บุกค้น 2 โกดังย่านบางกะปิ ยึดชุดตรวจ ATK-อุปกรณ์การแพทย์นำเข้าผิดกม.กว่า 5 ล้านบาท

ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วม อย. บุกค้นโกดัง 2 แห่ง ย่านบางกะปิ ที่ลักลอบนำเข้าชุดตรวจ ATK และ อุปกรณ์ทางการแพทย์จำนวนมาก มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท

8 พ.ย.2564- พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(ผบก.ปคบ.) และเภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา แถลงผลการตรวจค้นโกดัง 2 แห่ง ย่านบางกะปิ กรุงเทพมหานคร หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบนำเข้าเครื่องมือแพทย์และวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. พบของกลาง ชุดตรวจ ATK , หน้ากากอนามัย , ชุด PPE , เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว , เทอร์โมมิเตอร์ , ผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจาน ผลิตภัณฑ์ซักผ้า และป้ายห้อยคอกันไวรัส จำนวนทาก รวมมูลค่าของกลางกว่า 5 ล้านบาท

สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้มีผู้ฉวยโอกาสลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เกี่ยวกับโรคโควิด 19 โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. ทาง บก.ปคบ. และ อย.หนูร่วมกันสืบสวนหาข้อมูลกวดขันจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีบริษัทนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง แจ้งมาว่ามีการปลอมแปลงผลิตภัณฑ์ของบริษัทดังกล่าวขายตามท้องตลาด จึงจนกระทั่งสืบทราบเส้นทางขบวนการลักลอบนำเข้าผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย ขยายผลจนทราบว่า มีการลักลอบนำเข้าชุดตรวจ ATK และหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ไปเก็บไว้ที่โกดังสินค้า 2 แห่ง ย่านบางกะปิ จึงเข้าตรวจค้นและพบของกลางเป็นจำนวนมากดังกล่าว ดำเนินคดีความผิดพ.ร.บ. เครื่องมือแพทย์ พ.ศ.2551 นำเข้าเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้จดทะเบียนสถานประกอบการ, นำเข้าเครื่องมือแพทย์ปลอม, ขายเครื่องมือแพทย์ที่ไม่ผ่านการประเมินเทคโนโลยี และขายเครื่องมือแพทย์ที่ไม่ได้รับใบรับแจ้งรายการละเอียด มีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับผิด พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 นำเข้าวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยมิได้ขออนุญาต, นำเข้าวัตถุอันตรายที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่มิได้ขึ้นทะเบียน และนำเข้าวัตถุอันตรายที่มีการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เภสัชกรหญิงสุภัทร กล่าวว่า การตรวจค้นครั้งนี้ของกลางส่วนใหญ่จะไม่รับอนุญาตจาก อย.และปลอมแปลงขึ้นมา แต่ที่น่าสนใจคือ ป้ายห้อยคอกันไวรัส หรือ Virus shut out ที่มีการตรวจยึดได้จำนวนถึง 16,000 ชิ้น จึงอยากชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ป้ายห้อยคอกันไวรัสดังกล่าว ทำจากครอรีนไดออกไซด์บรรจุซอง แล้วทำเป็นป้ายห้อยคอ โดยผู้ใช้มีความเชื่อว่าจะสามารถป้องกันไวรัสที่กระจายอยู่ในอากาศบริเวณรอบตัวได้ แต่ในความจริงแล้วป้ายห้อยคอกันไวรัสดังกล่าว ไม่ได้มีประสิทธิภาพในการป้องกัน โควิด-19 หรือไวรัสชนิดอื่นได้อต่อย่างใด อย่าหลงเชื่อซื้อมาใช้ เพราะห้อยคอไปก็ไม่ประโยชน์ใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และล้างมือ เป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กต่าย' ยันไม่คาดหวังตำแหน่ง ผบ.ตร. หลังนายกฯอิ๊งค์เรียกเข้าพบ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยกรณีกระแสข่าวว่ามีการเดินทางเข้าพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ว่า ตนถูกเรียกไป ขับเคลื่อนเรื่องยาเสพติดเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น

ขอนแก่นโชว์ผลงานปราบยาบ้า พบราคาแพงขึ้น เพราะระดมกวาดจับทุกวัน

ขอนแก่นยาบ้าแพงขึ้น หลังปกครอง-ตำรวจ-ปปส.จับกุมทุกวัน ผู้การฯสั่งเร่งหาข่าวเต็มที่หลังกลุ่มผู้ค้า หากพื้นที่ซ่อนยาห่างไกลขึ้น

ผบ.ตร. เยี่ยมให้กำลังใจตำรวจบาดเจ็บ จากการปิดล้อมจับกุมคนร้ายยิง 2 ศพ

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ไปเยี่ยมให้กำลังใจ ร.ต.ต.อิทธิพัทธ์ ชัยนา รอง สว.กก.สืบสวน ภ.จว.สมุทรสาคร ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุร่วมออกติดตามจับกุมผู้ต้องหาคดีอาญา หลังคนร้ายหลบหนีไปซ่อนตัวในพื้นที่บ้านหมู่ที่ 6 ต.บางน้ำเชี่ยว อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี แล้วใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้

'บิ๊กต่าย' ไม่คาดหวังถูกเสนอชื่อเป็น ผบ.ตร. แม้อาวุโสอันดับหนึ่ง

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่วานนี้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล พ้นจากตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

หนุ่มสกลนครเมา โดนบูลลี่กลางวงเหล้า คว้ามีดปาดคอเพื่อนชาวเมียนมาสาหัส

พ.ต.ท.สายัณต์ ภูพรรณา สารวัตรสอบสวน สภ.พระประแดง รับแจ้งมีเหตุทำร้ายร่างกายใช้อาวุธมีดปาดคอมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส