'ประมงพื้นบ้าน' จ่อบุกพบ 'บิ๊กป้อม' ทวงสัญญาผลักดันประกาศห้ามจับสัตว์น้ำเล็ก

ประมงพื้นบ้านเตรียมบุกทำเนียบขอพบ “บิ๊กป้อม” ทวงสัญญาเดินหน้า ม.57 ห้ามจับสัตว์น้ำเล็กกว่ามาตรฐาน เผยถูกประมงพาณิชย์ขวาง หวั่นไทยโดนใบเหลืองอียูอีกรอบ

27 ก.ย.2565 - ตัวแทนประมงพื้นบ้านร่วม 30 คนจากภาคใต้และภาคตะวันตกประกาศบุกทำเนียบรัฐบาล ภายหลังจากเดินทางมารวมตัวกันหน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์(กษ.)และขอเข้าพบพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการประมงแห่งชาติ ในวันที่ 28 กันยายนนี้

นายวิโชคศักดิ์ รณรงค์ไพรี นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย เปิดเผยว่า สมาคมรักษ์ทะเลไทยและสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทยได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ และจัดกิจกรรมต่อเนื่องเพื่อรอคำตอบจากรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 26 กันยายนเพื่อทวงสัญญาที่กระทรวงเกษตรฯซึ่งรับปากไว้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนว่าจะผลักดันออกประกาศมาตรา 57 ใน พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558 ห้ามมิให้ผู้ใดจับสัตว์น้ำหรือนำสัตว์น้ำที่มีขนาดเล็กกว่าที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดขึ้นเรือประมง

นายวิโชคศักดิ์กล่าวว่า ในวันที่ 30 กันยายนนี้ พลเอกประวิตร มีกำหนดเป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ แต่การประชุมครั้งนี้กลับไม่มีวาระเรื่องมาตรา 57 สะท้อนให้เห็นถึงความล่าช้าและไม่จริงจังของรัฐบาลไทยในการเดินหน้าเรื่องนี้

นายวิโชคศักดิ์ กล่าวว่าปี 2558 หลังจากประเทศไทยถูกใบเหลืองจากอียู กรมประมงได้ชำระกฎหมายประมงที่ไม่ทันกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบันและได้ระบุถึงการกำหนดรายละเอียดขนาดของสัตว์น้ำที่ห้ามนำขึ้นเรือ (มาตรา 57) ทว่าผ่านมา 7 ปีแล้วยังขาดรายละเอียดและการบังคับใช้ ปีนี้เครือข่ายฯ จึงเรียกร้องให้มีการบังคับใช้อย่างจริงจัง

“ปลายปีนี้ ประเทศไทยจะต้องส่งความคืบหน้าแก้ไขปัญหาด้านประมงกับอียู ถึงวันนี้จะปรับสถานะดีขึ้นจากใบเหลืองเป็นใบเขียวแล้ว แต่ถ้ากฎหมายประมงไทยยังดูแลทะเลได้ไม่ดีพอก็มีสิทธิปรับเป็นใบเหลืองอีกได้” ตัวแทนสมาคมรักษ์ทะเลไทย กล่าว

นายปิยะ เทศน์แย้ม นายกสมาคมสมาพันธ์ประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทยกล่าวว่าล่าสุดเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2565 กรมประมง กระทรวงเกษตรฯเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นเบื้องต้นมาตรา 57 เพื่อประกอบการพิจารณาการออกร่างประกาศ หลังจากนั้นความคืบหน้ายังเงียบและการรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวไม่ทั่วถึงอย่างแท้จริง เนื่องจากสื่อสารกับชาวบ้านไม่ครบถ้วน อีกทั้งยังมีอิทธิพลของประมงพาณิชย์กดดันคัดค้านการออกมาตรการดังกล่าว

“พวกเรายืนยันว่าการมีมาตรา 57 ในกฎหมายประมงเป็นเรื่องสำคัญเพราะจะรักษาความมั่นคงทางอาหารของคนไทย ตัวอย่างที่ชัดเจนคือเมนูน้ำพริกปลาทูซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้าน แหล่งโปรตีนราคาถูกของคนทุกเพศทุกวัย ในอดีตประเทศไทยจับปลาทูได้มหาศาล แต่เพราะการจับลูกปลาทูก่อนวัยอันควรปะปนกับปลาขนาดเล็กสายพันธุ์อื่น ๆ ด้วยเครื่องมือประมงทำลายล้างสูง ทำให้ปลาทูไทยเสี่ยงสูญพันธุ์ ปัจจุบันปลาทูไทยมีจำนวนน้อยลงเฉลี่ยร้อยละ 20 ต่อปี”นายปิยะ กล่าว

ทั้งนี้ มิถุนายนที่ผ่านมาภาคีน้ำพริกปลาทูได้ระดมพลชาวประมงพื้นบ้านจากหลายสิบชุมชนล่องเรือจากอ่าวปัตตานีถึงกรุงเทพฯ ร่วมพันกิโลเมตร บุกรัฐสภาเพื่อยื่นหนังสือกับตัวแทนรัฐบาล โดยให้เวลา 30 วันเพื่อตอบรับ ถัดจากนั้นเครือข่าย ฯ ได้ประกาศขยายเวลาเพิ่มเป็น 60 วัน เพื่อให้รัฐบาลสามารถดำเนินการกำหนดมาตรการควบคุมการจับสัตว์น้ำขนาดเล็กตามมาตรา 57 แต่ทว่าผ่านมากว่า 90 วันแล้ว รัฐบาลยังเงียบหายไปและขาดความชัดเจน วันนี้เครือข่าย ฯ จึงได้เดินทางมาทวงสัญญา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ชัยวุฒิ' ยก 'บิ๊กป้อม' สุภาพบุรุษ ขับก๊วนธรรมนัส เหมือนหย่าเมีย

'ชัยวุฒิ' ยกย่อง 'บิ๊กป้อม' สุภาพบุรุษ เปรียบขับ 20 สส.ก๊วนธรรมนัส พ้นพรรค เหมือนผัวเมียไม่รักแล้วหย่ากัน จบด้วยดี ยืนยัน พปชร. ไม่แตกแยก พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้านเพื่อ ปชช.

ประมงสมุทรสาคร เร่งหาสาเหตุปลาสลิดบ้านแพ้วตายเกลื่อน

นายเผดิม รอดอินทร์ ประมงสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายณัฐพงษ์ จันทร์พงษ์ นักวิชาการประมงปฏิบัติการ กลุ่มพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการประมง ลงพื้นที่ หมู่ 8 ตำบลโรงเข้  อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาสลิด

ปูด 3 บอส กำจัด 'บิ๊กป้อม' พ้นวงจรการเมือง-จ้องขโมย สส.

นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ถึงขบวนการกำจัดพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) พ้นจากการเมือง ว่ามี 3 บุคคล คือ 1.ผู้นำสูงสุดของพรรคเพื่อไทย

รัฐบาลแพทองธาร อยู่ไม่ครบปี บิ๊กป้อม ยังสู้-พปชร.เดินหน้าต่อ

เหลือเวลาอีกเพียง 3 สัปดาห์เศษ ปี 2567 ก็จะผ่านพ้นไปแล้วเพื่อเข้าสู่ปีใหม่ 2568 ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2567 เป็นอย่างไร และปีหน้า 2568 จะมีทิศทางเช่นไร เรื่องนี้มีมุมมองแนววิเคราะห์จาก