'จาตุรนต์' งงตรรกะ 'อนุทิน' ไม่เข้าใจแนวคิด ผู้เสพคือผู้ป่วย ชี้กำหนดยาเสพติดในครอบครองของผู้เสพไม่สอดรับกับความเป็นจริง ชี้ผู้ป่วยต้องเข้าบำบัดไม่ใช่จับขังคุก
26 ต.ค.2565 - นายจาตุรนต์ ฉายแสง สมาชิกพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขที่เสนอให้ประชาชนร่วมตัดสินใจในประเด็นครอบครอง ยาบ้า กี่เม็ดถึงเข้าข่าย ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย ไม่ต้องรับโทษในเรือนจำ ว่า ที่ รมว.สธ.บอกว่าน่าประหลาดใจ ที่มีความห่วงกังวล คุกจะไม่พอขังผู้กระทำผิด แต่ไม่มีใครห่วงโรงพยาบาล จะมีสถานที่พอรองรับผู้เสพหรือไม่ แปลว่าท่านคิดว่าควรจะจับผู้เสพไปขังให้มากๆจะได้ไม่เป็นภาระกับระบบสาธารณสุขใช่หรือไม่
“ถ้า รมว.สธ.คิดอย่างนี้ก็แสดงว่ายังไม่เข้าใจแนวความคิดเรื่อง ผู้เสพเป็นผู้ป่วย ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มากและก็ทำให้เราเข้าใจได้ไม่ยากกว่าเหตุใดทุกวันนี้ระบบบำบัดผู้เสพยาเสพติดจึงมีอยู่น้อยมาก เหตุใดผู้เสพจำนวนมากจึงอยู่กันไปตามยถากรรมไม่ได้รับการดูแลใดๆ เพราะสังคมที่เขาแก้ปัญหายาเสพติดได้ดีคือเขาไม่ปล่อยให้ค้ายาเสพติดกันอย่างแพร่หลายอย่างเมืองไทย ผู้เสพจึงมีไม่มาก และเขาถือว่าผู้เสพโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่ติดยาคือเหยื่อผู้ถูกกระทำซึ่งเป็นผลจากความบกพร่องของรัฐ เขาจึงไม่ถือว่าเป็นอาชญากรแต่ถือว่าเป็นผู้ป่วยต้องใช้วิธีบำบัดไม่ใช่จับมาขังคุก”
นายจาตุรนต์กล่าวว่า การจับผู้เสพยาไปขังคุกไม่ใช่ทางแก้ปัญหาและจะยิ่งทำให้ปัญหาหนักยิ่งขึ้น เพราะผู้ปกครองก็จะไม่ให้ความร่วมมือ เพราะไม่อยากให้ลูกตนเองติดคุก เด็กที่ติดคุกในระบบคุกของไทย ออกมาแล้วก็มักทำอาชญากรรมร้ายแรงที่เรียนจากในคุก ดังนั้นจึงต้องมีนโยบายทั้งการกำหนดปริมาณ และการถือว่าผู้เสพเป็นผู้ป่วยที่นำมาใช้ให้เกิดขึ้นจริงเสียที ส่วนที่ว่าทำไมจึงกำหนดจำนวนหรือปริมาณยาเสพติดในครอบครองสำหรับผู้เสพและผู้ค้าไว้ เช่นถ้าต่ำกว่ากี่เม็ดเป็นผู้เสพ มากกว่ากี่เม็ดเป็นผู้ค้าหรือมากแค่ไหนเป็นผู้ค้ารายใหญ่ การกำหนดจำนวนยาเสพติดในครอบครองของผู้เสพน้อยมากๆย่อมไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง คนติดยาเสพติดจะซื้อยาเสพติดทุกวันได้อย่างไร สมมติว่าถ้าให้มีได้ไม่เกิน 1 เม็ด เขาก็คงต้องซื้อทุกวัน
“อีกอย่างหนึ่ง การกำหนดจำนวนยาเสพติดในครอบครองน้อยมากๆ มักเกิดการยัดหลักฐานให้ผู้ต้องหาได้ง่าย ตำรวจอยากจะแกล้งใครก็เอายาเสพติดติดตัวไปเม็ดสองเม็ดทำหล่นในกระเป๋าหรือลิ้นชักเด็ก เด็กก็จะถูกตั้งข้อหาเป็นผู้ค้าไปทันที นี่ก็เป็นความเป็นจริงที่เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อนุทินแจ้งนายกฯ โหวตไม่เห็นด้วย! กัญชาสู่ยาเสพติด
"อนุทิน" แจ้งนายกฯ ทราบ เตรียมโหวตไม่เห็นด้วยนำกัญชากลับเป็นยาเสพติด
"อนุทิน" ประธาน MOU 3 หน่วยงาน ส่งเสริม พัฒนาศักยภาพนักเรียน นักศึกษา และกำลังคนทุกช่วงวัย สร้างกำลังคนสมรรถนะสูงขับเคลื่อนประเทศ
วันนี้ (18 กรกฎาคม 2567) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ การส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพนักเรียน นักศึกษาและกำลังคนทุกช่วงวัย ระหว่าง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ
ชัดเจน! เสี่ยหนูบอกนายกฯ แล้วไม่เห็นด้วยโยกกัญชากลับมาเป็นยาเสพติด
'อนุทิน' แจ้งนายกฯทราบ เตรียมโหวตไม่เห็นด้วยกัญชากลับเป็นยาเสพติดในที่ประชุม ป.ป.ส. หลังเกิดความไม่สบายใจ ชี้พรรคร่วม รบ.ต้องสนับสนุนนโยบายซึ่งกันและกัน ข้องใจ สธ.เปลี่ยนความเห็นกลับไปกลับมา
'พิชัย' แก้เกี้ยวบอกดิจิทัลวอลเล็ตคิดตั้งแต่วันแรกไม่ใช่คิดไปทำไป
'พิชัย' ยันรัฐบาลจัดสรรเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ย้ำไม่ใช่คิดไปทำไป แต่คิดตั้งแต่วันแรกว่าต้องมีนโยบาย 'ดิจิทัลวอลเล็ต' ชี้หากจะแก้ปัญหาโครงสร้าง ต้องรู้ก่อนว่าทำให้ใคร
ยื่นปปช.ฟัน‘เกศ’บี้ไขก๊อก
“อนุทิน” ชม สว.ชุดใหม่ ดี! เชื่อทำงานประสานรัฐบาล-สส.ได้
กระทรวงมหาดไทย จับมือ กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.) ร่วมลงนาม MOU "แนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วมในระดับพื้นที่" มุ่ง
วันนี้ (11 ก.ค. 67) เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท กรุงเทพมหานคร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นางสาวศุภมาศ อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ