นายกฯ ห่วงเยาวชนจากภัยออนไลน์ สั่งศึกษาอุดช่องโหว่กฎหมาย

17 ต.ค. 2565 – น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีความห่วงเยาวชนจากภัยออนไลน์ ที่ปัจจุบันมิจฉาชีพและผู้ไม่หวังดีแฝงตัวและเข้ามากระทำไม่เหมาะสมผ่านการล่อลวง (Grooming) และนำไปสู่การกระทำผิด อาทิ การล่วงละเมิดทางเพศ การข่มขู่แบล็กเมล จนอาจนำไปสู่ความสูญเสียต่างๆ

ทั้งนี้ มีข้อมูลการสำรวจจากความร่วมมือของหลายหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย มูลนิธิศานติวัฒนธรรม ซึ่งได้สำรวจสถานการณ์เด็กกับภัยออนไลน์ 2565 ในเยาวชนกลุ่มตัวอย่างอายุ 9-18 ปี พบข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าเยาวชนอยู่ในความเสี่ยงที่จะเผชิญภัยออนไลน์

รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ตามข้อมูลระบุว่าจากเยาวชนกลุ่มตัวอย่าง 31,965 คน ร้อยละ 81 มีแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนของตัวเอง 64% มีอินเทอร์เน็ตที่บ้าน ร้อยละ 85 ใช้โซเชียลมีเดียทุกวันหรือเกือบทุกวันหรือเล่นเกมอย่างหนัก โดยเด็กกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 54 เคยพบเห็นสื่อลามกอนาจาร ร้อยละ 36 มีประสบการณ์ถูกจีบในโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงที่คนร้ายจะหลอกให้เด็กตกหลุมรัก ขอภาพลับ นัดพบเพื่อละเมิดทางเพศแล้วถ่ายรูปข่มขู่แบล็กเมล อาจนำไปสู่ปัญหาซึมเศร้าและอาจฆ่าตัวตาย นอกจากนี้ ยังมีภัยอื่นๆ อาทิ การถูกรังแกหรือบูลลี่ออนไลน์ การเข้าเว็บไซต์ผิดกฎหมาย อันตราย เล่นพนันออนไลน์ เป็นต้น

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีรับทราบถึงข้อมูลปัญหาดังกล่าวและมีความห่วงใยต่อเยาวชนจากภัยออนไลน์ และเห็นว่าปัญหานี้จะต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายส่วน ทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองในฐานะผู้ใกล้ชิดมากที่สุด ต้องดูแลการใช้โซเชียลมีเดียของบุตรหลานอย่างใกล้ชิด มีการพูดคุยให้ข้อคิด คำแนะนำต่างๆ โรงเรียน สถานศึกษา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันให้ความรู้ความเข้าใจถึงการใช้งานโซเชียลมีเดียอย่างถูกต้องและปลอดภัย

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้หน่วยงานเกี่ยวข้องศึกษาในประเด็นที่ยังมีช่องว่างทางกฎหมาย เช่น กรณีที่ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายที่เอาผิดกับผู้ที่เริ่มมีพฤติกรรมการล่อลวงเด็กด้วยวัตถุประสงค์ทางเพศ (grooming) โดยยังไม่มีการพาไปหรือลงมือกระทำล่วงละเมิดทางเพศ เพื่อเป็นการป้องปรามการกระทำผิดตั้งแต่ต้นไม่รอจนเกิดการกระทำผิดและเสียหายก่อน เป็นต้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘อนุทิน’ สั่ง กทม.เร่งสอบที่มาป้ายโฆษณาขายพาสปอร์ตและสัญชาติ ย่านห้วยขวาง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้ทราบถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ได้เปิดเผยและวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างถึงกรณีมีการติดตั้งป้ายโฆษณาภาษาจีน

รัฐบาลชวนปชช. จอง-แลกเหรียญเฉลิมพระเกียรติ 'ในหลวง' เริ่ม 24 ก.ค.

รัฐบาลเชิญชวนประชาชน จอง-แลกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก เหรียญที่ระลึก และเหรียญเฉลิมพระเกียรติ 'ในหลวง' เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ตั้งแต่ 24 ก.ค.นี้

'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป

'พ.ร.บ.นิรโทษกรรม' เสี่ยงโมฆะ! ขืนรวมความผิด 'ม.112-110'

'คารม' เตือน 'พ.ร.บ.นิรโทษกรรม' เสี่ยงโมฆะ ขืนรวมความผิด 'ม.112-110' ส่อขัดรัฐธรรมนูญ ยิ่งเพิ่มขัดแย้ง แนะผู้ถูกกล่าวหาต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม พิสูจน์ความบริสุทธิ์ตัวเอง

แจกเงินดิจิทัล1หมื่นบาท ปิดปาก 'ปุ๋ย คนละครึ่ง'?

รัฐบาลเพื่อไทยนำโดย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ผนึกกำลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ