กรุงศรี มั่งมี ช้อป (Krungsri Mung-Mee SHOP) โดยตรง ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา โดยมียอดธุรกรรมเพิ่มขึ้นประมาณ 30% และมีร้านค้าใหม่เพิ่มขึ้นอีกกว่า 15% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ล็อกสเปก 'ประธานวุฒิ' มือประสานอำนาจเก่าและอำนาจใหม่
ว่าที่สว. ชี้ปธ.วุฒิสภา ต้องประสานงานได้ทั้งอำนาจเก่าและอำนาจใหม่ ขณะที่รองประธานวุฒิสภา มีคนทำงานได้อยู่แล้วในแต่ละด้าน
กิ้งกือยังตกท่อ! 'แกนนำคณะก้าวหน้า' ชี้ช่องฟ้องศาลปกครอง ห้ามแจกเงินดิจิทัล
นายชำนาญ จันทร์เรือง แกนนำคณะก้าวหน้า และนักวิชาการด้านกฎหมายและการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า การที่จะนำคดีเกี่ยวกับเงินดิจิตัล 10,000 บาท ไปศาลปกครอง