'ปารีณา' จนลง! พ้น ส.ส. เหลือ 119 ล้าน

ป.ป.ช.เปิดเซฟ ‘เอ๋ ปารีณา’ พ้น ส.ส. เหลือ 119 ล้าน หนี้ 28 ล้าน ไม่มีที่ดิน ภ.ท.บ.5 – ฟาร์มเลี้ยงไก่แล้ว แต่เลี้ยงวัว 50 ตัว ทำรายได้ปีละแสน รถ 11 คัน มีทั้งรถพ่วง-บรรทุก-แทรกเตอร์-มอเตอร์ไซด์

22 ส.ค. 2565 – สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีรายการแสดงทรัพย์สินและหนี้สินของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 25 มี.ค.64 โดยระบุสถานภาพหย่าเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.57 และมีบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 1 คน คือ ด.ช.ทวีทอง ไกรคุปต์ อายุ 9 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

ทั้งนี้ น.ส.ปารีณา แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 119,669,910 บาท โดยเป็นทรัพย์สินของ น.ส.ปารีณา 112,138,610 บาท เป็นของ ด.ช.ทวีทอง 7,531,300 บาท ซึ่งเป็นเงินฝากทั้งหมด ขณะเดียวกัน แจ้งว่า มีหนี้สินทั้งสิ้น 28,429,118 บาท โดยเป็นการกู้จาก ธ.ก.ส.สาขาโพธาราม 17,029,118 บาท และใช้บริษัท ปารีณาไกรคุปต์ จำกัด เป็นผู้กู้ 11,400,000 บาท

สำหรับรายละเอียดทรัพย์สินของ น.ส.ปารีณา ประกอบด้วย เงินฝาก จำนวน 36 บัญชี 23,516,879 บาท เงินลงทุนในบริษัท ปารีณาไกรคุปต์ จำกัด 9,999,800 บาท เงินให้กู้ยืม 10,415,141 บาท โดยเป็นการให้กู้กับผู้กู้จำนวน 8 ราย มีทั้งอาชีพรับจ้าง รับราชการ กำนัน นายก อบต. นายกเทศบาล และค้าขาย

ที่ดิน จำนวน 25 แปลง มูลค่ารวม 27,170,790 บาท โดยอยู่ที่ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี อ.โพธาราม อ.บางแพ อ.เมือง จ.ราชบุรี เขตภาษีเจริญ กทม. อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ อ.สทิงพระ จ.สงขลา อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี

โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 9 หลัง มูลค่ารวม 21,050,000 บาท โดยมีที่ตั้งอยู่ที่ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา สมิลา จ.สงขลา เขตภาษีเจริญ กทม. ห้องชุดที่แยกพิชัย เขตดุสิต ห้องชุดย่านเพลินจิต

ยานพาหนะ จำนวน 11 คัน 12,286,000 บาท อาทิ รถบรรทุกพ่วงสิบล้อพร้อมพ่วงกระบะ 1 คัน รถบรรทุกกึ่งพ่วง 1 คัน รถแทรกเตอร์ 1 คัน กระบะมิตซูบิชิ เบนซ์สปอร์ต รถโฟล์คตู้ รถจักรยานยนต์ 2 คัน สิทธิและสัมปทาน 7,700,000 บาท ทรัพย์สินอื่น จำนวน 3 ราย มูลค่ารวม 7,700,000 บาท ประกอบด้วย วัว 50 ตัว 1,700,000 บาท สมเด็จนางพญาพิมพ์อกนูนใหญ่ 3,500,000 บาท สมเด็จบางขุนพรมพิมพ์เส้นด้าย 2,500,000 บาท

น.ส.ปารีณา ยังแจ้งว่า มีรายได้ต่อปีทั้งสิ้น 1,462,720 บาท เป็นรายได้ประจำคือ เงินเดือน ส.ส. จำนวน 1,362,720 บาท และมีรายได้อื่นๆ จากการเลี้ยงวัว จำนวน 100,000 บาท นอกจากนี้ มีรายจ่ายประจำ เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวปีละ 1,200,000 บาท และเสียภาษีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 จำนวน 315,037 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินครั้งนี้ ไม่มีทั้งที่ดิน ภ.ท.บ.5 จำนวน 29 แปลง และฟาร์มเลี้ยงไก่ ที่เคยแจ้งไว้ตอนเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อปี 62 ซึ่ง ป.ป.ช. เปิดเผยเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 62 มีทรัพย์สินรวม 169.66 ล้านบาท มีหนี้สิน 29.73 ล้านบาท.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดชื่อผู้สมัคร ป.ป.ช. 3 เก้าอี้ คนดังเพียบ ผู้พิพากษา อัยการ บิ๊กทหาร-ตำรวจ อดีตผู้ว่าฯ

สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรณีแทนตำแหน่งที่ว่าง (พลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช.

'อิ๊งค์' แค่พยักหน้า ปม รพ.ตร. ไม่ยอมส่งเวชระเบียน 'พ่อนายกฯ' ให้ ป.ป.ช.

'นายกฯอิ๊งค์' ปฏิเสธตอบคำถาม ปม รพ.ตำรวจ ไม่ส่งเวชระเบียนรักษาตัว 'ทักษิณ' หลัง ‘ป.ป.ช.’ ทวงแล้ว 3 ครั้ง ทำแค่พยักหน้ารับทราบ

‘ผู้การจ๋อ’ ส่งทนายยื่นหนังสือ ‘ผบ.ตร.’ ยัน ป.ป.ช.ไม่ชี้มูล คดี ‘อัจฉริยะ’ ร้องเรียน

ทนายความของ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล นำมติ ป.ป.ช.ที่ไม่ชี้มูลความผิด กรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ร้องทุกข์กล่าวโทษ

ลุ้นอีกรอบ! ‘บิ๊กจ้าว-พล.ต.ท.ธิติ’ โผล่สมัครชิงเก้าอี้ ป.ป.ช. เปิดรับวันสุดท้าย 4 พ.ย.

ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ในฐานะหน่วยธุรการ เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จำนวน 3 คน ระหว่างวันที่ 21 ตุลาคม - 4 พฤศจิกายน 2567

'ผู้พิพากษา-อัยการ-บิ๊กสีกากี' แห่สมัคร! ชิง 3 เก้าอี้ ป.ป.ช.

ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ในฐานะหน่วยธุรการ เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

'เพื่อไทย' ไม่ฟังเสียงต้าน! ดันทุรังเข็น 'กิตติรัตน์' นั่งปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่า รัฐบาลที่มาจากพรรคเพื่อไทยตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน