พลิกปมเพกาซัส 'อัยการ' เปิดก.ม. 8 ฉบับ ให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐสอดแนมข้อมูลมือถือ ชี้ 6 ฉบับ ต้องขอศาลก่อน

‘อัยการธนกฤต’ยกเคสสปายแวร์เพกาซัส เปิด ก.ม. 8 ฉบับ ให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐสอดแนมข้อมูลมือถือ ชี้ 6 ฉบับ ต้องขอศาลก่อน ยกเว้น พ.ร.บ.ข่าวกรองกับ พรก.ฉุกเฉิน ล้วงได้โดยไม่ต้องขอศาล

26 ก.ค.2565- ดร.ธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการในหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานกระบวนการยุติธรรม สถาบันนิติวัชร์ สำนักงานอัยการสูงสุดได้ให้ความเห็นข้อกฎหมายผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ในประเด็นข้อกฎหมายเรื่องกฎหมายให้อำนาจสอดแนมข้อมูลสมาร์ทโฟน ความว่า

ตามที่มีข่าวปรากฏตามสื่อมวลชนว่า มีการใช้สปายแวร์เพกาซัสในการสอดแนมข้อมูลของบุคคลบางกลุ่มบางคน เช่น นักกิจกรรมทางการเมือง โดยเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งทางฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐได้ออกมาชี้แจงว่าไม่เป็นความจริงนั้น ในแง่ของกฎหมาย การที่เจ้าหน้าที่รัฐจะใช้สปายแวร์เพกาซัสหรือเครื่องมืออื่นใดในการสอดแนมข้อมูลในโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนของบุคคลใดจำเป็นจะต้องอาศัยกฎหมายเป็นฐานอำนาจในการดำเนินการด้วย

สำหรับกฎหมายที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐเข้าถึงข้อมูลในโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนในปัจจุบันนี้มีจำนวนหลายฉบับ จึงเป็นเรื่องที่ประชาชนคนไทยควรต้องทราบว่ามีกฎหมายใดบ้างที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐเข้าถึงข้อมูลในโทรศัพท์มือถือได้ ซึ่งได้แก่กฎหมาย 8 ฉบับ ดังต่อไปนี้

  1. พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2556 มาตรา 17 พนักงานสอบสวนซึ่งได้รับอนุมัติจากอัยการสูงสุด ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมาย แล้วแต่กรณี มีอำนาจยื่นคำขอฝ่ายเดียวต่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาเพื่อให้มีคำสั่งอนุญาตได้
  2. พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 มาตรา 30 พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับอนุมัติเป็นหนังสือจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือผู้ว่าราชการจังหวัด มีอำนาจยื่นคำขอฝ่ายเดียวต่อศาลอาญาหรือศาลจังหวัดที่มีเขตอำนาจเพื่อให้มีคำสั่งอนุญาตได้
  3. พระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 มาตรา 25 พนักงานสอบสวนคดีพิเศษซึ่งได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นหนังสือ มีอำนาจยื่นคำขอฝ่ายเดียวต่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาเพื่อให้มีคำสั่งอนุญาตได้
  4. พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ. 2550 มาตรา 11/5 เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ซึ่งได้รับอนุมัติจากเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเป็นหนังสือ มีอำนาจยื่นคำขอฝ่ายเดียวต่อศาลอาญาเพื่อให้มีคำสั่งอนุญาตได้
  5. พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 46 พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินมอบหมายเป็นหนังสือ มีอำนาจยื่นคำขอฝ่ายเดียวต่อศาลแพ่งเพื่อให้มีคำสั่งอนุญาตได้
  6. พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 18 และมาตรา 19 พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อให้มีคำสั่งอนุญาตได้
  7. พระราชบัญญัติข่าวกรองแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 6 สำนักข่าวกรองแห่งชาติมีอำนาจใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ เครื่องโทรคมนาคม หรือเทคโนโลยีอื่นใด เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลในโทรศัพท์มือถือได้ โดยเป็นไปตามระเบียบที่ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติกำหนดโดยความเห็นชอบของนายกรัฐมนตรี โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการกลั่นกรองและตรวจสอบการใช้อำนาจจากศาล
  8. พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาตรา 11 (5) เมื่อนายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีได้ประกาศให้สถานการณ์ฉุกเฉินเป็นสถานการณ์ที่มีความร้ายแรงแล้ว นายกรัฐมนตรีมีอำนาจประกาศให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือได้ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการกลั่นกรองและตรวจสอบจากศาล อนึ่ง มีข้อสังเกตว่า กฎหมายที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐในการเข้าถึงข้อมูลในโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนทั้ง 8 ฉบับดังกล่าวข้างต้นนี้ กฎหมายจำนวน 6 ฉบับกำหนดให้ต้องมีคำสั่งอนุญาตจากศาลก่อน คงมีแต่กฎหมาย 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ. ข่าวกรองแห่งชาติฯ และพ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ที่กำหนดให้เจ้าหน้าที่รัฐสามารถเข้าถึงข้อมูลได้โดยไม่จำต้องมีคำสั่งอนุญาตจากศาล.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

วิจารณ์แซ่ด! อัยการปราบทุจริตฯ สั่ง สอท. ส่งสำนวนคดีเว็บพนันพันบิ๊กตร. ให้ ป.ป.ช.

'อัยการปราบทุจริตฯ' ร่อนหนังสือด่วนที่สุดให้ 'สอท.' รับสำนวนคดีเว็บพนันพันบิ๊กตำรวจ ไปส่ง ป.ป.ช. ทั้งที่ อสส. ยังไม่ได้มีคำสั่งชี้ขาดข้อหารือ วิจารณ์เเซ่ดบรรทัดฐานใหม่

'ไกรบุญ' สั่งปลด 'ตร.ชุดน้ำมันเถื่อน' เซ่นแซตฉาว ขอเชื่อมือ 'บิ๊กเต่า'

'พล.ต.อ.ไกรบุญ' การันตีไม่เคยเรียกรับผลประโยชน์น้ำมันเถื่อน ยอมรับสั่งปลดตำรวจเซ่นแชตฉาวจริง เชื่อมือ 'บิ๊กเต่า' สอบสวนสุจริตเป็นธรรม

สาหัส! เปิดคำฟ้อง ม.112 'นช.ทักษิณ' กระทำระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ร.9 ให้ทรงเสื่อมเสีย

ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญาได้นำตัวนายทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องใน

'ราชทัณฑ์' เผยขั้นตอนหากทักษิณไม่ได้ประกันตัวคดี 112

นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงกรณีวันที่ 18 มิ.ย.นี้ อัยการจะนำตัวนายทักษิณ ชินวัตร ส่งฟ้องต่อศาล และขั้นตอนต่อไปจะเป็นอย่างไรนั้น ว่า ในวันพรุ่งนี้ (18 มิ.ย.) หากศาลไม่อนุญาตประกันตั

ทนายวิญญัติ ยืนยัน 'ทักษิณ' เข้าพบอัยการนัดพรุ่งนี้ 9 โมงเช้า

นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112