'โอทอป' โอด! ถูกเจ้าหน้าที่อย.แจ้งจับปรับ ซัดหากินบนคราบน้ำตา ฆ่าตัดตอน คนตัวเล็ก

ประธานโอทอปเทรดเดอร์ประเทศไทย โอดชาวบ้านถูกเจ้าหน้าที่อย.แจ้งจับปรับเป็นเงินหลายหมื่นบาท ชี้เหตุขอเลขอย.ยาก เพราะหวังเงินรางวัลมาแบ่งกัน เป็นการหากินบนคราบน้ำตา และฆ่าตัดตอนโอกาสคนตัวเล็ก

4 พ.ย.2565 - นายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ หรือ นายกอุ๊ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านใหม่ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ในฐานะ ประธานโอทอปเทรดเดอร์ประเทศไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมสาธารณสุข จ.นครปฐม และผู้ประกอบการโอทอป ว่า  กรณี ผู้ประกอบการโอทอปและวิสาหกิจชุมชนหลายราย ถูกเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แจ้งจับและปรับเป็นเงินหลายหมื่นบาท เพียงเพราะไม่มีเลข อย.และรูปแบบฉลากที่ถูกต้อง โดยไม่มีการเตือนให้แก้ไขปรับปรุงก่อน โดยนายวัชรพงศ์ ตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นเพราะมีเงินรางวัลนำจับจากค่าปรับระหว่างผู้แจ้งกับข้าราชการ และนำเงินค่าปรับนั้นมาแบ่งสันปันส่วนกันตามระเบียบของอย. ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายสินบน เงินรางวัล และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน พ.ศ.2548 ข้อ 4 ผู้มีสิทธิได้รับเงินมีดังนี้คือ 1.ผู้สั่งการ หมายถึง เลขาธิการ อย. ,รองเลขาธิการอย. เฉพาะผู้ที่มีอำนาจสั่งการฯ และผู้ที่กำกับดูแลกลุ่มกฎหมายอาหารและยา ,หัวหน้ากลุ่มกฎหมายอาหารและยา, ผอ.สำนัก,ผอ.กอง, ผอ.กลุ่ม และผอ.ศูนย์เฉพาะที่มีอำนาจในการสั่งการจากค่าปรับฯ 2.เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบ 3. เจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับ และ 4 หน่วยงานของเจ้าหน้าที่ผู้ทำการช่วยเหลือ

“หรือนี่จะเป็นสาเหตุที่ทำให้ อย. ซึ่งแปลว่า เอายาก ขอยาก ผ่านยาก มีค่าใช้จ่ายสูงมาก จนชาวบ้านท้อ ถ้าไม่แก้ไขระเบียบนี้ ผู้ประกอบการรายย่อยตาย แม้จะขายข้างถนนก็ผิด ขายงานวัดก็ผิด แจกก็ยังผิด เห็นทีต้องไปขายดาวอังคาร เป็นแน่แท้ นี่มันคือการหากินบนคราบน้ำตาและการฆ่าตัดตอนโอกาสเล็ก ๆ ของชาวบ้าน ปล้นคนยากคนจน กันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มาแบ่งกัน ไม่แยกแยะรายใหญ่ รายย่อย ระเบียบต้องเป็นธรรม และไม่มีประโยชน์ทับซ้อนแบบนี้”

นายกอุ๊ กล่าวว่า ขณะนี้รวมถึงที่ผ่านมา คนทั่วไป ไม่มีใครรู้กันว่า มันเกิดอาชีพ ไล่ตามชี้เป้าแจ้งจับ สินค้า ที่ผิดระเบียบของ อย. โดยมีรายได้อย่างงดงาม ถูกต้องตาม ระเบียบที่อย.ซึ่งมีส่วนได้เสียในค่าปรับเป็นคนกำหนด นี่คือประโยชน์ทับซ้อนและความเหลื่อมล้ำ ที่ไม่เป็นธรรม บางแห่งมีการพูดถึงการร่วมมือกันทำมาหากินของระหว่างภายในหน่วยงาน สาธารณสุขกับบุคคลภายนอกในการจับและปรับ ราชการได้ผลงานและได้เงิน คนชี้เป้าก็ได้เงิน คนฉิบหายตายสนิท คือ ชาวบ้านตัวเล็กๆ ที่ต้องทำตามอย่างเดียว ทำถูกต้องก็ลงทุนเยอะมาก หลักหมื่น หลักแสน หรืออาจถึงล้าน ไม่ทำก็เสี่ยงวัดดวงเอา ว่าจะโดนจับวันไหน

นายวัชรพงศ์ กล่าวว่า ระเบียบที่ไม่เป็นธรรมเช่นนี้ แก้ได้ เพียงแค่ เลขาธิการอย. ออกระเบียบ ไม่รับส่วนแบ่งและไม่มีค่านำจับ โดยใช้วิธีการ ดังนี้ คือ 1 ) เตือน 2 ครั้งแนะนำให้แก้ไข 2 ) ปรับเข้าหลวง 100% ไม่เข้ากระเป๋า ข้าราชการและคนนำจับ เอาไปตั้งเป็นกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการชุมชน ดีกว่าไหม 3 )กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มโอทอป และผู้ประกอบการรายย่อยที่ขึ้นทะเบียนให้มีเงื่อนไขผ่อนปรนที่เป็นธรรมและเหมาะสม กำหนดระยะเวลาดำเนินการ ทดลองตลาดก่อน หากผ่านการอบรม พัฒนาจากหน่วยงานภาครัฐ ในเรื่องมาตรฐานสินค้า เพราะถ้าลุยลงทุนทำใหญ่ไป ถ้าเจ๊งก็ยาว ซึ่งมีตัวอย่างหลายรายแล้ว ทำง่าย ๆ แค่นี้ ไม่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนหมกเม็ด แบบนี้เป็นธรรมและชาวบ้านพอจะลืมตาอ้าปากได้ทั้งยังยินดีทำตามให้ถูกต้อง

"สินค้าทั้งประเทศต้องมีมาตรฐานเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค นั้นใช่ แต่ต้องมีวิธีการที่เหมาะสมระหว่างรายเล็ก รายกลาง รายใหญ่ เพราะศักยภาพ ไม่เท่ากัน ไม่อย่างนั้นปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำจะยิ่งถ่างออกไปเรื่อย ถ้ารัฐไม่เข้าใจและกำหนดระเบียบปฏิบัติตามจินตนาการเพ้อฝัน ที่ไม่สอดคล้องกับโลกแห่งความจริง ของคน ของระบบนิเวศน์ในระดับชุมชนฐานราก ซึ่งเรื่องนี้ ถ้าแก้ไข จะเป็นคุณูปการ ต่อคนจำนวนมาก" นายวัชรพงศ์ กล่าว