นายกฯห่วงใยประชาชนกำชับ เจ้าท่า ปภ. ดูแลเข้มงวดช่วงลอยกระทง

นายกฯห่วงใยประชาชนในเทศกาลลอยกระทง แนะปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัย กำชับเจ้าท่า ปภ. ตรวจโป๊ะ ท่าน้ำ สถานที่จัดงาน พร้อมเข้มงวดห้ามจุดพลุ ปล่อยโคมลอยในพื้นที่รอบสนามบินทุกแห่งป้องกันอุบัติเหตุต่ออากาศยาน

6 พ.ย.2565 – น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้คาดการณ์ว่าเทศกาลลอยกระทงในปีนี้ ซึ่งตรงกับวันอังคารที่ 8 พ.ย. 65 จะมีประชาชนออกไปร่วมงานเป็นจำนวนมากเนื่องจากเป็นปีที่สถานการณ์โควิด19 คลี่คลาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีความยินดีที่ปีนี้ประชาชนจะได้กลับมาร่วมกันสืบสานประเพณีสำคัญของประเทศ ซึ่งหลายหน่วยงานก็ได้กลับมาจัดงานอย่างยิ่งใหญ่เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีก็แสดงความห่วงใย พร้อมกับขอให้ประชาชนถือปฏิบัติตามข้อแนะนำเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยด้านต่างๆ อาทิ ความปลอดภัยจากโควิด19 ที่แม้สถานการณ์จะคลี่คลายแล้วแต่ก็ยังพบผู้ติดเชื้อกระจายตัวในพื้นที่ต่างๆ หากต้องเข้าไปอยู่ในพื้นที่มีคนจำนวนมากก็ขอให้สวมหน้ากากอนามัย ใช้แอลกอฮอล์ล้างมือเมื่อสัมผัสสิ่งของต่างๆ หรือกรณีที่ต้องเข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่มีคนแออัด ขอให้ใช้ความระมัดระวังศึกษาเส้นทางการหลบหนีเอาตัวรอดจากอุบัติการณ์ต่างๆ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้กระทรวงคมนาคมกำชับกรมเจ้าท่ามีการตรวจสอบโป๊ะ ท่าน้ำต่างๆ โดยเฉพาะในจุดที่มีการจัดงานลอยกระทงที่จะมีคนมาร่วมจำนวนมาก ให้ดูแลให้สถานที่อยู่ในสภาพแข็งแรง มีความพร้อม หรือหากจุดใดมีความเสี่ยงต้องประกาศเตือนประชาชนอย่างชัดเจน ทางด้านกระทรวงมหาดไทยให้กำชับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หน่วยงานท้องถิ่น ให้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ให้พร้อมออกอำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือประชาชนกรณีเกิดเหตุต่างๆ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังห่วงใยถึงกรณีการละเล่นตามประเพณีต่างๆ อาทิ การจุดปะทัด จะพลุ ปล่อยโคม ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุไฟไหม้ในช่วงลอยกระทงเกือบทุกปี ซึ่งขณะนี้หลายจังหวัดได้ออกประกาศห้ามเพื่อลดผลเดือดร้อนของประชาชนแล้ว จึงขอให้มีการติดตามข้อกำหนดต่างๆของท้องถิ่นที่ตนเองอาศัยด้วย เช่น ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้มีประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง มาตรการป้องกันอันตรายจากการจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ในช่วงวันลอยกระทง ประจำปี 2565 ที่ห้ามไม่ให้มีการให้จุดพลุ ประทัด และห้ามปล่อยโคมลอยในพื้นที่กรุงเทพฯ เด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ส่วนจังหวัดอื่นๆ ในปริมณฑลเช่น จังหวัดสมุทรปราการก็มีประกาศห้ามเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่โดยรอบท่าอากาศยานทุกแห่งงดการจุดพลุ ปล่อยโคม หรือวัตถุใดๆขึ้นสู่อากาศ เพื่อไม่ให้รบกวนการขึ้น ลง และกระทบความปลอดภัยของอากาศยานและผู้โดยสาร ซึ่งปัจจุบันนี้มีกฎหมายหลายฉบับที่ออกมาป้องกันเหตุอันตราย ทั้งข้อกำหนดของท้องถิ่นข้างต้น ประมวลกฎหมายอาญา พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การเดินอากาศ (ฉบับที่ 14) พ.ศ.2562 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 ซึ่งทั้งหมดกำหนดบทลงโทษอาญาทั้งปรับและจำคุกต่อผู้ฝ่าฝืน และหากเกิดเหตุร้ายแรงขึ้นจะมีโทษถึงประหารชีวิต

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘อนุทิน’ สั่ง กทม.เร่งสอบที่มาป้ายโฆษณาขายพาสปอร์ตและสัญชาติ ย่านห้วยขวาง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้ทราบถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ได้เปิดเผยและวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างถึงกรณีมีการติดตั้งป้ายโฆษณาภาษาจีน

รัฐบาลเปิดมาตรการรับมือน้ำท่วม พร้อมแผนเผชิญเหตุตลอดหน้าฝน

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.)

มหาดไทยพร้อมชง ครม.กำหนด เวลาเล่นแข่งวัวลาน

โฆษก มท. เผยมหาดไทยพร้อมชง ครม. เคาะกฎกระทรวงกำหนดเวลาเล่นแข่งวัวลาน 18.00 น. ถึง 6.00 น. ของวันรุ่งขึ้น หนุนท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายนายกรัฐมนตรี "อนุทิน" มอบปกครองวางมาตรการกวดขัน ป้องกันผลกระทบสังคม

มท.1 ขีดเส้น 15 วัน สอบข้อเท็จจริง-รายงานผลสรุปปมอื้อฉาว 'รองผู้ว่าฯยะลา'

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และ โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตามที่ปรากฏข่าวทั้งในสื่อสาธารณะ และเกิดการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับพฤติกรรมของข้าราชการของกระทรวงมหาดไทยระดับรองผู้ว่าราชการจังหวัด เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับคนใกล้ชิด