'บิ๊กตู่' ปลื้ม UN ชื่นชมไทยประกาศใช้ กม.ป้องกันทรมานฯ

นายกฯ ยินดีสำนักงานเพื่อสิทธิมนุษยชน UN ชื่นชมไทยประกาศใช้ พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ยืนยันขจัดปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน

03 พ.ย.2565 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่สำนักงานเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (Office of the High Commissioner for Human Rights: OHCHR) เห็นถึงความพยายามของรัฐบาล โดยชื่นชมประเทศไทยที่ได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า สำนักงานเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติมองว่า พระราชบัญญัติฯ ซึ่งประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 ถือเป็นก้าวสำคัญในการปฏิบัติตามคำมั่นของไทยเพื่อขจัดการกระทำทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหายให้หมดสิ้น และเป็นการให้ความยุติธรรมกับผู้เสียหายจากการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ซึ่งพระราชบัญญัติฯ มีเนื้อหาครอบคลุมเรื่องสิทธิในการที่จะไม่ถูกทรมานเป็นสิทธิมนุษยชนที่ไม่อาจระงับชั่วคราวได้ (non-derogation) และหลักการไม่ส่งใครกลับไปเผชิญอันตราย (non-refoulement) ซึ่งป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ขับไล่ เนรเทศ หรือส่งบุคคลใดไปยังอีกประเทศหนึ่งที่อาจเผชิญความเสี่ยงต่อการกระทำที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี หรือการกระทำให้บุคคลสูญหาย

นอกจากนี้ สำนักงานเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติยังชื่นชมไทยที่ปฏิบัติตามคำมั่นที่ให้ไว้ในการทบทวนสิทธิมนุษยชนครั้งล่าสุดตามกระบวนการ Universal Periodic Review (UPR) และระบุว่า หลังจากที่มีกรอบกฎหมายบังคับใช้ในประเทศแล้ว ประเทศไทยสามารถดำเนินการให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ (International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance) และพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมาน และการกระทำอื่น ๆ ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (Optional Protocol to the Convention against Torture and other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or Punishment) ในลำดับถัดไป และพร้อมให้การสนับสนุนทางเทคนิคแก่รัฐบาลตามที่มีความจำเป็นอีกด้วย

“รัฐบาลภายใต้การบริหารของนายกฯ มีความมุ่งมั่นที่จะบังคับใช้พระราชบัญญัติฯ แก้ไขปัญหาการกระทำทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ซึ่งกระทำโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงไม่ว่าในสถานการณ์ใด ๆ ด้วยมุ่งหวังขจัดปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ร้ายแรง และสร้างหลักประกันความเป็นธรรมให้กับประชาชน รวมทั้งยกระดับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนตามมาตรฐานสากล และสร้างความเชื่อมั่นด้านกระบวนการยุติธรรม ส่งเสริมภาพลักษณ์ของไทย” นายอนุชา กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลต่อยอดยุค'ลุงตู่'สั่งเดินหน้ากระชับสัมพันธ์ซาอุฯ

นายกฯ ติดตามการทำงาน และสั่งการเดินหน้ากระชับสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ หลังการจัดงานประชุมภาคธุรกิจ Thai-Saudi Investment Forum จับคู่เจรจาธุรกิจกว่า 100 คู่ พร้อมเปิดสำนักงาน BOI ณ กรุงริยาด

นายกฯ เชื่อมั่น 69 นักกีฬาพาราลิมปิกไทยจะทำผลงานเยี่ยมที่ปารีส 2024

นายกฯ ชื่นชมความสามารถทัพนักกีฬาพาราลิมปิกไทย คว้าโควตาเข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 17 ประเทศฝรั่งเศส ได้ 69 คน จาก 13 ชนิดกีฬา เชื่อมั่นทำผลงานดีเยี่ยม

รัฐบาลตีปี๊บจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวพร้อมวาดฝันปี 2568

รัฐบาลส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วง Green Season จัดกิจกรรม Amazing Beach Life Festival ใน 4 พื้นที่ ระยอง - พังงา - ภูเก็ต – สงขลา พร้อมตั้งเป้าปี 2568 เป็น Thailand Grand Tourism Year

ตรรกะวิบัติ! 'ไทยภักดี' ซัดรัฐบาล แจงเหตุขายชาติไม่เนียนพอ

นายทศพล พรหมเกตุ เลขาธิการพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีที่นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ชี้แจงประเด็นนโยบายให้ต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปี