สิ้น 'ม.จ.ภีศเดช' ผู้ถวายงานรับใช้ใกล้ชิดในหลวง ร.9 พระชันษา 100 ปี อดีตประธานมูลนิธิโครงการหลวง ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน
23 ก.ค.2565 - หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ขอแสดงความอาลัยต่อการจากไปของ หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ได้สิ้นชีพิตักษัยเมื่อคืนเวลา 03.00 น.
หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี เป็นพระปนัดดา (เหลน) ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นพระนัดดา (หลาน) ในกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ (วังหน้า องค์สุดท้าย)
หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ทรงเป็นผู้ติดตามใกล้ชิดในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 มาตั้งแต่ครั้งยังดำรงพระอิสริยยศเป็นพระอนุชาในรัชกาลที่ 8 และเคยดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิโครงการหลวง
ทั้งนี้ หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี หรือท่านภี ประสูติเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2465 ทรงเป็นพระโอรสในพระราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ โดยทรงเป็นพระนัดดาในกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ กรมพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) พระองค์สุดท้ายแห่งสยาม พระมารดาคือหม่อมเจ้าพรพิมลพรรณ วรวรรณ พระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ท่านภี จึงทรงเป็นพระราชปนัดดาในทั้งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระเชษฐภคินีร่วมครรภ์โภทร คือพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต
ทรงจบการศึกษาจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ และเสด็จไปทรงศึกษาต่อที่วิทยาลัยดัลลิช (Dulwich College) โรงเรียนเอกชนในประเทศอังกฤษ ทรงจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้านประวัติศาสตร์ กฎหมาย และเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ทรงสมัครเป็นทหาร และเป็นสายลับของกองทัพอังกฤษ ระหว่างปี พ.ศ. 2485 - 2489 หลังสงครามได้เสด็จกลับประเทศไทย จากนั้น ทรงงานในบริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย ทรงดำรงตำแหน่งผู้จัดการด้านโฆษณาจนถึงปี พ.ศ. 2505 จึงทรงลาออกมาประกอบธุรกิจส่วนองค์ และช่วยพระราชกิจพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9
ในปี พ.ศ. 2512 ประเทศไทยประสบปัญหายาเสพติด เนื่องจากชาวเขาในภาคเหนือนิยมปลูกฝิ่นเพื่อยังชีพ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งโครงการหลวงขึ้นเป็นโครงการส่วนพระองค์ มีพระบรมราโชบายให้ชาวเขาร่วมมือกันกำจัดฝิ่นโดยสันติวิธี ทรงพระราชทานพระราชดำริ ให้ชาวเขาหันมาปลูกพืชที่มีประโยชน์ และมีรายได้ดี เช่น ท้อ พลัม สตรอเบอรี่ รวมทั้งผักและดอกไม้เมืองหนาว โดยหม่อมเจ้าภีศเดชเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ เรื่อยมาเป็นผู้ติดตามใกล้ชิดในหลวงรัชกาลที่ 9 ตั้งแต่ครั้งยังดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช และเคยดำรงตำแหน่งองค์ประธานมูลนิธิโครงการหลวง
นอกจากนี้ ยังทรงดำรงตำแหน่ง นายกกิตติมศักดิ์สมาคมแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทั้งยังได้รับการถวายรางวัล ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน สาขาปราชญ์เกษตรผู้ทรงภูมิปัญญาและมีคุณูปการต่อภาคการเกษตรไทย ปี 2554 จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เนื่องจากทรงมีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ในระดับประเทศ และระดับนานาชาติ และมีคุณูปการต่อภาคการเกษตรไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และพระราชทานพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม เป็นเวลา 7 คืน วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม พระราชทานน้ำหลวง เวลา 17:00 น. พร้อมทั้งพระราชทานพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม 7 วัน ยกเว้นวันที่ 28 ก.ค. ที่ศาลาบัณณรสภาค วัดเบญจมบพิตรฯ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
น้อมถวายความอาลัย เพจดัง เผยสิ้นเจ้านายองค์สุดท้ายในสายวังหน้า
เพจเฟซบุ๊ก โบราณนานมา โพสต์ข้อความว่า สิ้นเจ้านายองค์สุดท้ายในสายวังหน้า 23 กรกฎาคม 2565 “หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี” สิ้นชีพิตักษัย สิริชันษา 100 ปี