'ชัชชาติ' เผยรอฟังผลพรุ่งนี้ ศาลปกครองพิพากษา คดีรถไฟฟ้าสายสีเขียว

6 ก.ย.2565 - ที่สถานีกลางบางซื่อ กรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งวันพรุ่งนี้ 7 (ก.ย.) ศาลปกครองกลาง นัดอ่านคำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำที่ 1242/2564 ระหว่าง บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ผู้ฟ้องคดี) หรือ BTSC ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว กับกรุงเทพมหานคร ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง(โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว) ว่า ก็ไม่เป็นไร รอผลการพิจารณา เนื่องจากเป็นกระบวนการที่ดำเนินการมาหลายเดือนแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่ง ผู้ว่าฯ กทม.อีก เดี๋ยวรอฟังคำพิพากษา และคงให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งการมีคำพิพากษาลงมาก็ดี จะได้รู้ว่าท่านมองอย่างไร เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกันที่มีคนมาช่วยดูเป็นคนนอก มาช่วยดูว่ามองอย่างไร ซึ่งเราต้องเคารพอยู่แล้ว ส่วนกระบวนการต่อไป เดี๋ยวคงต้องดูคำวินิฉัยของศาลก่อน ว่าท่านมองในประเด็นไหน

นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ต้องแยกประเด็นให้ดี มีหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องเกี่ยวเนื่องกัน โดยของรัฐบาลก็มีเรื่องที่ค้างอยู่คือการขยายสัมปทาน เอาหนี้ทั้งหมดไปแลกสัมปทาน ซึ่งตรงนี้ทางกระทรวงมหาดไทย ก็ถามมา เดี๋ยวเรารอคำตอบจากสภากรุงเทพมหานคร (สภากทม.) แล้วก็ตอบไป ส่วนเรื่องอื่นไม่มีเกี่ยวแล้ว

เมื่อถามว่า ทาง กทม.จะดำเนินการอย่างไรต่อหรือจะให้รัฐบาลตัดสินใจว่าจะเดินหน้าต่อหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า “ มิติของรัฐบาลก็คงมี 2 เรื่อง คือเรื่องที่ค้างอยู่ในครม.ว่าจะเอาอย่างไร ท่านจะดำเนินการตาม มาตรา 44 ต่อหรือไม่ หรือว่าท่านจะยกเลิก แล้วไปทำความร่วมมือ อีกเรื่องคือ เงินที่ให้เรารับผิดชอบ เรื่องค่าโครงสร้าง ว่าท่านจะช่วยได้หรือไม่ เพราะว่าเป็นโครงสร้างซึ่งรถไฟฟ้าส่วนใหญ่ รัฐบาลจะช่วยรับผิดชอบเรื่องโครงสร้าง ทำให้ภาระผู้โดยสารน้อยลง ก็เป็นเรื่องในแง่หลักการซึ่งก็คงรู้ แต่ประเด็นคือเราต้องรอสภากทม.นิดนึง เพราะมีความเกี่ยวข้องกับสภากทม.อยู่ เพราะการใช้เงินทั้งหมดต้องให้สภากทม.รับรู้ และหากอนาคตเกิดเป็นค่าใช้จ่ายขึ้นมา ต้องมีการใช้จ่ายจากงบประมาณ ถ้าหากเราไม่ได้แจ้งก็จะเกิดปัญหา เหมือนที่เกิดขึ้นในสัญญาส่วนต่อขยายที่ 2 ระหว่าง กทม. กับกรุงเทพธนาคม ซึ่งไม่ได้ผ่านสภากทม. พอจะตั้งงบประมาณก็มีปัญหา ว่าจะไปใช้จ่ายได้อย่างไร ปีละ 5,000-6,000 ล้านบาท จึงต้องทำตามกระบวนการให้ถูกต้อง และความจริง กทม. มีภาระกับกรุงเทพธนาคม และกรุงเทพธนาคมมีภาระกับบีทีเอส เราต้องเอาให้ชัดว่า ถ้ากทม.จะจ่ายเงินให้กับกรุงเทพธนาคม เราจ่ายด้วยอะไรเพราะเป็นเงินภาษีประชาชนสัญญาถูกต้องหรือไม่ ซึ่งรายละเอียดมี และเป็นเรื่องของหลักการแล้ว เพราะเราไม่ได้ใช้เงินตัวเอง”

นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า กทม.ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเอกชน เพราะแค่ระหว่างกทม.กับกรุงเทพธนาคม เราจะจ่ายด้วยอะไร เพราะว่าสัญญาส่วนต่อขยายที่ 2 เป็นแค่หนังสือมอบหมายงาน แต่เมื่อกลายเป็นมีค่าใช้จ่ายมาประมาณ 6,000 ล้านบาท ก็ต้องดูว่าอำนาจอยู่ที่ใคร ในตอนทำสัญญาครั้งแรก มีการมอบหมายอำนาจครบถ้วนหรือไม่ และยืนยันว่าไม่ได้ช้าเพราะที่ผ่านมาหลายปียังไม่มีใครกล้าจ่าย

“แล้วถ้าเกิดจะให้เรารีบจ่ายภายใน 1-2 เดือน มันก็ต้องคิดให้ละเอียด เพราะเงินไม่ใช่ บาท 2 บาท ผมว่าต้องทำให้ละเอียดรอบคอบ และมีหลายมิติ ซึ่งศาลน่าจะช่วยให้เราเห็นแนวทางได้ด้วย เป็นเรื่องที่ดี เหมือนศาลเป็นคนกลางเข้ามา เดี๋ยวคงดูคำวินิจฉัยอีกที” นายชัชชาติ กล่าว

เมื่อถามว่า หากศาลมีคำสั่งให้จ่าย กทม.จะดำเนินการอย่างไรต่อไป นายชัชชาติ กล่าวว่า ก็คงต้องมีกระบวนการยื่นอุทธรณ์ ทั้งนี้ ความจริงแล้วเงินไม่ใช่ประเด็น เพราะระยะยาว หลังปี 2572 เงินรายได้ ทั้งหมดก็เป็นของ กทม.อยู่แล้ว ตนว่าก็ค่อยๆ คิดไป อาจจะมีเงินหลายๆ รูปแบบแล้ว หนี้ทั้งหมดเราก็ไม่ได้เป็นคนก่อ มันก่อมาก่อน แล้วเป็นเรื่องระยะยาวที่เดินรถอะไรกันมา

“เราต้องทำตามข้อเท็จจริงและโปร่งใส และหากสุดท้ายเราจ่าย เราก็ต้องจ่าย แต่ต้องมีที่มาที่ไป ซึ่งหากเราจ่ายเองแล้วไม่ถูกต้องก็จะมีปัญหา ทั้งหมดต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ “ นายชัชชาติ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชัชชาติ ลุยกินเมนูปลาหมอคางดำ แนะคนกรุงจับมาทำอาหาร สั่งห้ามเลี้ยง

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไลฟ์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก โดยเขียนแคปชั่นระบุว่า “เมนู ปลาหมอคางดำ” เผยภาพครัวที่กำลังทำอาหารเมนูปลาหมอคางดำ

นายกฯ ควงผู้ว่าฯกทม. ตรวจคลองโอ่งอ่าง ชุมชนวอนช่วยกระตุ้นท่องเที่ยวให้คึกคักอีกครั้ง

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ อาทิ นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางวันทนีย์ วัฒนะ

'วัชระ' ยื่น ป.ป.ช. สอบผู้ว่าฯกทม.-สก.ก้าวไกล เซ่นปมทุจริตจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย

นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และประธานกรรมการป.ป.ช. ทุกคนผ่านงานสารบรรณป.ป.ช. ในหนังสือร้องเรียนระบุว่าได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนให้ยื่นหนังสือกับสำนักงาน ป.ป.ช.

งามไส้! กทม.จัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย ราคาแพงยับ

เพจเฟซบุ๊ก "ชมรม STRONG ต้านทุจริตประเทศไทย" ได้โพสต์เนื้อหา การจัดชื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายในสวนสาธารณะ โดยมีเนื้อหาใจความว่า กทม. จัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย เครื่องละ 4 แสน เครือข่าย STRONG ต้านทุจริตประเทศไทยพบเห็นความผิดปกติ

'นิด้าโพล' เผยคนกรุงพอใจผลงาน 2ปี 'ชัชชาติ' ผลสำรวจชี้เกิน 40% ยังจะเลือกทำหน้าที่ต่อ

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “2 ปี ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 16-27 พฤษภาคม 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในกรุงเทพมหานคร ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 50 เขต

ยกผลงาน Citi Identity ของ 'อภิรักษ์' เทียบ 'ชัชชาติ' ไม่แปลกโดนวิพากษ์ยับเยิน

นายอัษฎางค์ ยมนาค  หรือ  เอ็ดดี้  นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กถึงเรื่องสติกเกอร์“กรุงเทพฯ Bangkok” ที่ติดอยู่บริเวณบนคานรถไฟฟ้า BTS เพื่อสร้าง City Branding หรือ Citi Identity ว่า