วันเยาวชนแห่งชาติปีนี้ ตีแผ่ปัจจัยเสี่ยง ‘เหล้า-ยา-พนัน’ กระตุ้นวัยรุ่นเปิดศึกศักดิ์ศรีก่อคดี ก่อนจบลงที่สถานพินิจ ‘ทิชา’ ย้ำต้องปรับพฤติกรรมทัศนคติ เปลี่ยนอริเป็นสหาย
16 ก.ย. 2565 – มีการจัดเวทีเสวนา “วัยรุ่นกับศักดิ์ศรีและความรุนแรง…บทเรียนราคาแพง” เนื่องใน “วันเยาวชนแห่งชาติ” 20 ก.ย. 65 จัดขึ้นโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง มูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว เครือข่ายละครเฉพาะกิจเธียเตอร์ และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก
นางทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกาญจนาภิเษก กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงเยาวชนที่ก้าวพลาด ให้ลุกขึ้นยืนและคืนคุณค่าอย่างสันติ เป็นจุดยืนของบ้านกาญจนาฯ แม้ว่าจะเป็นงานยาก เนื่องจากความคิดและค่านิยมสังคมมองคนกลุ่มนี้ติดลบ แต่ยังเชื่อว่าการทำงานกับวัยรุ่นที่เป็นคู่ขัดแย้ง ให้หันมาเป็นมิตรสามารถทำได้ผ่าน 6 แนวคิด ดังนี้
1.สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เคารพคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และไปให้ถึงความปลอดภัยของทุกคนเพราะ1 คน ไม่ปลอดภัยเท่ากับทุกคนไม่ปลอดภัย 2.ปฏิเสธระบบอำนาจนิยมหรืออำนาจแนวดิ่งและพัฒนาอำนาจในแนวราบขึ้นมา แต่ต้องยอมรับการโต้กลับเพื่อรักษาจุดยืนของฝ่ายอำนาจนิยม เฉพาะที่บ้านกาญจนาภิเษก “สงครามทางความคิด” ยาวนานเกือบ5ปี 3.ออกแบบให้มีการเปิดรับข้อมูล จากวัยรุ่นทุกคนในพื้นที่รวมถึงคู่ขัดแย้งให้มากที่สุด จากนั้นค่อยนำข้อมูลมาวางแผนการขับเคลื่อน การใช้ประสบการณ์ของผู้ใหญ่โดยไม่ฟังเสียงวัยรุ่นผู้มีส่วนได้เสียอาจลดทอนพลังที่สร้างการเปลี่ยนแปลง 4.Pay it Forward หรือจ่ายไปก่อนหรือทุกการแก้ปัญหามีราคาที่ต้องจ่ายและอาจแพงมาก 5.ต้องดื้อรั้นให้นานพอ ไม่เช่นนั้นการเปลี่ยนแปลงจะไม่มีทางตั้งแกนได้ ถ้าสู้ๆ ถอยๆ เกรงใจ ประนีประนอม และ 6.กล้าถูกเกลียด–ยอมถูกเกลียด คือผลผลิต คือรางวัลระหว่างเส้นทางอันยาวไกล แต่ในที่สุดผลลัพธ์ก็จะผลิบาน ซึ่งอาจใช้เวลายาวนาน ต้องรอคอยอย่างเชื่อมั่น
ด้านนายเบนซ์ อดีตเยาวชนศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน(ชาย)บ้านกาญจนาภิเษก เปิดใจว่า ตอนอายุ 15 ปี ได้รวมกลุ่มกับเพื่อนในชุมชน ชอบตั้งวงกินเหล้าและใช้สารเสพติด ต่อมามีวัยรุ่นชายอายุรุ่นเดียวกันกำลังคบหากับผู้หญิงในชุมชน แต่ตัวเองกลับไม่ชอบหน้าจึงตามหาเรื่องและทะเลาะตลอด เมื่อเข้าเรียนต่ออาชีวศึกษาก็อยู่สถาบันที่เป็นคู่อริกัน สุดท้ายได้ใช้ปืนยิงต่อสู้จนมีคนเสียชีวิต ทำให้ชายคนดังกล่าวได้รับโทษและถูกส่งตัวไปอยู่ที่บ้านกาญจนาฯ ส่วนตัวเองถูกจับข้อหาอื่น และถูกส่งไปยังบ้านต้นทาง และต่อมาก็ขอย้ายตามไปอยู่ที่บ้านกาญจนาฯด้วยหวังแก้แค้น แต่พอเข้าไปแล้วระบบการดูแล และวัฒนธรรม กลับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง ไม่ทะเลาะ ไม่ใช้ความรุนแรง มีโอกาสคุยกับคู่กรณีซึ่งตอนนี้กลายมาเป็นเพื่อนกันแล้วพบว่า เราไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน แต่เป็นความคึกคะนองของวัยรุ่นที่ทำให้มีปัญหา
“มองย้อนกลับไปเสียใจมาก ขอให้คนรุ่นใหม่ใช้ประสบการณ์ชีวิตทั้งดีและร้ายเพื่อเตือนตัวเอง เมื่อเจอเหตุการณ์อะไรขอให้มีสติ คิดให้มาก เพราะถ้าพลาดแล้วบางคนสามารถแก้ตัวได้ แต่บางคนอาจเสียชีวิต ไม่มีโอกาสได้แก้ไขอะไรเลย และฝากครอบครัวที่มีลูกหลานวัยรุ่น ให้พยายามพูดคุย อยู่เคียงข้างเขา แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องเข้าข้างเมื่อทำผิด แต่ต้องเอาใจใส่ เปิดโอกาส ซึ่งสำคัญมาก” นายเบนซ์ ระบุ
นายใหญ่ อดีตเยาวชนศูนย์ฝึกบ้านกาญจนาฯ กล่าวว่า เมื่อปี 2545 พ่อของตนเสียชีวิตจากเหตุทะเลาะวิวาทกับคนข้างบ้านในวงเหล้า ทำให้ตนโกรธแค้นคิดว่าชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต ต่อมาตนโดนคดีปล้นทรัพย์ จึงได้ไปตามหาคู่กรณีที่บ้านต้นทาง และบ้านกรุณา แต่คลาดกันเพราะคู่กรณีก็ถูกย้ายไปยังบ้านกาญนาฯ เพราะความประพฤติดี และด้วยความต้องการแก้แค้นจึงพยายามปรับพฤติกรรมทำตัวนิ่งๆ ไม่เกเรเพื่อให้ตนได้เข้าไปอยู่ที่บ้านกาญจนาเช่นกัน ซึ่งก็สำเร็จได้เข้าไปอยู่ที่บ้านกาญจนา และได้เจอกับคู่กรณี มีโอกาสรับฟังมุมมองของเขาที่บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่ทำเพื่อป้องกันตัว ซึ่งตนไม่เชื่อและยังต้องการแก้แค้น แต่วัฒนธรรมของบ้านกาญจนาฯ ไม่มีใครส่งเสริม หรือช่วยเหลือคนใช้ความรุนแรง ความรุนแรงเป็นเรื่องแลปกสำหรับที่นี่และไม่มีใครยอมรับ แต่ที่นี่พยายามแยกให้ทำกิจกรรม และปรับวิธีคิด ตระหนักรู้ในคุณค่าของตนเอง เตรียมความพร้อมออกสู่สังคม อีกจุดเปลี่ยนสำคัญคืองานวันสันติภาพ ที่คู่กรณีและคุณพ่อของเขาได้มาขอขมาตนเองและย่า จึงนำมาสู่การให้อภัย และสามารถเป็นเพื่อนกันได้ในที่สุด
ขณะที่ นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ รักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. กล่าวว่า เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติปีนี้ ได้ยกประเด็นความรุนแรงเป็นบทเรียนราคาแพงในกลุ่มวัยรุ่นขึ้นมา มีเป้าหมายเผยสถานการณ์ปัจจัยเสี่ยงจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การพนัน ยาเสพติด ที่นำมาสู่ความรุนแรง และการก้าวพลาดของเยาวชน หลังการศึกษาทั้งในและต่างประเทศ พบว่า เยาวชนที่เริ่มดื่มตั้งแต่อายุน้อย พฤติกรรมอาจมีปัญหามากกว่ากลุ่มที่ไม่ดื่ม และมีโอกาสใช้สารเสพติดชนิดอื่นๆ ร่วมด้วย ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสการก้าวพลาด ผลสำรวจเยาวชนในสถานพินิจ ปี 2564 พบว่า 82% เยาวชนที่เข้ามาใช้สารเสพติด และเป็นปัจจัยร่วมที่ทำให้ก่อความผิด และทำผิดซ้ำ โดยสารเสพติดที่พบมากสุดคือ ยาสูบ แอมเฟตามีน และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกว่า 90% ใช้มากกว่า 1 ประเภท ขณะที่ผลสำรวจแนวโน้มการดื่มสุราในประชากรไทยปี 2554 – 2564 พบคนไทยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดลง แต่เพิ่มขึ้นในเยาวชนอายุ 15-19 ปี ทั้งชายและหญิง สสส. จึงทำงานเชิงรุกแก้ปัญหา ปกป้องเด็ก เยาวชน และสังคม ให้ปลอดภัยจากปัจจัยเสี่ยง
ผศ.ดร.บุญเลิศ วิเศษปรีชา คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า พฤติกรรมการแสดงออกของมนุษย์เกิดจากการเรียนรู้ สังคมและวัฒนธรรม ซึ่งตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงกับคำว่า “คนเลวโดยสันดาน” ทั้งนี้ จากการรับฟังแนวคิดของอดีตเยาวชนบ้านกาญจนาฯ ทั้ง 2 คน ที่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีได้ และเป็นสิ่งยืนยันว่าโดยเนื้อแท้แล้วมนุษย์เป็นคนดี หรือเลว อยู่ที่สภาพแวดล้อมด้วย ตนจึงคิดว่าสถานที่ดีๆ แบบบ้านกาญฯทำไมถึงไม่มีอยู่ในสังคมด้านนอกให้มากๆ เพราะจากการทำงานกับคนไร้บ้านในช่วงที่ผ่านมา มีเยาวชนจำนวนมากที่อยู่ข้างถนนและต้องถลำลึกสู่การกระทำผิดลงไปเรื่อยๆ ตนขอชื่นชมบ้านกาญจนาฯ ที่ยังเชื่อมั่นในคุณค่าความเป็นมนุษย์ ที่ทำพลาดได้ แต่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้ โดยการโอบกอด ให้เกียรติ ให้ความไว้วางใจ สร้างความปลอดภัย ตัดวงจรความรุนแรง ตัดวงจรการล้างแค้น ซึ่งจากข้อมูลทางวิชาการความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่จบสิ้นนั้นมาจากการล้างแค้น อย่างไรก็ตามอีกปัจจัยที่ทำให้คนใช้ความรุนแรง มาจากปัญหาเชิงโครงสร้างที่มีความหลื่อมล้ำ หากสังคมมีความเท่าเทียม มีสวัสดิการ มีโอกาสที่เท่าเทียมกันเชื่อว่าจะดีกว่านี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชวนนักดื่ม “ตรวจตับ-เลิกจับขวด” ฟื้นฟูสุขภาพคืนความสุขครอบครัว
"งดเหล้าเข้าพรรษา" ในระยะเวลา 3 เดือน ถือเป็นกิจกรรมหนึ่งในเทศกาลสำคัญ ที่มุ่งเน้นให้ชาวพุทธงดดื่มแอลกอฮอล์ ไม่เพียงเป็นการรักษาประเพณีและศีลธรรมเท่านั้น
“สุรศักดิ์” รมช.ศธ. เดินหน้าขับเคลื่อนรถรับส่งนักเรียนปลอดภัย ชูโมเดล “ศูนย์เรียนรู้รถรับส่งนักเรียนปลอดภัย จ.อยุธยา” ของสสส.
วันที่ 18 พ.ย. 2567 ที่ โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดศูนย์การเรียนรู้การจัดการรถรับส่งนักเรียนที่ปลอดภัย โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย ภายในงานเวทีสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการพัฒนาศูนย์เรียนรู้รถรับส่งนั
สสส.สานพลังภาคี ขจัดความเหลื่อล้ำกิจกรรมทางกาย ดึงคนไทยสู่เวอร์ชั่นใหม่
กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ ศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (ทีแพค) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม
สสส.-สคล. ผนึกภาครัฐ เอกชน จัดแข่งฟุตซอลเยาวชนไม่เกิน 15 ปี ชิงถ้วยกรมสมเด็จพระเทพฯ
สสส. โดยสมาคมเครือข่ายงดเหล้าและปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ (สคล.) ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายและภาคเอกชน รวม 7 องค์กร ลงนามความร่วมมือ พร้อมจัดแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ
"สิทธิในอาหารเพื่อชีวิตที่ดี" ความตระหนักรู้เสริมสุขภาวะ
เด็กทั่วโลกเผชิญปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านอาหาร เพราะการบริโภคไม่สมดุล ส่งผลต่อสุขภาวะอ้วนผอม ชาวโลกเผชิญความอดอยากเกือบ 300 ล้านคน
สสส.ชวนคนรักสุขภาพ ร่วม'เมื่อคุณเริ่มวิ่ง หัวใจเต้นแรง' กระตุ้น'นักวิ่งหน้าใหม่'ลงสนาม8ธ.ค.นี้
เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 11 พ.ย. 2567 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ กรุงเทพฯ นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. ร่วมกับ สมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพไทย จัดงานแถลงข่าว Thai Health Day Run 2024 วิ่งสู่วิถีชีวิตใหม่ ครั้งที่ 12 ภายใต้แนวคิด “เมื่อคุณเริ่มวิ่ง หัวใจเต้นแรง” ในวันที่ 8 ธ.ค. นี้ ที่สะพานพระราม 8 โดย สสส. มุ่งจุดกระแสกิจกรรมทางกายเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำให้มีสุขภาพดี ลดความเสี่ยงเกิดโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ในอนาคต ซึ่งจากผลสำรวจอายุคาดเฉลี่ยทั่วโลกในปี 2567 ของ www.worldometers.info ระบุว่า ไทยมีอายุคาดเฉลี่ยอยู่ที่ 76.56 ปี อายุยืนเป็นอันดับที่ 78 ของโลก ขณะที่ข้อมูลจากฐานข้อมูลการตาย กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข ปี 2561-2565 พบคนไทยเสียชีวิตก่อนวัยอันควร 164,720 ราย สาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 คือ ป่วยด้วยกลุ่มโรค NCDs ซึ่งเป็นโรคที่เกี่ยวกับพฤติกรรมและวิถีชีวิต