'ชัชชาติ' เล็งนัดถกปรับเปลี่ยนโซนนิ่งสถานบันเทิง ลั่นต้องสังคายนากฎหมาย

"ชัชชาติ" ชี้เหตุการณ์ไฟไม้สีลมเป็นบทเรียนต้องเอกซเรย์สถานบันเทิงทั่วกทม. เผย ต้องสังคายนา ข้อบัญญัติสถานประกอบการใน กทม.ให้ทันสมัย

15 ส.ค.2565 - ที่อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) กล่าวถึงประเด็นที่ กทม.มีการตรวจสถานบริการและสถานบันเทิงในพื้นที่ ซึ่งเรื่องนี้ได้มอบหมายให้น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. และ พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้ดำเนินการ ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสถานบันเทิงที่อำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี ถือเป็นเรื่องที่รุนแรงมากส่งผลต่อความมั่นใจนักท่องเที่ยวของประชาชนทั้งประเทศ

นายชัชชาติ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว กทม.ไม่ได้ละเลยและดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย. เป็นช่วงที่ทีมเข้ามารับตำแหน่งและเริ่มงานสองสัปดาห์แรก และเกิดเหตุไฟไหม้ที่ย่านสีลม จุดนั้นถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของคำสั่งที่ให้เอกซเรย์ทั้งกรุงเทพมหานคร ส่วนเรื่องการจัดระเบียบโซนนิ่งของสถานบันเทิง ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกับทางตำรวจอย่างเป็นรูปธรรม คาดว่าจะต้องมีการนัดหารือว่าควรจะปรับเปลี่ยนโซนนิ่งอย่างไร และทางกทม.เองมีแผนที่จะร่วมมือกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อีกหลายเรื่องนอกจากการจัดพื้นที่ยังมีในส่วนของการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อความปลอดภัย ซึ่ง กทม.เองอาจจะช่วยลงทุนในระบบกล้องวงจรปิดที่มีระบบ AI สามารถตรวจจับหน้าบุคคลได้

ในส่วนประเด็นของกฎหมาย ข้อบังคับที่มี ได้ประกาศใช้มาเป็นระยะเวลานานแล้ว ชัชชาติ กล่าวว่า มีความตั้งใจว่าจะต้องมีการสังคายนาใหม่แต่เรื่องข้อบัญญัติต่างๆ จะต้องผ่านการประชุมของสภากรุงเทพมหานครก่อนเพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือการนำสิ่งที่มีอยู่มาปฏิบัติเลย และอนาคตอาจจะมีการพิจารณาว่าส่วนไหนที่ไม่ทันสมัย รวบทำเป็นฉบับเดียวให้เข้าใจง่ายกว่า

ด้าน พล.ต.อ.อดิศร์ กล่าวว่า ในส่วนนี้ข้อมูลถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ บริบทของแต่ละสถานที่เปลี่ยนไปตามเวลาหากจะมีการปรับเปลี่ยนระเบียบที่มีการกำหนดไว้มากว่า 20 ปีแล้วส่วนของข้อมูลพื้นฐานข้อมูลยืนยันจะต้องครบถ้วนและอำนาจหน้าที่ของ กทม.มี 2 อย่างคือการอนุญาตการใช้อาคาร โครงสร้าง พอจะเริ่มเปิดให้บริการก็จะให้ใบอนุญาตในส่วนของการประกอบการร้านอาหารและการใช้เสียง แต่ต้องยอมรับว่าเวลาเปิด-ปิด ก็เป็นตัวแปรสำคัญที่ กทม.ไม่ได้เข้าไปก้าวก่าย เป็นหน้าที่ของตำรวจแต่เรื่องนี้เป็นการทำงานก็ต้องควบคู่กันต้องประสานงานกันด้วยความเข้าใจเรื่องของกฎหมาย

พล.ต.อ.อดิศร์ กล่าวอีกว่า จากการลงพื้นที่เชิงรุกจะเห็นได้ว่าผู้ประกอบการมากกว่าร้อยละ 90 มีความตื่นตัวที่จะปรับปรุงตามคำแนะนำ เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยในสถานประกอบการ หลายที่มีการทุบผนังออกเพื่อที่จะทำประตูทางออกเพิ่มมากขึ้น และอย่างย่านสีลมซอยสองที่เกิดเหตุก็มีการแก้ไขเชิงกายภาพทั้งหมด ส่วนการรื้อสายไฟสายสื่อสารรอบบริเวณ ยังอยู่ในขั้นตอนการรอดำเนินการจากการไฟฟ้านครหลวง

ขณะที่น.ส.ทวิดา กล่าวว่า กระบวนการตรวจสอบสถานประกอบการจะมี 2 แบบตั้งแต่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา เป็นการตรวจจากสำนักงานเขตก่อน ซึ่งสิ่งที่สำนักงานเขตต้องทำร่วมกับสำนักการโยธาฯและสำนักป้องกันสาธารณภัยฯ คือตรวจส่วนของโควิด และตรวจเรื่องการใช้กัญชาและการใช้สารเสพติดชนิดอื่น รวมถึงเรื่องการตรวจระบบอัคคีภัยเนื่องจากช่วงสัปดาห์ที่เริ่มตรวจมีเหตุเพลิงไหม้หลายที่ซึ่งแผนการตรวจลักษณะนี้สำนักงานเขตจะมีแผนการตรวจวนรอบจากนั้นข้อมูลส่วนนี้จะถูกนำส่งให้ส่วนกลางเพื่อจะได้พิจารณาว่าสถานประกอบการไหนมีปัญหาจุดใด

"หลังจากเกิดเหตุที่อำเภอสัตหีบผู้ว่าฯ กทม.ได้มีการกำชับอีกครั้งหนึ่งและให้เร่งการตรวจให้เข้มข้น จึงได้มีการจัดตั้งทีมเชิงรุกโดยการนำข้อมูลจากสำนักงานเขตที่รวบรวมมาและลงพื้นที่ตรวจตรวจทวนซ้ำว่าร้านได้มีการทำตามคำแนะนำและเพิ่มเติมในส่วนของข้อปรับแก้ หลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบมาเป็นระยะเวลา 10 วันตรวจแล้ว 121 ที่ บางส่วนได้มีการย้ำเตือนให้ปรับปรุงในส่วนโครงสร้างการใช้พื้นที่ และในส่วนที่กังวลคือในเรื่องของการบริหารจัดการพื้นที่เพราะในส่วนของเจ้าของร้านพนักงานเองจะมีความคุ้นเคยรับรู้ว่าทางออกทางหนีไฟอยู่บริเวณไหนแต่สำหรับผู้ที่มาใช้บริการจะไม่ทราบข้อมูลเหล่านี้เป็นพื้นฐานประกอบกับจะต้องคำนวณถึงความเหมาะสมในการเดินทางจากพื้นที่ด้านไหนเพื่อออกไปยังดันนอกตัวอาคารเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน" น.ส.ทวิดา กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พยากรณ์อากาศ 24 ชม. ‘เหนือ’ สัมผัสหนาวต่ำสุด 18 องศาฯ ‘กทม.’ 23 องศาฯ

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบน

เบื้องหลัง 'เรือไฟ' แชมป์เก่า อ.ปลาปาก ไหม้ก่อนไหลโชว์ สูญเกือบล้าน

เบื้องหลังเรือไฟ อ.ปลาปาก มูลค่าเกือบล้านบาท ไฟไหม้ก่อนไหลโชว์ ตะเกียงไส้ยาวจนลามไปอีกดวง กลุ่มผู้สร้างขอนำไปแก้ไข เพื่อทวงบัลลังก์แชมป์คืน เสียดายเงินเหมือนโยนทิ้งน้ำ

'อดีตปธ.กมธ.คมนาคม' บี้ถอดบทเรียนบัสมรณะ เร่งสร้างจิตสำนึกคนขับ-เข้มใช้กม.

'อดีตปธ.กมธ.คมนาคม' ชี้รายงานWHO ไทยครองอันดับ 1 อาเซียน เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน และอันดับ 9 ของโลก สาเหตุหลักคนขับรถประมาท แนะรัฐบาลถอดบทเรียนโศกนาฏกรรมบัสมรณะ