โฆษกรัฐบาลเผย ทล.ชี้แจงความคืบหน้าโครงการทางหลวงพิเศษบางปะอิน-นครราชสีมา ขณะนี้ดำเนินการแล้วเสร็จ 24 ตอน ส่วนอีก 16 ตอนอยู่ระหว่างขออนุมัติเพิ่มวงเงินงบประมาณ-ขยายการก่อหนี้ผูกพันฯ เพิ่มเติมจาก ครม. คาดจะสามารถเปิดใช้งานบางส่วนได้ภายในปลายปี 66
1 ก.ย.2565 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโครงการมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา ว่ากระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวง (ทล.) ได้ชี้แจงถึงความคืบหน้าการก่อสร้าง โดยในเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเริ่มเปิดใช้งานบางส่วนได้ภายในปลายปี 2566 และจะทยอยเปิดให้บริการฟรี พร้อมทดสอบระบบการเก็บเงินค่าผ่านทางในปี 2567 และเปิดบริการเต็มรูปแบบตลอดสายในต้นปี 2568 ต่อไป
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2558 อนุมัติให้กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง) ดำเนินโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร ในกรอบวงเงิน 84,600 ล้านบาท โดยการก่อสร้างงานโยธาแบ่งเป็น 40 ตอน เริ่มสัญญาก่อสร้างในช่วงปี 2559-2560 ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ 24 ตอน ส่วนที่เหลือ 16 ตอน ยังก่อสร้างไม่เสร็จ เนื่องจากมีปัญหาอุปสรรคต้องแก้ไขปรับปรุงแบบก่อสร้าง ทำให้มีค่างานเพิ่มขึ้น ประมาณ 6,755 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบเมื่อปี 2558โดยกรมทางหลวงได้สรุปปัญหาหลัก ดังนี้
1) สภาพพื้นที่จริงที่เริ่มก่อสร้างปี 2560 เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่สำรวจออกแบบไว้ปี 2551
2) ปรับปรุงรูปแบบทางวิศวกรรมให้สอดคล้องกับสภาพทางกายภาพ และสภาพชั้นดินทางธรณีวิทยาของพื้นที่ก่อสร้างในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดความแข็งแรงของตัวโครงสร้างของมอเตอร์เวย์ และประชาชนเดินทางใช้งานได้อย่างปลอดภัย
3) ปรับรูปแบบให้เหมาะสมสอดคล้องกับโครงสร้างงานสาธารณูปโภคต่าง ๆ ข้อจำกัด เงื่อนไข หรือความจำเป็นของหน่วยงานอื่น ที่มอเตอร์เวย์ตัดผ่าน เช่น การยกระดับความสูงเพิ่มขึ้นมอเตอร์เวย์ส่วนที่ข้ามคลองชลประทาน หรือการสร้างกำแพงครอบมอเตอร์เวย์ในช่วงที่ผ่านเรือนจำกลางคลองไผ่ อ.สีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เป็นต้น
4) การปรับรูปแบบการก่อสร้าง เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อข้อร้องเรียนของประชาชนในพื้นที่ และให้สอดคล้องกับโครงข่ายถนนที่ประชาชนใช้ทางปัจจุบัน เช่น การก่อสร้างทางขนานตามแนวมอเตอร์เวย์ในบางช่วง หรือก่อสร้างทางลอดเพิ่มขึ้น เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางเข้าออกพื้นที่ได้สะดวก
นายอนุชา กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กรมทางหลวงได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทั้งในด้านวิศวกรรมงานทางและโครงสร้าง และการบริหารสัญญาก่อสร้าง โดยมีหน่วยงานภายนอกร่วมเป็นคณะกรรมการ รวมทั้งได้ทำหนังสือหารือระเบียบข้อกฎหมาย และแนวทางการดำเนินการกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส คุ้มค่า ตรวจสอบได้ และเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ปัจจุบันกรมทางหลวงได้มีหนังสือเสนอต่อกระทรวงคมนาคม และสำนักงบประมาณ เพื่อพิจารณารายละเอียด ขออนุมัติเพิ่มวงเงินงบประมาณ และขยายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเพิ่มเติม โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา จำนวน 16 ตอน ซึ่งคาดว่ากระทรวงคมนาคมจะนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อขออนุมัติวงเงินค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นในเดือนกันยายน 2565 นี้ เมื่อได้รับอนุมัติวงเงินเพิ่มเติม กรมทางหลวงจะได้วางแผนเร่งรัดงานก่อสร้างในส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เฉลิมพระเกียรติ ‘ในหลวง‘ ทส.-มท. ลุยแหล่งน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ภัยแล้ง
‘เกณิกา’ เผย ‘ทส.-มท.’ จับมือเดินหน้าสานต่อ โครงการแหล่งน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 72 แห่งเฉลิมพระเกียรติ ในหลวง ครบ 6 รอบ 72 พรรษา
รัฐบาลชวนปชช. จอง-แลกเหรียญเฉลิมพระเกียรติ 'ในหลวง' เริ่ม 24 ก.ค.
รัฐบาลเชิญชวนประชาชน จอง-แลกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก เหรียญที่ระลึก และเหรียญเฉลิมพระเกียรติ 'ในหลวง' เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ตั้งแต่ 24 ก.ค.นี้
'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป
เดือด 'โฆษกรัฐบาล' แบกปลาหมอคางดำ โยนบาปให้เกษตรกร
'ณัฐชา' อัด 'โฆษกรัฐบาล' แบก 'ปลาหมอคางดำ' โยนบาปให้เกษตรกร ขอ อย่าลอยตัวอยู่ในห้องแอร์ ต้องระดมแก้ปัญหาช่วยเหลือ
เทวฤทธิ์ -กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ เสรีนิยมก้าวหน้า ปฏิรูปสภาสูง
สมาชิกวุฒิสภา(สว.)ชุดปัจจุบัน 200 คน จะประชุมร่วมกันนัดแรกในวันอังคารนี้ 23 ก.ค. โดยมีระเบียบวาระสำคัญที่จะให้สว.ทั้งหมดร่วมกันประชุมลงมติ นั่นก็คือ
พรรคร่วมรัฐบาลขอเขย่า ไม่ตกเป็น'หมูในอวย'พท.
แม้ว่าพรรคร่วมรัฐบาล นำโดยพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ฯลฯ จะยอมผ่านเรือธงของพรรคเพื่อไทย โครงการดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 1 หมื่นบาทให้แก่ประชาชนจำนวน 50 ล้านคน