"ชัชชาติ" เอาจริง สถานประกอบการ ผิดกฎหมาย สั่งปิดแน่! เล็งตรวจเชิงรุกให้ถี่ขึ้น เผย ประสานงานร่วม "กองบัญชาการตำรวจนครบาล" ส่งชื่อสถานประกอบการกว่า 250 แห่ง บอกจะทยอยตรวจกลางวัน ลั่นตรวจจริงแต่ไม่แห่ไป
5 ส.ค.2565 - ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) พร้อมด้วย น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. และ พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยถึงแนวทางการตรวจสถานประกอบการเพื่อป้องกันเหตุอัคคีภัย
โดย น.ส.ทวิดา กล่าวว่า หลังจากกรณีเกิดเพลิงไหม้สถานบันเทิง ที่สีลม ซอย 2 ทาง กทม.ได้มีการลงตรวจสอบสถานบันเทิงทุกแห่ง ทั้งทางเข้าทางออก โครงสร้างอาคาร อุปกรณ์สายไฟ แต่ปกติทุกสำนักงานเขตจะมีการตรวจสอบสถานประกอบการ สถานบันเทิง จากการป้องกันโรคโควิด-19 ต้องมีการรายงานมาให้ส่วนกลางอยู่แล้ว ประเด็นต่อมาให้มีการตรวจสอบสถานบริการ-สถานบันเทิงแต่ละแห่ง ว่ามีข้อร้องเรียนจากประชาชนหรือไม่ ซึ่งจะมีการรายงานมาที่ ศบค.กทม.
"นอกจากนี้ เขตจะต้องมีแผนตรวจร่วมกับ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ต้องตรวจ โครงสร้างอาคาร ทางเข้าทางออก ความเสี่ยงการเกิดอัคคีภัย อยากให้มีการตรวจถี่ขึ้น พร้อมทั้งดูว่าสถานประกอบการอยู่ใกล้ชุมชนหรือไม่ ถ้ามีชุมชนต่อเนื่องจะมีความเสี่ยงได้มากขึ้น " น.ส.ทวิดากล่าว
ด้าน พล.ต.อ.อดิศร์ กล่าวว่า มีการประงานกับ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ให้ส่งบัญชีรายชื่อสถานประกอบการ 250 แห่ง ร่วมกับสถานที่ที่เปิดลักษณะเป็นสวนอาหาร ที่อยู่นอกพื้นที่โซนนิ่ง จะมีการทยอยตรวจเชิงรุกในตอนกลางวัน และบางส่วนจะตรวจในเวลาเปิดจริง เพื่อดูบรรยากาศจริง พร้อมลงพื้นที่
ด้านนายชัชชาติ กล่าวว่า ต้องตรวจเชิงรุกให้เข้มข้นขึ้น เพราะมีสถานประกอบการที่ไม่ถูกกฎหมาย ถ้าเกิดเหตุเพลิงไหม้ในสถานที่ผิดกฎหมาย ไม่ได้รับอนุญาต ยิ่งอันตรายหนักขึ้น แล้วทาง กทม.คงปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
“สถานบริการที่ถูกกฎหมาย พอปฏิบัติจริง มีโต๊ะเก้าอี้ไปวางขวางทาง ไม่มีป้ายทางออกที่ชัดเจน ผู้ที่เพิ่งเคยมาเที่ยว จึงไม่สามารถหาทางออกที่ชัดเจนได้ เหมือนที่สีลมซอย 2 ที่มีทางออก 2 ทางจริง แต่ไปอยู่หลังร้าน มีโต๊ะวางขวางอยู่ ต้องมีหน่วยที่ไปตรวจสอบช่วงเวลาจริงแบบไม่เป็นทางการ แต่คงไม่ได้แห่ไป” นายชัชชาติกล่าว
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า มีความกังวลสถานประกอบการที่เปิดประเภทหนึ่ง แต่ไปทำอีกแบบหนึ่ง เช่น ร้านอาหาร ร้านข้าวต้ม มีคนอยู่หนาแน่น เป็นร้านอาหารเปิดบริการได้นาน แต่พฤติกรรมมีการดัดแปลง อาจจะไม่มีความปลอดภัยที่ครบถ้วน ต้องดูให้ครอบคลุม เป็นโอกาสที่จะได้สะสางปัญหา โดยให้ พล.ต.อ.อดิศร์ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบภายใน 1 เดือน พบเจอสถานที่ผิดกฎหมายสั่งหยุดให้บริการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อุกอาจ! คนร้ายยิง ‘ศักดา นพสิทธิ์’ พ่อสส.พรรคปชน. อาการสาหัส
เมื่อเวลา 05.30 น. ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ธณพ ธารีไทย รอง สารวัตร (สอบสวน) สภ.เสม็ด ได้รับแจ้งเหตุยิงกันที่ร้านข้ามต้มบางปะกง 3 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงรายงาน พ.ต.อ
หนุ่มประมง แจ้งความเอาผิดกลุ่มทหารเรือเกือบ 10 นาย รุมทำร้ายร่างกาย
ที่เกิดเหตุบริเวณชายหาด ตรงข้ามหน้าโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ หมู่ที่ 1 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ผู้เสียหายคือ นายอนันต์ นรินทร อายุ 43 ปี
ฮีโร่ 3 นักเรียนจ่าทหารเรือ ช่วยชีวิตหญิงกระโดดสะพานลอยปลิดชีพ
3 นักเรียนจ่าทหารเรือ เข้าช่วยเหลือหญิงสาวพยายามกระโดดสะพานลอยปลิดชีพตัวเอง จนปลอดภัย เหตุโดนแฟนหนุ่มต่างชาติหลอกถ่ายคลิปสัมพันธ์เผยแพร่ในกลุ่มเพื่อน
โกงสนั่น! ผู้ใหญ่บ้าน-ทนาย-ขรก. ร่วมหลอกขายที่ดินเขากระทิง เสียหายเกือบ 40 ล้าน
ที่ห้องสอบสวน สภ.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี น.ส.ลำไย ซ่อมแก้ว อายุ 45 ปี ภรรยา นักโปรแกรมเมอร์ชาวเยอรมัน ผู้เสียหาย พร้อมด้วย พ.ต.อ.พูนชัย ชูรัตน์ ทนายความ นายธเนศ ทวิภมรกุลวงศ์ ทนายความ และครอบครัว ได้เปิดโต๊ะแถลงข่าวขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน
เปิดกล้องวงจรปิด จับตัวผู้ต้องสงสัยฆ่าตัดนิ้ว ชิงทรัพย์ 'แม่ยายอัยการ'
จากกรณี เกิดเหตุสะเทือนขวัญฆ่าชิงทรัพย์ สืบเนื่อง น.ส.วรรณรัตน์ แสงแก้ว อายุ 35 ปี มีสามีเป็นอัยการสำนักงานอัยการแห่งหนึ่ง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ต.พัฒนนันท์ สมนวล สารวัตรสอบสวนสภสัตหีบ ว่าผู้เป็นมารดา คือ นางวรรณา คีอเนอร์ อายุ 67 ปี
ปรบมือ! อำเภอสัตหีบ ติดป้ายห้ามลอยกระทงในทะเล รณรงค์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ในเขตพื้นที่ ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้มีการติดป้ายความว่า “ห้าม! ลอยกระทงลงทะเลเด็ดขาด” ไว้ตลอดแนวชายหาด อ่าวดงตาลสัตหีบ ซึ่งถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และเป็นแลนด์มาร์ค ที่มีความสวยงามอย่างมาก