'ชัชชาติ' ไม่ห่วงน้ำทะเลหนุนช่วงนี้ จับตาน้ำเหนือจากอิทธิพายุมู่หลาน

13 ส.ค.2565 - นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงสถานการณ์น้ำทะเลหนุนว่า ในช่วงวันที่ 11-13 ส.ค. เป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูงสุด แต่จากการตรวจสอบเมื่อวานที่ผ่านมา (12 ส.ค.) อยู่ที่ประมาณ 1.90 เมตร ระดับที่วิกฤติอยู่ที่ประมาณ 2.80 เมตร แต่อาจจะมีบริเวณนอกคันกั้นน้ำบ้าง เช่น บริเวณถนนพระราม 3 บางช่วงที่อาจจะมีน้ำเอ่อขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งตอนนี้ก็สั่งให้เจ้าหน้าที่ดูแลอยู่ แต่หากอยู่ในคันกันน้ำก็จะไม่มีปัญหาอะไร เพราะน้ำยังไม่ได้ขึ้นสูงมาก ซึ่งสิ่งที่ต้องระวัง คือ ต้องดูน้ำในเขื่อนด้านบน

“พายุมู่หลานทำให้ฝนตกเยอะ อย่างที่จังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งน้ำจะไหลลงอ่าง โดยยังไม่มีปัญหาตอนนี้แต่ระยะยาวต้องดูปริมาณน้ำ และดูว่าจะมีการปล่อยน้ำเหนือลงมาเมื่อไหร่ คาดว่าสัปดาห์หน้าจะไปเยี่ยมสำนักบริหารจัดการน้ำ เพื่อดูภาพรวมและเตรียมการตั้งรับ” ผู้ว่าฯกทม. กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กษัตริย์สเปนประสงค์เสด็จเยือนพื้นที่น้ำท่วมอีกครั้ง คราวนี้โดยปราศจากพระราชินี

ภัยพิบัติจากพายุในสเปนซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 200 ราย สร้างความไม่พอใจให้พลเมืองทั้งประเทศ สมเด็จพระราชาธิบดีเ

กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 13 ไต้ฝุ่น 'หยินซิ่ง' อ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อนแล้ว

นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ “หยินซิ่ง” ฉบับที่ 13 โดยมีใจความว่า

อุตุฯ เตือนอากาศเปลี่ยนแปลง เหนือ-อีสานเย็น ยอดภูหนาว ใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้

สส.รทสช. จี้ ‘ผู้ว่าฯกทม.’ เร่งแก้ปัญหาคนแร่ร่อน นอนเกลื่อนถนนริมคลองหลอด

สส.เกรียงยศ จี้กทม.เร่งแก้ปัญหาคนแร่ร่อนนอนเกลื่อนถนนริมคลองหลอดใกล้ศาลาว่าการกรุงเทพมหานครแค่เอื้อม หวั่นชาวต่างชาตินำภาพไปเผยแพร่จะเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีกับเมืองท่องเที่ยว ดักคออย่าโยนให้แต่กระทรวงพม.

อุตุฯ ประกาศฉบับ 2 อัปเดตเส้นทางไต้ฝุ่น 'หยินซิ่ง'

นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ “หยินซิ่ง” ฉบับที่ 2 โดยมีใจความว่า