‘อนุทิน’ นำผู้บริหาร สธ. ศึกษาระบบหลักประกันสุขภาพญี่ปุ่น

‘อนุทิน’ นำคณะผู้บริหารสธ.- สปชส. ศึกษาระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าญี่ปุ่น ขอบคุณที่สนับสนุนการพัฒนาเพื่อดูแลสุขภาพคนไทย พร้อมหารือ 2 ฝ่าย ติดตามการทำงานศูนย์ ACPHEED ในไทย

14 พ.ย.2565-น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 13-18 พ.ย. 65 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้นำคณะซึ่งประกอบด้วย คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ประธานกรรมการตรวจสอบ ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข อาทิ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.พงศ์เกษม ไข่มุก รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นพ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคมศาสตร์ เข้าร่วมการศึกษาดูงานด้านหลักประกันสุขภาพของญี่ปุ่น ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ภายใต้โครงการความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและสปสช. ของไทย กับ องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) ด้านสุขภาพโลกและการประกันสุขภาพถ้วนหน้า

โดยวันที่ 14 พ.ย. นายอนุทิน ได้นำคณะเข้าร่วมการต้อนรับการศึกษาดูงาน ที่กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ พร้อมกับเป็นผู้แทนรัฐบาลไทยแสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลญี่ปุ่นและJICA ที่เชิญประเทศไทยเข้าร่วมโครงการความร่วมมือนี้ ซึ่งเป็นโอกาสที่คณะเจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 ประเทศได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้ระหว่างกัน เพื่อนำไปสู่ความแข็งแกร่งของระบบสาธารณสุขรองรับกับสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งการระบาดของโควิด-19 ใน 3 ปีที่ผ่านมาได้ชี้ชัดแล้วว่า ระบบสุขภาพที่แข็งแกร่งคือสิ่งสำคัญที่ปกป้องชีวิตของคนทั่วโลก

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายอนุทินได้ระบุถึงโควิด19 ได้เผยให้เห็นว่าปัญหาด้านสาธารณสุขเป็นความท้าท้ายของทุกประเทศ เช่นเดียวกับปัญหาอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสังคม ความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจ ซึ่งทั้งหมดจำเป็นที่ต้องมีความร่วมมือทั้งในและระหว่างประเทศในการดูแลแก้ไข ซึ่งญี่ปุ่นเองเป็นที่ยอมรับว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ รวมถึงการบริหารระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (UHC) รวมถึงการดูแลระบบสังคมผู้สูงอายุ ที่ไทยสามารถเรียนรู้และนำไปปรับใช้ให้ระบบของไทยแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งความร่วมมือภายใต้โครงการนี้ระหว่างไทยและญี่ปุ่นเริ่มมาตั้งแต่ปี 2558 โดยขณะนี้ดำเนินการเป็นระยะที่2 ซึ่งการศึกษาดูงานนับเป็นโอกาสอันดีที่เจ้าหน้าที่ของฝ่ายไทย ญี่ปุ่น จะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงาน ผมมั่นใจว่าประสบการณ์และบทเรียนที่เราที่ได้รับจากประเทศญี่ปุ่นจะช่วยกำหนดรูปแบบการทำงานทั้งการรักษาพยาบาลและการบริหารกองทุน สปสช. ของไทยให้เข้มแข็งขึ้นอีก รัฐบาลไทยขอบคุณรัฐบาลญี่ปุ่น และJICA ที่ให้การสนับสนุนการพัฒนาด้านต่างๆ ของไทยด้วยดีเสมอมา

ในโอกาสนี้นายอนุทิน และคณะได้พบหารือกับ นาย Kato Katsunobu รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ ญี่ปุ่น พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงฯ ในประเด็นการขยายความร่วมมือด้านสาธารณสุขของ 2 ประเทศด้วย ทั้งนี้ 2 ฝ่ายได้หารือถึงการสนับสนุนภารกิจของสำนักงานเลขาธิการศูนย์อาเซียน ด้านการรับมือกับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ (ACPHEED) ที่ประเทศไทย ซึ่งการริเริ่มโครงการนี้ญี่ปุ่นได้สนับสนุนงบประมาณ 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผ่านกองทุน Japan ASEAN Integration Fund (JAIF) สำหรับการศึกษาจัดตั้งศูนย์ฯ ซึ่งขณะนี้สมาชิกอาเซียนอยู่ระหว่างการจัดทำ Establishment Agreement (EA) ของศูนย์ฯ ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จและมีการลงนาม EA แล้ว ญี่ปุ่นยินดีที่จะส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมขับเคลื่อนภารกิจของ ACPHEED กับประเทศไทยและสมาชิกอาเซียนในทุกด้าน

กระทรวงสาธารณสุขไทยมีความยินดีที่ญี่ปุ่นจะเป็นประธานการจัดประชุม G7 Summit ในปี 2023 ซึ่งได้มีการจัดตั้ง “Hiroshima G7 Global Health Task Force” ขึ้นเพื่อการขับเคลื่อนประเด็นด้านสาธารณสุข ซึ่งญี่ปุ่นได้เชิญประเทศไทยเข้าร่วมเป็นคณะทำงาน (Task Force) ในประเด็นขับเคลื่อนต่างๆ ด้วย ซึ่งฝ่ายไทยยินดีที่จะส่งตัวแทนเข้าร่วม อันจะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและไทย รวมทั้งเป็นการพัฒนาขีดความสามารถด้าน Global Health ของญี่ปุ่นและไทย ในระดับโลกด้วย

นอกจากนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายยังได้หารือถึงความร่วมมือการวิจัยด้านมะเร็ง ซึ่งโรงพยาบาลภายใต้ National Cancer Institute ของญี่ปุ่นมีความสนใจจะดำเนินโครงการ Asian Cancer Trials Network (ATLAS) เพื่อพัฒนายาที่เป็นองค์ความรู้ของเอเชียพร้อมกับพัฒนา Genomic Medicine และการพัฒนาศักยภาพบุคลากรที่เกี่ยวข้อง และ โครงการ Decentralized Clinical Trials (DCT) ซึ่งเป็นการศึกษาวิจัยการรักษาผู้ป่วยมะเร็งผ่านระบบ Telemedicine ซึ่งฝ่ายไทยได้มอบหมายให้สถาบันมะเร็ง กรมการแพทย์เป็นผู้ประสานงานต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘หนู’ ลั่นฟังแค่ ‘อิ๊งค์’ ยันร่วมรัฐบาลเป็นไฟต์บังคับ ‘ทักษิณ’ พูดไม่นำพา

"อนุทิน" ลั่น! รับสัญญาณจากนายกฯ อิ๊งค์เท่านั้น ยันที่ "ทักษิณ" พูดไม่ได้หมายถึงรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย "ท่านทักษิณพูดถึงพรรคที่ไม่เข้าร่วมประชุม ผมก็ไม่นำพาไปฟังอะไรมาก"

'อนุทิน' ยันไม่ใส่ใจคำพูด 'ทักษิณ' โชว์ห้าวตะเพิดพรรคร่วมฯ ขอฟังแค่นายกฯอิ๊งค์

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวผ่านรายการข่าวเที่ยง ทางไทยพีบีเอส ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในการสัมมนาพรรคเพื่อ

'สปสช.' ยันไม่ได้ติดหนี้ รพ.มงกุฎวัฒนะ มีงบพร้อมจ่ายแต่ติดเงื่อนไขทางคดี

สืบเนื่องจากกรณี นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ระบุว่าโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะมีความจำเป็นต้องหยุดให้บริการรับส่งต่อผู้ป่

เอาแล้ว 'รพ.มงกุฎวัฒนะ' ประกาศ หยุดให้บริการรับส่งต่อผู้ป่วยนอก เหตุสปสช.ค้างจ่าย 50 ล้าน

นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ด่วนที่สุด! ได้โปรดแชร์ถึงผู้ป่วยบัตรทองจากคลินิกต่างๆที่ส่งต่อมายัง รพ.มงกุฎวัฒนะ

"อนุทิน" รับพระราชทานรางวัลชัยนาทนเรนทร ประจำปี 2567 นักการสาธารณสุขดีเด่น ประเภทบริหาร

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันนี้ (12 ธ.ค. 67) เวลา 17.50 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ผู้ได้รับรางวัลชัยนาทนเรนทร ปี พ.ศ. 2567

'ภูมิใจไทย' ยื่นร่าง พ.ร.บ.การศึกษาเท่าเทียม-อสม. เข้าสภาฯ

พรรคภูมิใจไทย นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย สส.ของพรรคภูมิใจไทย ร่วมยื่นร่างพระราชบัญญัติการศึกษาเท่าเทียม และ ร่าง (พ.ร.บ.)