เพื่อไทยจี้ 'ประยุทธ์' หาต้นตอ 'ขบวนการหักหัวคิว' เงินกู้ซื้อบ้านพักสวัสดิการทหาร ข้องใจ ระบอบอำนาจนิยมในกองทัพแผ่ขยาย ทหารชั้นผู้น้อยถูกเอาเปรียบ
20 ต.ค.2565 - น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่สื่อหลายสำนักเปิดโปงกระบวนการหักหัวคิวเงินกู้ซื้อบ้านพักสวัสดิการทหาร มีอดีตนายทหารชั้นผู้น้อยและบริษัทผู้ประกอบการสร้างบ้านเข้าให้ข้อมูลกับสื่อจนถูกข่มขู่ซ้ำอีกว่า เรื่องนี้ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ถูกซุกไว้ใต้พรม แม้จะถูกเปิดโปงภายหลังเหตุโศกนาฏกรรมที่ จ.นครราชสีมา เมื่อปี 2563 แต่วงจรอุบาทว์นี้ยังคงวนเวียนกัดกร่อนสังคมไทยไม่ถูกแก้ไขมาจนทุกวันนี้จนเกิดการร้องเรียนขึ้นอีก ประชาชนคนไทยรู้สึกผิดหวังละอายใจที่ต้องรับฟังชุดคำตอบเดิมๆ จากผู้รับผิดชอบว่า เป็นการกระทำส่วนบุคคล ทั้งที่สาเหตุหลักของการเหตุสลดต่างๆที่เกิดขึ้น มีที่มาจาก ระบอบอำนาจนิยมภายในกองทัพ ที่ทหารชั้นผู้น้อยถูกเอารัดเอาเปรียบทั้งในมิติของอำนาจ ค่าจ้าง และความเป็นมนุษย์ใช่หรือไม่ การกดขี่ทางชนชั้นของกองทัพเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ในสังคมไทย สะท้อนผ่านหลายกรณี เช่น ทหารรับใช้แรงงานฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย กำลังพลล่องหนใน กอ.รมน. หรือคลิปการใช้อำนาจของผู้นำหน่วยขณะสั่งสอนทหารชั้นผู้น้อย ในยุคสมัยนี้ไม่ควรต้องมีใครถูกกดทับด้วยอำนาจภายใต้เงินภาษีของประชาชนอีกแล้ว
น.ส.ลิณธิภรณ์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาหน่วยงานภายใต้กระทรวงกลาโหมยังถูกมองว่าเป็นดินแดนสนธยาที่ยากต่อการตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอก สงสัยว่าหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่พลเอกประยุทธ์อยู่ในอำนาจ ได้ส่งผลให้อิทธิพลของระบอบอำนาจนิยมแผ่ขยายมากขึ้นใช่หรือไม่ การกดขี่คนที่อยู่ต่ำกว่าโดยไม่สนใจกติกา เพราะถือว่าตนเองเป็นผู้ถือครองอำนาจ จึงยังคงทวีความรุนแรงขึ้นในทุกวันนี้ สอดรับกับการประเมินของ สำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment: ITA) ประจำปีงบประมาณ 2565 ตัวชี้วัดในด้านการป้องกันการทุจริต หน่วยงานที่มีคะแนน ITA ที่ถือว่าไม่ผ่านเพราะต่ำกว่า 85 คะแนน คือ กองทัพบก 81.25 คะแนน โดยข้อมูลการประเมินชุดนี้ เป็นการประเมินจากบุคลากรภาครัฐ และประชาชนที่เคยติดต่อหรือรับบริการจากหน่วยงานภาครัฐ เข้ามามีส่วนร่วมกับการประเมินถึง 1,300,132 คน จึงไม่น่าแปลกใจที่กองทัพไทยวันนี้ กำลังเจอวิกฤตศรัทธาจากประชาชน
น.ส.ลินธิภรณ์กล่าวว่า รัฐบาลต้องเร่งสืบสาวหาต้นตอ หาผู้รับผิดชอบ ไม่ใช่การผลักภาระไปที่ผู้ประกอบการ หรือข้าราชการทหารชั้นผู้น้อย ต้องเข้าไปดูถึงชั้นระดับนายพลมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ผู้นำประเทศอย่างพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและยังควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ควรต้องมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนี้ด้วย หากกองทัพไม่จริงจังในการสืบหาความจริงในเรื่องดังกล่าว จะส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือของกองทัพในสายตาประชาชน และในสายตาของต่างชาติ ทหารต้องเป็นทหารมืออาชีพเหมือนในประเทศที่เจริญแล้วให้ได้
“วันนี้ คนไทยทุกคนยังคงจำคำมั่นสัญญาที่อดีต ผบ.ทบ.ให้ไว้ว่าจะปฏิรูปกองทัพภายใน 90 วันหลังเหตุโศกนาฏกรรมที่นครราชสีมาเมื่อต้นปี 2563 คำมั่นของชายชาติทหารในวันนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้ยินหรือไม่ หากท่านไม่ได้ยินหรือจำไม่ได้ ก็ขอให้จดจำเสียงร่ำไห้ของครอบครัวผู้สูญเสียจากเหตุโศกนาฏกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากความล้มเหลวที่ในยุคที่ท่านเป็นนายกฯ ด้วย”น.ส.ลิณธิภรณ์กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ภูมิธรรม' ไม่ขีดเส้นตาย 'ทัพเรือ' ชี้แจงเปลี่ยนเครื่องยนต์เรือดำน้ำเป็นของจีน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเรือดำน้ำ หลังสั่งการให้กองทัพเรือไปจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติม ในกรณีที่ต้องเปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์ CHD620 ของจีน และการขยายสัญญา 1,217 วัน
สลด! นักเรียนหญิง ม.3 พลัดตกอาคารชั้น 7 เสียชีวิตแล้ว
เกิดเหตุเด็กนักเรียนหญิงของโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา พลัดตกลงมาจากอาคารเรียนเฉลิมพระเกียรติ
โคราชจัดยิ่งใหญ่ เทศกาลเที่ยวพิมาย ปี 2567 เช็กกิจกรรมไฮไลท์ในงานถึง 10 พ.ย.
ที่บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดงานเทศกาลเที่ยวพิมาย ประจำปี 2567
ไอเดียเจ๋ง! แต่งผีชวนคนบริจาคเลือดฉลองฮาโลวีน
นางสาวศิริลักษณ์ เพียกขุนทด หัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา พร้อมด้วยนางสาวปพิชญา ณ นครพนม ผู้อำนวยการศูนย์การค้าฯ ร่วมจัดกิจกรรมแต่งผีชวนคนมาให้เลือด เนื่องในวันฮาโลวีน
'เทพไท' ซัดโศกนาฏกรรม 85 ศพตากใบเกิดยุคพ่อจบยุคลูกไร้คนผิด!
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช
ยิ่งคุ้ยยิ่งเจอ! บุกตรวจอู่รถถอดถังแก๊ส บริษัทรถบัสมรณะ เป็นอู่เถื่อนไร้ใบอนุญาต
ความคืบหน้าการตรวจสอบอยู่ที่รถบัส 5 คัน ที่เจ้าหน้าที่ขนส่งตรวจยึดตรวจสอบพบความผิดปกติคือจำนวนถังก๊าซ CNG ของรถทั้ง 5 คันที่แจ้งจดทะเบียนไว้กับสำนักงานขนส่งนั้นไม่ตรงกับข้อมูลที่จดทะเบียนเอาไว้ บางคันแจ้งเอาไว้ 2 ถัง