17 ส.ค.2565 - จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายลอบก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อคืนที่ผ่านมา ดร.ตายูดิน อุสมาน อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ให้ความเห็นว่า จากการติดตามสถานการณ์ ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าจะเป็นการตอบโต้ของกลุ่มผู้เห็นต่างกับภาครัฐ เพื่อเรียกความสนใจ ให้รัฐไทยให้ความสำคัญมากขึ้น ซึ่งมีผลต่อเนื่องจากการพูดคุย ที่มีการพูดคุยกันหลายครั้ง แต่ผลการพูดคุยยังไม่บรรลุ ไม่ขยับ และเมื่อยังไม่มีการยอมรับ ไม่มีการลงนาม จึงทำให้เกิดปฎิกิริยาออกมาเพื่อให้รัฐไทยรีบพูดคุย เพื่อจะได้บรรลุเป้าหมายร่วมกัน เมื่อมีข้อเสนอจากผู้เห็นต่าง ส่วนใดที่จะสามารถรับได้ ก็ต้องยอม เพราะเป้าหมายของทั้งสองฝ่ายก็คือความสงบสุข และการพูดคุยครั้งล่าสุด ไม่ได้มีการลงนามข้อตกลงอะไรกันตามที่ทราบ ทำให้การผลการพูดคุยครั้งนั้น ฝ่ายเห็นต่างที่มีความคาดหวัง แต่ผลที่ออกมายังไม่มีการลงนามอะไร ฝ่ายเห็นต่างจึงต้องแสดงพฤติกรรมออกมา
“ต่างจากการเจรจาช่วงเดือนรอมฎอน คือ ให้มีการหยุดยิงช่วงรอมฎอน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับคนที่จะไปประกอบพิธีทางศาสนาในยามค่ำคืน แต่ก็เป็นในช่วงเดือนรอมฎอนเท่านั้น หลังจากนั้นการพูดคุยก็ควรจะขยายออกเป็นวงกว้างขึ้น ในช่วงเดือนรอมฎอนถือว่าประสบความสำเร็จ ไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามก็ทราบว่า ในช่วงเร็วๆนี้ก็จะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง ซึ่งจะต้องพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง คงจะเป็นไปไม่ได้ว่าจะพูดคุยกันสองสามครั้งแล้วปัญหามันจะจบ เพราะปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้สะสมมาอย่างยาวนาน” ดร.ตายูดิน กล่าว
ดร.ตายูดิน กล่าวว่าการก่อเหตุของผู้เห็นต่างเมื่อคืนที่ผ่านมา ที่มุ่งเป้าไปยังด้านเศรษฐกิจในพื้นที่ เนื่องจากว่า เศรษฐกิจเป็นเรื่องที่สำคัญ ถ้าทำลายในเรื่องเศรษฐกิจ ก็จะเกิดความเดือดร้อนกับประชาชนมากมาย ซึ่งต่างจากการก่อเหตุกับสถานที่ธรรมดา ก็อาจจะไม่ตื่นเต้น เท่ากับการทำในแหล่งเศรษฐกิจ ที่ในพื้นที่สามจังหวัดกำลังดีขึ้น เป้าหมายก็ต้องการสร้างให้เป็นข่าวใหญ่โต รัฐบาลไทยก็อยู่ไม่ได้ นิ่งเฉยไม่ได้ ก็ต้องมาพูดคุยเจรจา เพราะถ้าปล่อยเช่นนี้ก็จะเสียมวลชนทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายเห็นต่างในครั้งนี้เสียมวลชนแน่นอน เพราะความเสียหายเกิดกับพี่น้องมุสลิม กว่าที่จะประกอบธุรกิจขึ้นมา ก็ต้องเจอกับอุปสรรค ลงทุนมหาศาล แต่กลับไปทำลาย ซึ่งแน่นอนก็ต้องเสียมวลชน แทนที่เขาจะสนับสนุนก็จะกลายเป็นการต่อต้านคนที่เห็นต่างแน่นอน
“ผมอยากให้ทั้งสองฝ่าย พูดคุยกันทำข้อตกลงร่วมกัน ให้เกิดการยอมรับ แล้วชนะกันทั้งสองฝ่าย ผลดีก็จะตามมา อะไรที่ฝ่ายเห็นต่างขอ ที่สามารถให้ได้ ก็ควรจะให้ จะได้เดินหน้ากันต่อไป รวมทั้งจะขอฝากไปยังกลุ่มที่เห็นต่างด้วยว่า จะทำอะไรก็ให้นึกถึงประชาชนด้วย ความเดือดร้อน ความทุกข์สุขของประชาชน ปัญหาเศรษฐกิจของประชาชน ที่กำลังหนัก แต่มาสร้างสถานการณ์แบบนี้ มันก็ยิ่งหนักขึ้น” ดร.ตายูดิน กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เด็กปัตตานีเฮ ฉลองวันเด็กที่แรกของประเทศ
เด็กปัตตานีได้เฮ อำเภอมายอจัดยิ่งใหญ่งานวันเด็กที่แรกของประเทศ สร้างความตื่นเต้น ประทับใจ โดยเฉพาะจัดแสดงเฮลิคอปเตอร์
คนร้ายเหิมกราดยิงใส่ป้อมจุดตรวจที่ปัตตานี ช่วงเตรียมซ้อมแผนรปภ.ปีใหม่
พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผกก.สภ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิง ใส่ป้อมจุดตรวจ
กรมราชทัณฑ์ สั่งสอบเหตุนักโทษแทงกันดับ
กรมราชทัณฑ์ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2568 เกิดเหตุผู้ต้องขังทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายกัน ในเรือนจำกลางปัตตานี เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ จำนวน 12 ราย สาหัส 2 ราย และเสียชีวิต 1 ราย นั้น
อุกอาจ! คนร้ายยิงหนุ่มปัตตานี เสียชีวิตคาบ้านเมีย
เวลาประมาณ 03.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี รับแจ้งว่าเกิดเหตุยิงกันตาย ภายในบ้านหลังหนึ่ง หมู่ที่ 1 ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
หนีไม่รอด! ผู้ต้องหาคาร์บอมบ์ กระชากพวงมาลัยทำทหารตาย มอบตัวแล้ว
จากกรณี นายฮัมดี โตะมะ อายุ 27 ปี ผู้ต้องสงสัยในคดีความมั่นคงและถูกระบุว่ามีความเชื่อมโยงกับการก่อเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ จี้ชิงเงินร้านสะดวกซื้ออีกหลายคดี ได้หลบหนี