อย.ขับเคลื่อนการทำงาน ลดขั้นตอนขึ้นทะเบียน เปิดแอปตรวจสอบผลิตภัณฑ์ สนองนโยบายรัฐบาลดิจิทัล

รองโฆษกรัฐบาล เผย อย.ขับเคลื่อนการทำงาน ลดขั้นตอนขึ้นทะเบียน เปิดแอปตรวจสอบผลิตภัณฑ์ สนองนโยบายรัฐบาลดิจิทัล พร้อมอำนวยความสะดวก ลดเวลาขึ้นทะเบียน

25 พ.ย.2565 - นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายให้หน่วยงานราชการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน มุ่งสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของภาครัฐ บูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงพัฒนาแพลตฟอร์มการให้บริการภาคเอกชนและการให้บริการประชาชนแบบเบ็ดเสร็จ เข้าถึงง่าย ซึ่งได้ทำอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้เรียนรู้และปรับตัวเข้าสู่สังคมดิจิทัลอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

นางสาวรัชดา กล่าวว่า ปัจจุบันหน่วยงานราชการหลายหน่วยงานได้ขับเคลื่อนนโยบายอย่างเป็นรูปธรรม ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน สร้างความพึงพอใจต่อผู้ใช้บริการ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้เป็นหน่วยงานดิจิทัล ซึ่งที่ผ่านมา อย.ได้พัฒนาแอปพลิเคชันบนมือถือ “Oryor Smart Application Versions 2” โดยเพิ่มฟังก์ชันการให้บริการหลากหลายเมนูอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถตรวจสอบหมายเลขผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง อาหารและวัตถุอันตราย รวมถึงสามารถค้นหาร้านขายยาได้ทั่วทั้งประเทศ เป็นอีกหนึ่งช่องทางการสื่อสารที่จะช่วยให้เข้าถึงผู้บริโภคในยุคดิจิตอลอย่างแพร่หลาย

นางสาวรัชดา กล่าวต่อไปว่า นอกจากการพัฒนาระบบให้บริการแล้ว ปัจจุบัน อย. ได้จัดระบบให้คำปรึกษาแนะนำ อำนวยความสะดวก และลดเวลาขึ้นทะเบียน ให้ไม่เกิน 120 วัน (จากที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง 330 วัน) หากเอกสารครบถ้วน ถูกต้อง และสมบูรณ์ โดยไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติม เช่น กรณีของ สเปรย์พ่นจมูกสารสกัดจากเปลือกมะนาว ที่ทำการศึกษาวิจัยในเบื้องต้นพบว่าอาจป้องกันเชื้อโควิด-ไข้หวัดใหญ่- RSV' ได้นั้น โดยในขั้นตอนต่อไป จำเป็นต้องมีการศึกษาวิจัยในมนุษย์เพิ่มเติม เพื่อยืนยันผลการใช้จริง จึงมานำข้อมูลการศึกษามาขึ้นทะเบียนเป็น ยาพัฒนาจากสมุนไพร ที่ช่วยยับยั้งและป้องกันเชื้อไวรัสก่อโรคทางเดินหายใจ เช่น SARs-COV-2 (โควิด19) ไข้หวัดใหญ่ (H1N1) และRSV กับทาง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย) กระทรวงสาธารณสุข เพื่อจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ต่อไปในสรรพคุณข้างต้น

"นายกรัฐมนตรี พอใจผลการขับเคลื่อนการทำงานสู่รัฐบาลดิจิทัล ยืนยันการนำภาครัฐสู่รัฐบาลดิจิทัลเป็นแนวคิดเชิงรุกที่รัฐบาลดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถบริหารจัดการข้อมูลต่างๆ ให้ง่ายขึ้น เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูลที่ดีได้อย่างยั่งยืน " นางสาวรัชดา กล่าว

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวดี มท.รับรอง บัตรปชช. แอปฯ ThaID ใช้เช็กอินแทนบัตรจริงแล้ว

นายกฯ ขอบคุณ ส่วนราชการเร่งดำเนินการนโยบาย“รัฐบาลดิจิทัล”ลดขั้นตอนยุ่งยากให้ ปชช.ล่าสุด มท.รับรอง บัตร ปชช.จากแอปฯ ThaID สามารถโชว์รูปบัตรเช็กอินในประเทศโดยไม่ต้องใช้บัตรตัวจริงได้แล้ว

นโยบายและกฎหมายรัฐบาลดิจิทัล (ตอนที่ 1) : งานหลังบ้านที่ถูกมองข้าม 

ในปี 2562 และ 2565 รัฐบาลได้ออกกฎหมายสำคัญเกี่ยวกับความเป็นรัฐบาลดิจิทัล 2 ฉบับ คือ พระราชบัญญัติการบริหารงานและให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล (พ.ศ. 2562) และ พระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ (พ.ศ. 2565) กฎหมายทั้ง 2 ฉบับถูกออกแบบมาโดยเจตนาเพื่อให้กระตุ้นให้เกิดความเป็นรัฐบาลดิจิทัลอย่างยิ่งยวด 

'ทางหลวงชนบท' ขึ้นแท่นคุณภาพบริหารจัดการภาครัฐ ขับเคลื่อนสู่รัฐบาลดิจิทัล

กรมทางหลวงชนบท รับรางวัลเลิศรัฐ ปี 2567 คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ รายหมวด หมวด 6 ด้านกระบวนการคุณภาพและนวัตกรรม  พร้อมขับเคลื่อนสู่รัฐบาลดิจิทัล

วาง 5 มาตรการเข้มนำผลิตภัณฑ์สุขภาพ

นายกฯ ให้ความสำคัญความปลอดภัยของผู้บริโภค เน้นย้ำมาตรฐานการตรวจสอบการนำเข้าผลิตภัณฑ์สุขภาพ ดัน 5 มาตรการ สกัดการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคุณภาพและผิดกฎหมาย

ตร.รับนโยบายรัฐบาลดิจิทัล อำนวยความสะดวกให้ปชช.เช็คประวัติอาชญากรรมออนไลน์

'เกณิกา' เผย ตร. รับนโยบายรัฐบาลดิจิทัล ลดความยุ่งยาก อำนวยความสะดวกให้ประชาชนเช็คประวัติอาชญากรรมออนไลน์ด้วยตนเอง เพื่อยื่นสมัครงานได้แล้ว