
5 ก.ย. 2565 – ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. /รองผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) เปิดเผยว่า ตร. ได้สั่งการให้ทุกหน่วยบังคับใช้กฎหมายจราจรฉบับใหม่ควบคู่กับการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องโทษปรับที่กฎหมายใหม่เพิ่มอัตราโทษสูงขึ้น เพื่อบังคับใช้ให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ใช้รถใช้ถนน บางความผิดมีโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 4,000 บาท
แต่ในห้วง 3 เดือนแรก ตร. จะยังใช้เกณฑ์ค่าปรับใบสั่งจราจรตามกฎหมายเดิมไปพลางก่อน (ตามประกาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องเกณฑ์ค่าปรับตามที่เปรียบเทียบ พ.ศ.2563) เช่น ข้อหาขับรถเร็วเกินกำหนด ฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง แม้โทษสูงสุดตามกฎหมายใหม่จะปรับได้ถึง 4,000 บาท แต่ค่าปรับตามใบสั่งจะกำหนดไว้ที่ 500 บาท เพื่อให้เวลาประชาชนได้ปรับตัวและปฏิบัติตามกฎจราจรได้อย่างถูกต้อง
ทั้งนี้ในระยะต่อไปจะปรับปรุงเกณฑ์ค่าปรับตามใบสั่งให้สอดคล้องกับกฎหมายจราจรฉบับใหม่ และบางข้อหาที่เป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ หรือปัจจัยเกิดความสูญเสียต่อผู้ขับขี่ เช่น ฝ่าฝืนเครื่องหมายทางม้าลาย ขับรถเร็วเกินกำหนด ฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ตร. จะพิจารณากำหนดอัตราโทษปรับเป็นขั้นบันได ตามจำนวนครั้งและประวัติการกระทำผิดด้วย เช่น ทำผิดครั้งที่ 1 โทษปรับตามใบสั่ง 500 บาท หากทำผิดข้อหาเดิมเป็นครั้งที่ 2 โทษปรับตามใบสั่งเป็น 1,000 บาท เป็นต้น
พล.ต.อ.ปรีชา กล่าวอีกว่า ใบสั่งทุกใบจะถูกกำกับโดยระบบฐานข้อมูลใบสั่งที่เรียกว่า PTM (Police Ticket Management) ซึ่งจะระบุจำนวนค่าปรับตามเกณฑ์ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดไว้ในใบสั่งทุกใบ ดังนั้น ค่าปรับจึงเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ
สำหรับเรื่องการเพิ่มโทษผู้กระทำผิดซ้ำข้อหาขับรถในขณะเมาสุรา ตร. ได้พิจารณาตามหลักกฎหมายแล้ว จะไม่นำประวัติการกระทำผิดที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 5 ก.ย.65 มาประกอบการพิจารณาเพิ่มโทษ แต่จะเริ่มบันทึกประวัติการทำผิดครั้งแรกตั้งแต่ 5 ก.ย.65 เป็นต้นไป ทั้งนี้เรื่องการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ได้สั่งการให้ทุกหน่วยถือปฏิบัติตามมาตรฐาน SOP การตั้งจุดตรวจงานจราจร ตามที่ ตร. ได้กำหนดไว้แล้วอย่างเคร่งครัด
“ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ผู้ขับขี่ และผู้ใช้ทาง ทำความเข้าใจกฎหมายจราจรฉบับใหม่ และร่วมกันปฏิบัติตามกฎจราจร เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุ และป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับผู้ใช้ทางคนอื่นๆ ” พล.ต.อ.ปรีชา ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผบ.ตร. สั่งทบทวน ปมปัดตก 'ส.ต.อ.' สอบติดนายร้อย!
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการในการประชุมบริหารสำนักงา
ผบ.ตร. ตั้ง 'พล.ต.ต.วรศักดิ์' เป็นรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ลงนามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่
'บิ๊กโจ๊ก' ลั่นกำลังใจดีอยู่แล้ว บอกให้ว่าไปตามกฎหมาย หลัง ผบ.ตร. เซ็นไล่ออก
พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีต รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ลงนามในคำสั่งไล่ออกจากราชการตามความเห็นของคณะกรรมการเสนอแนะการลงโทษ ผิดวินัยร้ายแรงเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์
ชงครม. ไฟเขียว ‘65นายพลสีกากี’ เออร์ลี่รีไทร์ เพิ่มยศ ‘พล.ต.อ.-พล.ต.ท.’ วาระเดือนเม.ย.
ความคืบหน้ากรณีวงประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2568 เห็นชอบเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์แนวทางการดำเนินโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพล ตร. โดยเพิ่มรอบการดำเนินโครงการเออร์ลีรีไทร์รอบ 1 เม.ย.
‘พ.ต.อ.’ พร้อมแจงปมทุจริตสอบตุลาการ ‘รองผบ.ตร.’ ชี้คลิปหลักฐานมัดผิดวินัยชัดเจน
พ.ต.อ.แจงยินดีที่จะชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่ขอก้าวล่วงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและขอปรึกษาผู้บังคับบัญชาว่าสามารถให้คำตอบได้มากน้อยเพียงใด เพราะไม่อยากสื่อสารให้เกิดความเข้าใจหรือข้อมูลที่คลาดเคลื่อน