25 ส.ค.2565 - ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการนำชื่อของส.ต.ท.หญิงที่ทำร้ายร่างกายอดีตทหารหญิงไปใส่ช่วยราชการกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าแต่ไม่ได้ปฎิบัติหน้าที่จริงนั้น พล.อ.คงชีพ กล่าวว่า ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ท่านกล่าวว่าเป็นเรื่องที่ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องจะต้องรีบหาคำตอบและข้อเท็จจริงให้เร็วที่สุดและดำเนินการตรวจสอบสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ความกระจ่างกับสังคมรวมถึงยังได้เน้นย้ำ เรื่องการขอตัวไปช่วยราชการของทุกหน่วยให้ดูแลคัดสรรคนที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมลงไปช่วยราชการ และหน่วยที่รับตัวไปช่วยราชการและหน่วยที่ส่งตัวไปช่วยราชการต้องกำกับดูแลกำลังพลในสังกัดด้วย คาดว่าเรื่องดังกล่าวเร็วเร็วนี้จะได้คำตอบที่ชัดเจน ส่วนที่เป็นข้อกฎหมายก็ดำเนินการไปตามข้อกฎหมาย อันไหนที่เป็นเรื่องของวินัยเราก็ดำเนินการตามกระบวนการทางวินัยทั้งทหาร ตำรวจและกอ.รมน.ที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
เมื่อถามย้ำว่าพล.อ.ประยุทธ์ยืนยันหรือไม่ว่าไม่ให้ปกป้องพวกเดียวกัน พล.อ.คงชีพ กล่าวว่า ยืนยันว่าเราไม่มีการปกป้องคนที่กระทำผิดอยู่แล้ว เมื่อคนที่อยู่กันจำนวนมากมีปัญหาสอบสวนตามกระบวนการแล้ว ใครผิดก็ต้องว่ากันตามผิดและต่อไปนี้หัวหน้าหน่วยงานก็คงจะต้องลงไปรับผิดกำกับดูแลคนของตัวเองในการกำกับให้มากขึ้นด้วยเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่เกิดขึ้นในลักษณะนี้ ทั้งนี้ ท่านเร่งรัดและกำชับว่าเรื่องดังกล่าวจะต้องให้ได้คำตอบและข้อยุติที่เร็วที่สุด และไม่ได้กำหนดเวลาแต่คาดว่าจะเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เดินหน้าไปและทางเราก็เร่งดำเนินการอยู่แล้ว เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาข้อครหาจากสังคม รวมถึงยังได้กำชับไปยังกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เพราะว่าเกี่ยวข้องกันก็จะต้องให้เขาดำเนินการเพราะมีอยู่ 3 หน่วยงาน ทั้งกองทัพไทยที่เกี่ยวข้อง ตำรวจและ กอ.รมน.ซึ่งทั้ง 3 หน่วยงานจะต้องสอบสวนจะต้องดำเนินการสอบสวนในกระบวนการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
พล.อ.คงชีพ กล่าวว่า ขอให้กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าเป็นผู้ตอบเรื่องนี้ ในเรื่องคนรับราชการจะได้รับวันทวีคูณ มีเฉพาะในพื้นที่จังหวัดใช้แดนภาคใต้ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย ซึ่งในเรื่องนี้อาจจะต้องมีการตรวจสอบและมีการประเมินการปฎิบัติงานกันด้วยโดยจะต้องกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ คงจะไม่ได้เป็นการหรือโครงสร้างครั้งใหญ่ แต่อาจจะเป็นการทบทวนกระบวนการมากกว่าในการนำคนไปช่วยราชการ และการกำกับดูแลคนไปช่วยราชการหรือการประเมินผลคนที่จะไปช่วยราชการ และการไปช่วยราชการอาจจะมีการช่วยราชการปีต่อปี
เมื่อถามว่าในโซเชียลมีเดียแฉพฤติกรรมว่าเป็นกาฝากของกองทัพที่มาเบียดบังอัตรากำลังพลของภาคใต้ รวมถึงว่าเรื่องนี่มีตั้งแต่ปี 2561 ที่มีการเบิกเบี้ยต่างประเทศทับซ้อนกับเบี้ยในจังหวัดภาคใต้ พล.อ.คงชีพ กล่าวว่า ปฎิเสธตอบคำถามและขอให้ กอ. รมน. ชี้แจง
ผู้สื่อข่าวตอบกลับไปว่า ช่วงนี้ไม่สามารถติดต่อ กอ. รมน. ได้ พล.อ.คงชีพ กล่าวว่า ต้องรอดูเพราะว่ามีโฆษกกอ.รมน.อยู่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘เวชระเบียน’หลอนทักษิณ โยนรพ.ตำรวจมอบให้ปปช.
นายกฯ พยักหน้ารับปม "ป.ป.ช." ทวงถามเวชระเบียนรักษาตัว
'อิ๊งค์' แค่พยักหน้า ปม รพ.ตร. ไม่ยอมส่งเวชระเบียน 'พ่อนายกฯ' ให้ ป.ป.ช.
'นายกฯอิ๊งค์' ปฏิเสธตอบคำถาม ปม รพ.ตำรวจ ไม่ส่งเวชระเบียนรักษาตัว 'ทักษิณ' หลัง ‘ป.ป.ช.’ ทวงแล้ว 3 ครั้ง ทำแค่พยักหน้ารับทราบ
'นายกฯอิ๊งค์' ถกหัวหน้าส่วนราชการ ลุยลงทุน 9.6 แสนล้าน กระตุ้นจีดีพีประเทศ
นายกฯ ถกหัวหน้าส่วนราชการฯ กำชับผลักดันเม็ดเงินลงทุน 9.6 แสนล้าน สู่ระบบเศรษฐกิจ กระตุ้น ‘จีดีพี’ ประเทศ
เอ็มโอยู44-เอื้อนายทุน จุดจบรัฐบาลไม่ครบเทอม
หากอ้างอิงข้อมูลจากนิด้าโพลเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา หัวข้อ รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ อยู่ครบเทอมหรือไม่ โดยประชาชนมากกว่า 57.71% มองว่าอยู่ไม่ครบเทอม ประกอบด้วยสัดส่วนร้อยละ
อัยการยื่นฟ้องแล้ว 'เต้ย' มือตบ 'ทนายธรรมราช' มั่นใจมีผู้อยู่เบื้องหลัง
พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ได้นำสำนวนสอบสวน พร้อมความเห็นควรสั่งฟ้องนายจารุเวศ หรือเต้ย พงษ์ฉวี อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาคดีทำร้ายร่างกายนายธรรมราช สาระปัญญา
'กกร.เชียงใหม่' จ่อชง 'ครม.สัญจร' เยียวยาผู้ประกอบการน้ำท่วม
นายอาคม สุวรรณกันทา ประธานสมาพันธ์ SMEs ไทย จังหวัดเชียงใหม่ และรองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า มาหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นกับเชียงใหม่ปีนี้