รองโฆษกรัฐบาล เผย 16 ก.ย.นี้ ผู้ปกครองสามารถลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ผ่านแอปเงินเด็ก เพื่อความสะดวก รวดเร็วในการเข้าถึงสิทธิ์และการบริการของรัฐ
15 ก.ย.2565 – น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการลงทุนเพื่อการพัฒนาเด็กมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2558 เป็นต้นมา ได้ดำเนินโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด โดยการจัดสวัสดิการเงินอุดหนุนให้แก่เด็กแรกเกิดในครัวเรือนยากจนหรือครัวเรือนที่เสี่ยงต่อความยากจน เพื่อให้เด็กได้รับการดูแลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีพัฒนาการเหมาะสมตามวัย
น.ส.รัชดากล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาล ภายใต้การทำงานของกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้เปิดให้ผู้ปกครองที่มีสัญชาติไทยลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินอุดหนุน ณ ส่วนราชการในท้องที่ที่อาศัยอยู่ ได้แก่ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ศาลาว่าการเมืองพัทยา องค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาล เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ปกครอง ให้สามารถเข้าถึงสิทธิ์ และการให้บริการภาครัฐได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2565 ผู้ปกครองสามารถลงทะเบียนออนไลน์ขอรับเงินอุดหนุนฯ ผ่านแอปพลิเคชันเงินเด็ก หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดทุกจังหวัด หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคมกระทรวง พม. โทร. 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือกรมกิจการเด็กและเยาวชน โทร.02-6516902 026516920 หรือ082-0917245
รองโฆษกฯ กล่าวว่า ผู้ปกครองต้องมีคุณสมบัติดังนี้ 1.เป็นบิดา มารดา หรือบุคคลอื่นที่เป็นผู้เลี้ยงดูเด็กแรกเกิด 2.เด็กแรกเกิดต้องอาศัยร่วมด้วย 3.เป็นครอบครัวที่มีรายได้น้อย เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาท/ คน /ปี ส่วนเด็กแรกเกิดต้องมีอายุไม่เกินหกปี มีสัญชาติไทย อาศัยอยู่กับผู้ปกครองในครอบครัวที่มีรายได้น้อยและไม่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของหน่วยงานรัฐ หรือเอกชนตามที่อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชนประกาศกำหนด กรณีหากไม่สะดวกลงทะเบียนออนไลน์ สามารถลงทะเบียนได้ในพื้นที่ที่เด็กแรกเกิดและผู้ปกครองอาศัยอยู่จริง โดยกรุงเทพมหานคร ลงทะเบียนที่สํานักงานเขต เมืองพัทยา ลงทะเบียนที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา ส่วนภูมิภาค ลงทะเบียนที่องค์การบริหารส่วนตําบล หรือเทศบาล เอกสารที่ใช้ ณ หน่วยลงทะเบียน ประกอบด้วย 1.แบบคำร้องขอลงทะเบียน (ดร.01) 2.แบบรับรองสถานะของครัวเรือน (ดร.02) 3.สูติบัตรเด็กแรกเกิด 4.บัตรประจำตัวประชาชนแบบ Smart Card ของผู้ปกครอง 5.ใบรับรองเงินเดือน หรือหนังสือรับรองรายได้ ของสมาชิกในครัวเรือนทุกคนที่ประกอบอาชีพ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือพนักงานบริษัท 6.สำเนาเอกสาร หรือบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ และ 7.บัตรหรือเอกสารอื่นใดที่แสดงสถานะหรือตำแหน่งของผู้รับรองคนที่ 1 และผู้รับรองคนที่ 2
น.ส.รัชดา กล่าวด้วยว่า แนะนำว่าให้ผู้ที่ได้รับสิทธิ หมั่นตรวจสอบข้อมูลในระบบตรวจสอบสิทธิอยู่เป็นประจำ หากมีการเปลี่ยนแปลง ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้แก้ไขข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน และหมั่นตรวจสอบบัญชีธนาคารที่ใช้รับเงินอุดหนุนว่ายังสามารถใช้งานได้ปกติหรือไม่ ยืนยันรัฐบาลมีความมุ่งมั่นขจัดปัญหาเด็กยากจน และให้ความสำคัญกับเรื่องความเหลื่อมล้ำ รวมถึงการลงทุนเพื่ออนาคตของชาติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลยันผู้ปลูกมันสำปะหลังไม่ถูกกดราคาแน่
รัฐบาลให้ความเชื่อมั่นผู้ปลูกมันสำปะหลัง เตือนพ่อค้ากดราคา โทษจำคุกสูงสุด 7 ปี จัดสายตรวจเฉพาะกิจ ลงพื้นที่ตรวจสอบการซื้อขายมันฯ ในแหล่งเพาะปลูกทั่วประเทศ รับฤดูเก็บเกี่ยวที่จะเริ่ม ธ.ค.นี้
รัฐบาลโอ่ผลงานยกระดับเส้นทางสู่ภาคตะวันออกเชื่อมโยงอีอีซี
รัฐบาลยกระดับเส้นทางสู่ภาคตะวันออก เพิ่มประสิทธิภาพการจราจร เชื่อมโยงอีอีซี ล่าสุดกรมทางหลวงขยาย 4 ช่องจราจร ทล.3481 ตอน บ้านหัวไผ่ - การเคหะฯ จังหวัดปราจีนบุรี แล้วเสร็จ
อย่าหลงเชื่อ! มิจฉาชีพใช้โซเชียลหลอกไปทำงานฟาร์มออสเตรเลีย
รัฐบาลเตือนภัยอย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพใช้โซเชียลหลอกทำงานฟาร์มออสเตรเลีย ย้ำรัฐบาลออสเตรเลีย ยังไม่มีความร่วมมือกับไทยด้านการส่งแรงงานและยังไม่มีนโยบายการออกวีซ่าเกษตรให้กับคนไทย
ข่าวดี! สปสช.เห็นชอบเพิ่มสัดส่วนล้างไตผ่านช่องท้องรายใหม่ 50%
'คารม' เผย บอร์ด สปสช. เห็นชอบข้อเสนอพัฒนาระบบมาตรฐานและคุณภาพของนโยบายล้างไต เพิ่มสัดส่วนผู้ป่วยล้างไตผ่านช่องท้องรายใหม่ 50% ดูแลผู้ป่วยไตวายเรื้อรังมีความยั่งยืน
ก.อุตฯ ลุยเสริมทักษะเอสเอ็มอีกว่า 200 ราย
'ศศิกานต์' เผย ก.อุตฯ เดินหน้าส่งเสริมเอสเอ็มอีกว่า 200 ราย เสริมทักษะ เพิ่มขีดการแข่งขัน เน้นดิจิทัลและความยั่งยืน คาดดันเศรษฐกิจโตกว่า 62 ล้านบาท
อึ้ง! ร้องเรียนโจรชวนลงทุนออนไลน์วันละกว่า 3.2 พันสาย
รองโฆษกรัฐบาล เตือนภัย 'มิจฉาชีพชวนลงทุนออนไลน์' พบผู้เสียหายโทรแจ้งอาชญากรรม ผ่านศูนย์ AOC เฉลี่ยวันละ 3,206 สาย ดำเนินการระงับบัญชีวันละ 1,130 บัญชีต่อวัน