7 ธ.ค.2565- เฟซบุ๊ก นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกและกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ… สภาผู้แทนราษฎร โพสต์ข้อความระบุว่า
ปานเทพ ถาม “กนก” เอาดีเข้าตัว แต่ด้อยค่ากรรมาธิการฯที่ตัวเองอยู่ ถูกต้องแล้วหรือ?
ตามที่นายกนก วงษ์ตระหง่าน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกรายการทางสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี ถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกคือ วันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2565 ในรายการ Morning Nation และอีกครั้งหนึ่งคือวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ.2565 ในรายการคมชัดลึก
โดยนายกนก วงษ์ตระหง่าน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหาหลายประเด็นว่า คณะกรรมาธิการร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ… ของสภาผู้แทนราษฎร มิได้คำนึงถึงเด็กและเยาวชน ไม่เคยมีการถกเถียงด้วยงานวิจัยเพื่อเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย และชาวบ้านปลูกได้แต่ขายไม่ได้ จึงไม่ได้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และแม้มีกฎหมายก็ยังปฏิบัติไม่ได้เพราะต้องมีรายละเอียดอีกมาก ฯลฯ
การกระทำของนายกนก วงษ์ตระหง่าน นั้นอาจสร้างความเสียหายให้กับคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณา ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ…..ของสภาผู้แทนราษฎรว่าไม่ได้พิจารณาในประเด็นต่างๆที่สังคมมีความห่วงใย ดังนั้นจึงเห็นความจำเป็นจะต้องชี้แจง “ข้อเท็จจริง”เพื่อปกป้องเกียรติและการทุ่มเทการทำงานของคณะกรรมาธิการฯทุกท่านดังต่อไปนี้
“กรณีที่นายกนก วงษ์ตระหง่าน อ้างว่าคณะกรรมาธิการฯร่างกฎหมายมาอย่างไม่รอบคอบนั้น จะต้องไม่ลืมว่านายกนก วงษ์ตระหง่าน ได้อยู่ในฐานะเป็นกรรมาธิการและรองประธานคณะกรรมาธิการฯชุดนี้ด้วย
แต่ในรายงานประชุมไม่เคยปรากฏในรายงานเลยว่านายกนก วงษ์ตระหง่าน ลงมติเป็นเสียงข้างน้อยเพื่อคัดค้านในมาตราใด หรือสงวนคำแปรญัตติไม่เห็นด้วยเพื่ออภิปรายในสภาในมาตราใดเลย และไม่ได้มีข้อเสนอมาตราใดเสนอต่อคณะกรรมาธิการแล้วคณะกรรมาธิการไม่เห็นชอบ เพราะข้อเสนอทุกมาตราของนายกนก วงษ์ตระหง่าน ได้รับการบรรจุเสนอเอาไว้ด้วยความเคารพและให้เกียรติมาโดยตลอด
หากร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ…. ของคณะกรรมาธิการฯขาดความรอบคอบจริง เหตุใดนายกนก วงษ์ตระหง่าน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่กลับไปถามนายกนก วงษ์ตระหง่าน รองประธานคณะกรรมาธิการฯว่า ทำไมถึงไม่แสดงการคัดค้าน เสนอมาตราที่คณะกรรมาธิการฯไม่เห็นด้วย หรือสงวนคำแปรญัตติให้บันทึกอยู่ในรายงานการประชุมกรรมาธิการฯเลย แต่กลับมาพูดภายหลังเอาดีเข้าตัวแต่เพียงคนเดียวได้อย่างไร?”
นายปานเทพ โพสต์อีกว่า การเร่งรัดของคณะกรรมาธิการฯนั้นมิได้เป็นไปโดยไร้ความรับผิดชอบ เพราะคณะกรรมาธิการฯได้เร่งรัดด้วยการ “เพิ่มจำนวนการประชุม” ถึง 2 ครั้งต่อสัปดาห์ และเป็นการประชุมเต็มวันทั้งครึ่งเช้าและบ่าย
คณะกรรมาธิการฯได้เสียสละเวลาในการทุ่มเทในเรื่องนี้อย่างเต็มความสามารถและเป็นไปอย่างรับผิดชอบ โดยมีการประชุมรวมทั้งสิ้น 21 ครั้ง ในขณะที่นายกนก วงษ์ตระหง่าน ที่ระบุว่าห่วงใยกฎหมายฉบับดังกล่าวนี้ แต่ในข้อเท็จจริงกลับให้เวลาเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมธิการทั้งสิ้น 10 ครั้งเท่านั้น
“และแม้นายกนก วงษ์ตระหง่าน จะประชุมทั้ง 10 ครั้ง ก็ไม่ปรากฏว่ามีการคัดค้าน หรือขอสงวนคำแปรญัตติมาตราใดเพื่ออภิปรายในสภา หรือขอลงมติเป็นเสียงข้างน้อยที่คัดค้านมติเสียงข้างมากในกรรมาธิการเลยแม้แต่มาตราเดียว”
นายกนก วงษ์ตระหง่าน ให้สัมภาษณ์ในรายการเนชั่นกล่าวย้ำทั้ง 2 ครั้งว่า ต้องมีความสมดุลทั้ง 3 ฝ่ายคือ ทางการแพทย์ เกษตรกร และการคุ้มครองเด็กและเยาวชน
แต่ในความเป็นจริงแล้วนายกนก วงษ์ตระหง่าน กลับเป็นผู้เสนอต่อคณะกรรมาธิการฯให้จัดพื้นที่สูบกัญชาเพื่อนันทนาการเพื่อการท่องเที่ยว ในคืนพระจันทร์เต็มดวง (ฟูลมูนปาร์ตี้)สำหรับพื้นที่การท่องเที่ยวเสียเอง จริงหรือไม่? ปรากฏหลักฐานตามอ้างอิงคลิป
เพราะในความเป็นจริงแล้วในคณะกรรมาธิการฯต่างได้ให้ความสำคัญต่อเด็ก เยาวชน สตรีให้นมบุตร สตรีมีครรภ์มากถึงมากที่สุด
เพราะมีบทลงโทษจำคุกผู้ที่ให้หรือขายให้เยาวชนใช้กัญชา มีบทลงโทษการผิดต่อเยาวชนให้เพิกถอนการจดแจ้งในการปลูกกัญชาในบ้าน มีบทลงโทษให้เพิกถอนการอนุญาตกัญชาเพื่อการค้า การเพิ่มโทษอื่นๆเป็น 2 เท่าหากกระทำความผิดต่อเยาวชนด้วย มีการห้ามขายออนไลน์ การห้ามโฆษณา มีการห้ามขายผ่านเครื่องขาย มีการห้ามขายในโรงเรียน ฯลฯ
การกล่าวหาว่าคณะกรรมาธิการฯไม่ได้มีการใส่ใจการคุ้มครองเรื่องเยาวชนนั้น จึงเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้น
นายกนก วงษ์ตระหง่านกล่าวหาว่าคณะกรรมาธิการไม่เคยนำข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มาเปรียบเทียบเพื่อหาข้อเท็จจริงทั้งข้อดีและข้อเสียนั้น “ไม่เป็นความจริง”
เพราะคณะกรรมาธิการฯได้นำข้อถกเถียงทางวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ โดยมีการนำเสนอการรวบรวมงานวิจัยของ รศ.ดร.นพ.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งรายงานผลกระทบของนโยบายกัญชาเสรีต่อเด็กและเยาวชน: บทเรียนจากนานาชาติ” เอกสารวิชาการหลักในงานสมัชชาการพัฒนาเด็กและเยาวชน ประจำปี 2565 ฉบับเมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2565
จากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ ผ่านงานวิจัยทางคลินิกและระบาดวิทยาเปรียบเทียบกับงานของ รศ.ดร.นพ.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ ล่าสุดจึงทำให้พบความจริงว่า
งานวิจัยที่พรรคประชาธิปัตย์อ้างถึงฝ่ายต่อต้านกัญชานั้นยังนำเสนอข้อมูลทางการแพทย์อย่างมีอคติ ขาดความรอบด้าน ตัวอย่างเช่น ยังขาดมิติการใช้กัญชาเพื่อลดปัญหายาเสพติดที่รุนแรงทั้งยาบ้า ลดแอลกอฮอล์ ลดบุหรี่และลดยาเสพติดอื่นๆทั้งในแคนนาดาและโคโรลาโด ยังขาดการกล่าวถึงมิติการใช้กัญชาเพื่อลดปัญหายาเสพติดที่รุนแรงและลดอาชญากรรมในเนเธอร์แลนด์ ยังขาดการพิจารณาในมิติการลดใบสั่งยาและประชาชนลดการซื้อยาในมลรัฐที่ให้ใช้กัญชาทั้งทางการแพทย์และนันทนาการในสหรัฐอเมริกา
“อย่างไรก็ตาม กรณีที่นายกนก วงษ์ตระหง่าน ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2565 ว่าหลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรให้ถอนร่างไปแล้วนายกนก วงษ์ตระหง่าน จะเข้าไปประชุมในคณะกรรมาธิการเพื่อเสนอมาตราต่างๆให้ทบทวน แต่ความเป็นจริงหลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรเสียงข้างมากให้ถอนวาระ พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ออกจากสภาไปแล้ว นายกนก วงษ์ตระหง่าน ก็ไม่ได้กลับเข้าไปประชุมในคณะกรรมาธิการเพื่อเสนอมาตราใดๆอีกตามที่ได้ให้สัมภาษณ์แต่ประการใด”
ที่นายกนก วงษ์ตระหง่านกล่าวหาว่าคณะกรรมาธิการฯร่างกฎหมายให้ประชาชนปลูกได้แต่ขายไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์นายทุน และประชาชนจะทำการค้าไม่ได้ การนำเสนอของนายกนก วงษ์ตระหง่านนั้น ไม่เป็นความจริงแต่ประการใด
เพราะคณะกรรมาธิการฯให้การปลูกด้วยการจดแจ้งนั้นเพื่อเป็นหลักประกันว่าประชาชนจะสามารถพึ่งพาตัวเองโดยไม่มีกลุ่มทุนใดมาผูกขาดได้ แต่ประชาชนหากจะค้าขายกัญชาก็ต้องขออนุญาต ทำตามหลักเกณฑ์และต้องรับผิดชอบต่อสังคม
“บัดนี้ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ได้ถูกบรรจุในวาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 2 แล้ว ตามกลไกและระบบของสภาผู้แทนราษฎร ทุกพรรคการเมืองที่ได้สงวนคำแปรญัตติสามารถอภิปรายเพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเสียงข้างมากที่จะ “เห็นด้วย” หรือ”แก้ไข” ทุกมาตราได้อยู่แล้ว จึงขอเรียกร้องต่อทุกพรรคการเมืองเพื่อพิจารณาดังต่อไปนี้
ข้อเรียกร้องที่ 1 หากท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ห่วงใยต่อสังคมจริง ขอเรียกร้องท่านลงมติเห็นชอบให้เลื่อนวาระร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ.. ของคณะกรรมาธิการฯที่พิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว เป็นวาระเร่งด่วน เป็นวาระถัดไปเพื่อให้ได้มีกฎหมายในการใช้ประโยชน์และควบคุมกัญชาให้ได้อย่างเหมาะสมแก่ประชาชนต่อไปโดยเร็ว
ข้อเรียกร้องที่ 2 ขอให้ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่าได้คว่ำกฎหมาย แต่ให้ลงมติเห็นด้วยหรือจะแก้ไขรายมาตราตามที่ได้มีผู้สงวนคำแปรญัตติเอาไว้แล้วตามครรลองของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ประเทศและประชาชนจะได้มีกฎหมายกัญชามาเพื่อใช้ประโยชน์และควบคุมกัญชาอย่างเป็นระบบต่อไป”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สาวไส้ 'ทนายตั้ม' เปลี่ยนพินัยกรรม ตั้งตัวเป็นผู้จัดการมรดก 'เจ๊อ้อย'
ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เดินทางเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในคดีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย แจ้งความดำเนินคดีกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความกับพวก ในข้อหาฉ้อโกง
‘กนก วงษ์ตระหง่าน’ สะท้อนบทสรุปจาก ดิไอคอนกรุ๊ป จุดอ่อนของมนุษย์
กนก วงษ์ตระหง่าน รองประธานคณะที่ปรึกษาขับเคลื่อนนโยบาย รมว.การพัฒนาสังคมฯ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว
'หมอธีระวัฒน์' เผยปัจจุบันอยู่ในตำแหน่งใหม่ ใน ม.รังสิต
ศ.ดร.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา โพสต์ข้อความผ่านเฟศบุ๊ก ระบุว่า หมอปัจจุบันนี้ อยู่ในตำแหน่งนี้ครับ แต่งตั้งเป็นทางการจากท่านอธิการบดี มหาวิทยาลัยรังสิต
ชี้ กฎหมายกัญชา ฉบับใหม่ล็อกสเป็กเอื้อนายทุนโรงพยาบาล เปิดชื่อคนดังมีเอี่ยวเพียบ
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า ร่างประกาศ
สายเขียวบุกสธ. สมศักดิ์ยืนกราน เป็น‘ยาเสพติด’
"ปานเทพ-หมอธีระวัฒน์-รสนา" นัดยื่นหนังสือถึง รมว.สธ. 16 ก.ค.นี้
'ปานเทพ' ค้านนำช่อดอกกัญชา-กัญชงเป็นยาเสพติด ชี้กระทบผู้ป่วย เกษตรกร แพทย์แผนไทย
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมก