งานชุก 'ประวิตร' ประชุมคณะอนุฯจัดการที่ดิน เห็นชอบแก้ปัญหาการอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าไม้

'ประวิตร'ประชุมคณะอนุฯนโยบายแนวทางและมาตรการการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน เห็นชอบร่างหลักเกณฑ์การจำแนกประเภทที่ดินฯ พร้อมเห็นชอบการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าไม้ถาวร

2 ก.ย.2565 - เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมรามาการ์เดนส์ ถนนวิภาวดีรังสิต พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายแนวทางและมาตรการการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน ครั้งที่ 2/2565 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน เข้าร่วมประชุม

สำหรับที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาและมีมติเห็นชอบ 3 เรื่อง ประกอบด้วย 1.เห็นชอบร่างหลักเกณฑ์การจำแนกประเภทที่ดินตามผลการจำแนกการใช้ประโยชน์ที่ดิน ซึ่งจำแนกการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นพื้นที่ป่าไม้ พื้นที่ป่าชายเลน พื้นที่เกษตรกรรม และพื้นที่ชุมชน 2.เห็นชอบการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าไม้ถาวร และให้กรมป่าไม้ดำเนินการกำหนดพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในพื้นที่ป่าไม้ถาวร โดยพิจารณาถึงพื้นที่ป่าไม้ถาวรที่ได้จำแนกไปแล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2540 ของกรมพัฒนาที่ดิน และจัดทำกระบวนการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในพื้นที่ป่าไม้ถาวร เสนอต่อคณะอนุกรรมการจัดที่ดิน และเห็นชอบการเสนอเรื่องขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2540 เรื่อง มาตรการและแนวทางแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่ป่าไม้ในภาพรวมทั้งประเทศ โดยเรื่องที่ราษฎรร้องเรียนให้เพิกถอนเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดหรือสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดได้รับเรื่องไว้แล้ว

รวมถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องที่อยู่ระหว่างดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2540 ให้กรมพัฒนาที่ดินดำเนินการต่อไปให้แล้วเสร็จ จนกว่าคณะรัฐมนตรีจะมีมติยกเลิกหรือมีข้อสั่งการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ ให้ฝ่ายเลขานุการฯ ส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองกฎหมายการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินพิจารณา ก่อนเสนอคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติต่อไป และ3. เห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ (พ.ศ. 2566 – 2570)

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีมติรับทราบความคืบหน้าการจัดทำนโยบายและแผนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ (พ.ศ. 2566-2580) ด้วย

โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานพิธีเปิดงานข้อตกลงความร่วมมือ MOU โครงการบูรณาการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในพื้นที่คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนให้กรรมสิทธิ์แต่อนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินเป็นนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ ปัญหาการขาดแคลนที่ดินทำกินโดยให้พี่น้องประชาชนผู้ยากไร้ได้มีสิทธิ์ทำกินได้อยู่อาศัยในที่ดินของรัฐอย่างถูกต้องตามกฎหมายป้องกันการเปลี่ยนมือการเข้ามาครอบครอง ให้ที่ดินตกทอดยังลูกหลาน นักการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเพื่อความมั่งคั่งของประเทศ รวมทั้งการป้องกันปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ โดยเฉพาะพื้นที่ต้นน้ำและพื้นที่ป่าที่สมบูรณ์อาจจะส่งผลให้การบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรที่ดินของประเทศที่มีอยู่อย่างจำกัดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด และยังมีความยั่งยืนสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยเฉพาะประเด็นยุทธศาสตร์การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมและสอดคล้องกับปฏิญญาเศรษฐกิจพอเพียง

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนได้รับทราบความต้องการของพี่น้องประชาชนได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรือที่อยู่อาศัยที่ดินของรัฐภายใต้นโยบายการจัดทำที่ดินที่ทำกิน ต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐเป็นการเร่งด่วนในการจัดทำและพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ไฟฟ้าประปา เส้นทางคมนาคม และแหล่งน้ำในการอุปโภคและบริโภคต่างๆเพื่อสามารถลงหลักปักฐานต่อไปเป็นระยะยาว รวมทั้งได้มีการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพที่เหมาะสมตามศักยภาพพื้นที่และการต่อยอดไปสู่การจัดหาตลาด รวมถึงช่องทางการกระจายการผลิตผลทางด้านการเกษตร เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถมีรายได้อย่างเพียงพอและ มั่นคง และพึ่งพาตัวเองได้อย่างแท้จริง และวันนี้รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงดังกล่าวภายใต้โครงการบูรณาการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในพื้นที่คทช. โดยเฉพาะถนน ไฟฟ้าและแหล่งน้ำ ขอให้ทุกหน่วยงานทั้งในส่วนกลางระดับจังหวัดและท้องถิ่นมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการบูรณาการและการทำงานร่วมกัน

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ทั้งในการวางแผนและขับเคลื่อนการดำเนินงานการจัดสรรงบประมาณเพื่อให้เกิดความรวดเร็วและสอดคล้องอย่างเป็นระบบ ทำให้การแก้ปัญหาความเดือดร้อนประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นขอฝากไว้ว่าให้ทุกหน่วยงานได้ร่วมมือกันบูรณาการช่วยเหลือประชาชนให้สามารถอยู่ดีกินดีขึ้นและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นความต้องการของรัฐบาลและข้าราชการทุกคนที่มีต่อประชาชน และต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่มุ่งมั่นตั้งใจร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายที่ดินทำกินของรัฐบาล ขอให้ทุกหน่วยงานร่วมมือกันทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน ฝากทุกหน่วยงานช่วยกันบูรณาการ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ซึ่งมีความจำเป็นในเรื่องน้ำก็ดี ความเป็นอยู่ก็ดีการเกษตรก็ดี ต้องฝากทุกหน่วยงานที่ได้ลงนามในครั้งนี้

จากนั้นเป็นพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับ 21 หน่วยงานภายใต้โครงการบูรณาการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในพื้นที่ของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.)

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

งบ68 ฉลุย เช็กเสียงโหวต รัฐบาลไม่แตกแถว 4 สส.ปชป.งดออกเสียง กลุ่มบ้านป่าฯไม่เห็นด้วย 9

งบ68 ฉลุย สภาฯเท 309 เสียงหนุน ส่งต่อสว.ถกต่อ 9-10 ก.ย.นี้ เช็กเสียงโหวต รัฐบาลไม่แตกแถว 4 สส.ปชป. งดออกเสียง 'ก๊วนผู้กอง' หาย 1 ขณะที่กลุ่มบ้านป่าไม่เห็นด้วย 9 เสียง ส่วน'หัวหน้ามุ้ง' หายเหมือนเดิม 'พรรคเจ๊หน่อย' 3 สส.เจ้าเก่าโหวตหนุนรบ.

'ธรรมนัส' ครวญ! รับใช้คนๆหนึ่งพอแล้ว ขอประกาศอิสรภาพ พร้อมจะไปที่ที่มีความสุข

ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีชื่อ

เอ๊ะ! ‘ภูมิธรรม’ เหน็บ ‘บิ๊กป้อม’ ไม่เข้าสภาโหวต ‘นายกฯอิ๊งค์’ หลังสะพัดเขี่ย ’วงษ์สุวรรณ’ ออก ครม.

‘ภูมิธรรม’ เหน็บ บิ๊กป้อม ปมไม่เข้าสภาฯ โหวต แพทองธาร เป็นนายกฯ ถาม ‘คิดว่าพอแล้ว ก็ตัดสินใจได้’ หลังข่าวสะพัดเตรียมเขี่ย ‘วงษ์สุวรรณ’ ออก ครม. พร้อมแจ้งพรรคร่วมส่งรายชื่อ รมต.ภายใน  20 ส.ค.นี้

คุยจริง 'สามารถ' โชว์วิดีโอคอลคุย 'ลุงป้อม' ฟังเพลงแล้วบอกว่าเพราะดี

นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ โชว์บันทึกการโทรถึงพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สื่อมวลชนดูภายหลังการแถลงข่าว พร้อมยืนยันว่าเป็นของจริง