'ษิทรา' กางข้อกฎหมายชี้ 'ทอม เครือโสภณ' อาจโดนกลั่นแกล้ง เรื่องนำเข้ากัญชา

ภาพจากเพจ ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ

7 ส.ค. 2565 - นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ทนายความชื่อดัง ได้โพสต์เฟสบุ๊ก "ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ" ระบุว่า ได้ดูข่าว คุณทอม เครือโสภณ ว่ามีการนำเข้ากัญชาโดยสำแดงเท็จ อาจผิดพรบ.ศุลกากร และมีการนำเข้าพืช (กัญชา) ต้องห้าม อาจผิดพรบ.กักพืช ผมมาพลิกดูข้อกฎหมายแล้วเป็นเรื่องที่แปลกดี กรณีนี้คุณทอมอาจจะโดนกลั่นแกล้ง
ทุกคนทราบกันดีว่า “กัญชา” ถูกถอดจากบัญชียาเสพติดแล้ว ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2565 ดังนั้นคนที่ครอบครอง หรือมีไว้ซึ่งกัญชาจึงไม่มีความผิดแต่อย่างใด

แล้วคนที่นำเข้ากัญชาผิดไหม?

เริ่มแรกมาดู พรบ.กักพืชก่อน พรบ.ตัวนี้มีไว้ไม่ให้พืชที่ไม่เหมาะสมเข้ามาประเทศไทย ใครฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่น หรือทั้งจำทั้งปรับ

ตามประกาศกระทรวงเกษตรฯ ระบุว่าส่วนหนึ่งส่วนใดของพืชในสกุลแคนนาบิส เป็นสิ่งต้องห้าม และกัญชาก็เป็นพืชในสกุลแคนนาบิสซะด้วย แต่มีข้อยกเว้นว่า “พืชในสกุลแคนนาบิส ……ใช้เพื่อการอุตสาหกรรม ต้องมีใบรับรองปลอดศัตรูพืช จากประเทศผู้ส่งออกกำกับมาด้วย”

ซึ่งแปลได้ว่า กัญชา ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ หากเป็นการนำเข้ามาเพื่ออุตสาหกรรม และมีใบรับรองปลอดศัตรูพืช ก็สามารถนำเข้ามาประเทศไทยได้ ไม่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด

ผมดูคลิปที่คุณทอม ให้สัมภาษณ์นักข่าวหลายสำนัก เค้าก็ยืนยันว่านำมาใช้กับคลินิกของตัวเอง และมีเอกสารรับรองจากกระทรวงเกษตรฯของสหรัฐอเมริกา ก็เท่ากับนำมาใช้เพื่ออุตสาหกรรมทางการแพทย์ จึงไม่ผิดพรบ.กักพืช และประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างแน่นอน

ส่วนข้อหาสำแดงเท็จ ตามพรบ.ศุลกากร ที่คุณทอม นำเข้าช่อดอกกัญชา แต่มีการสำแดงว่าเป็นการนำเข้าเหล็ก!!

ความผิดฐานเจตนาสำแดงเท็จในทางกฎหมาย จะต้องหาบุคคลที่กระทำความผิดว่า ผู้ใดที่สำแดงเท็จ เพราะกฎหมายจะเอาผิดกับบุคคลที่สำแดงเท็จเท่านั้น จากที่ตามข่าวผู้ที่สำแดงเท็จคือผู้ที่นำส่ง ไม่ใช่คุณทอม เพราะคุณทอมรับพัสดุที่ตรวจแล้วมาส่งที่บ้าน คุณทอมไม่ได้สำแดงต่อเจ้าหน้าที่เลยว่าในกล่องคืออะไร แล้วจะผิดพรบ.ศุลกากร ว่าด้วยเรื่องสำแดงเท็จได้อย่างไร
การจะดำเนินคดีคุณทอม เครือโสภณ ทั้งๆที่ไม่ได้กระทำผิด ทั้งพรบ.กักพืช หรือพรบ.ศุลกากร จึงน่าแปลกใจ ว่าทำได้อย่างไร หรือว่าธุรกิจกัญชาในไทยมีขาใหญ่ ที่คอยสะกัด และกีดกันเจ้าอื่นไม่ให้เข้ามาทำธุรกิจนี้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สนธิ' ร้องเรียนสภาทนายความ สอบมรรยาท 'ทนายษิทธา-ทนายเดชา'

ที่สภาทนายความ ถ.พหลโยธิน นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการและเจ้าของรายการสนธิทอร์ค, นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พร้อม

ตร. เรียก 'เจ๊อ้อย' ให้ข้อมูลเพิ่ม 2 คดี 'ทนายตั้ม' วางแผนเป็นผู้จัดการมรดก-เงิน 39 ล้าน

พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีฉ้อโกงเงิน น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย จำนวน 39 ล้านบาท ว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก สอบปากคำพยานบุคคลต่างๆไปแล้วจำนวนหลายปาก รวมถึงสืบพบพยานหลักฐานสำคัญเพิ่มเติมหลายอย่าง

สาวไส้ 'ทนายตั้ม' เปลี่ยนพินัยกรรม ตั้งตัวเป็นผู้จัดการมรดก 'เจ๊อ้อย'

ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เดินทางเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในคดีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย แจ้งความดำเนินคดีกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความกับพวก ในข้อหาฉ้อโกง

ทนายตั้มมีข่าวดี! กกต.ยันอยู่บัญชีสำรอง สว.จนกว่าศาลตัดสิน

'แสวง' ยันทนายตั้มยังไม่ขาดคุณสมบัติ ยังอยู่ในบัญชีสำรองสว.ได้ จนกว่าศาลจะพิพากษา ส่วนคำร้องสว.หมอเกศ และคนอื่น รอสำนักงานมัดรวมสำนวนส่งกกต.ภายในพ.ย.นี้