ทีมวิจัยบุกถ้ำ 'เสืออภิญญา' พบลูก 2 ตัวอ้วนท้วน นอนรอแม่ออกหาอาหาร

ทีมวิจัยเสือโคร่งประเทศไทย เผยข่าวดี หลังติดตามสัญญาณแม่เสือโคร่ง "อภิญญา" ในโครงการติดปลอกคอ ทำให้พบลูกน้อย 2 ตัวอ้วนนอนรอแม่ที่ออกไปหาอาหาร

18 ก.ค.2565 - เพจเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โพสต์ภาพเสือโคร่งพร้อมระบุว่า เรื่องไม่ลับฉบับนักวิจัย...เมื่อนักวิจัยบุกประชิด ถ้ำ แม่เสือโคร่งอภิญญา

Thailand Tiger Project DNP เผยภาพลูกเสือโคร่งผ่านการทำงานของทีมวิจัย ระบุว่า "การติดตามสอดส่องพฤติกรรมของเสือโคร่งที่ใส่สร้อย เป็นงานปกติประจำที่ต้องทำกันแทบจะทุกวัน วันก่อนโน้นขณะที่ทีมนุดวิจัยจัดแจงตระเตรียมเครื่องมือเพื่อออกตามหาว่า แม่ภิญญ่าไปหากินอะไรอีกหรือไม่ ในบริเวณเดิมที่ได้กินลูกหมูป่าซึ่งเป็นอาหารมื้อแรกหลังคลอด ที่มันได้กินจนหมดเกลี้ยงเหลือแต่ไส้ แต่ว่าพิกัดการเคลื่อนที่ระบุว่ามันย้อนไปอีก"

"ขณะกำลังจะเคลื่อนที่ไปจุดนั้น ก็มีอีเมล์ แจ้งเตือนตำแหน่งล่าสุดเข้ามาพอดิบพอดีจึงได้รู้ว่า แม่อภิญญามีการเดินทางออกห่างจากจุดที่คาดว่าคลอดลูกพอสมควร นุดวิจัยจึงเปลี่ยนทิศทางไปยังพื้นที่ต้องสงสัยในทันที ก่อนเดินเท้าเข้าเหยียบพื้นที่ ได้มีการตรวจสอบสัญญาณจากปลอกคอเพื่อความมั่นใจกันอีกรอบ ก็มั่นใจยิ่งขึ้นไปอีกว่า แม่ไม่ได้อยู่ใกล้ๆในระยะสี่ห้าร้อยเมตรแน่ๆ"

"เดินขึ้นจากลำห้วยได้อยากจะอุทาน “โอโห” เพราะสภาพพื้นล่างของป่าที่มุ่งหน้าเข้าหาค่อนข้างรกแถมปกคลุมไปด้วยไม้เถาระโยงระยางทำให้ระยะการมองเห็นเหลือแค่ตรงหน้า ก็ถ้าโดนแม่อภิญญ่าไล่จริง อาการเจ็บตัวคงมีสาเหตุจากสะดุดเถาวัลย์มากกว่าโดนบาทาของนาง"

"ก้มต่ำ ก้มต่ำ สิจ๊ะ ก้มต่ำ ฮัมเพลงนี้ในใจจะเข้ากับบรรยากาศมาก เพราะเมื่อนุดเค้าค้นหาจนเจอช่องทางที่แม่ภิญญ่าใช้ในการเดินทางเข้า ออก มันเป็นทางที่ค่อนข้างพอดีตัว แบบว่าเดินแบบยกหัวลำตัวตรงแทบไม่ได้ ง่ายที่สุดก็คลานไปเลย สะดวกสุด"

"ขณะมุดๆ จนเกือบสุดปลายทาง สายตาพวกเราก็ไปสะดุดกับต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง มองหน้ากันก็รู้ในทีว่ามันน่าจะมีอะไรซ่อนอยู่ตรงนั้นแน่ “นั่นไง คับ หลังต้นไม้นั่น” เมื่อสายตาเหลือบไปพบก็เป็นจังหวะพอดีที่มีเสียงดังกรอบแกรบ ในทิศตรงข้ามซึ่งก็คือด้านหลังของลูกๆ เป็นเหตุให้ต้องส่งสัญญาณบอกหน่วยเฝ้าระวังหลังซึ่งถูกทิ้งลำพังให้ตรวจสอบสัญญาณกันอีกรอบ เพราะจากประสบการณ์แม่เสือมักจะทำเวลาขากลับรังได้ดีและถึงพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วมาก"

"สองแมวลายโคร่งที่นอนพุงกางอยู่ตรงหน้า ทำให้รู้ว่าแม่อภิญญ่าเลี้ยงดูลูกได้ดีมาก และเมื่อเทียบขนาดกับสามขาลลูกแม่กนิษฐา ก็เห็นได้ชัดเจนว่าลูกแม่นี้มีขนาดใหญ่โตกว่ามาก นุดคนหนึ่งก็ถ่ายภาพอย่างเร่งรีบ อีกคนหนึ่งใจคอไม่อยู่กับตัว ประกอบมีอาการพาร์กินสันแบบเฉียบพลัน จึงใช้เวลาอยู่ตรงนั้นเพียงสองนาที แล้วก็คลานถอยกันออกมา"

“ถ้าไม่เห็นลูกก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเห็นเมื่อไหร่ ก็ไม่รู้ทำไม มันตื่นเต้น สั่นทุกครั้ง” คำสารภาพของอาการพาร์กินสันเฉียบพลัน ของนุดวิจัยรายหนึ่ง ส่วนอีกรายมีอาการกล้ามเนื้อต้นขาตึงมากแต่ก็เก็บอาการไม่ได้เอ่ยใดใด แค่เค้าได้ภาพมาฝากเอฟซี ก็ดีใจสุดแล้ว

ขอบคุณ : Thailand Tiger Project DNP

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เดือด! 'หนูนา' ซัดคนใจมืดบอดเอาเรื่องความอยู่รอดของ 'น้องกันยา' มาโจมตี ขู่ฟ้องพรบ.คอมพ์

นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา หรือ "หนูนา" ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา อดีตรมช. ศึกษาธิการ ผู้มีบทบาทอนุรักษ์ช้างไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า

'ลุงโชค' ย้อนยุคสงครามคอมมิวนิสต์ ถึงเขตป่าทับลาน ทับซ้อน 'หมู่บ้านไทยสามัคคี'

นายโชคดี ปรโลกานนท์ หรือ ลุงโชค อดีตเจ้าหน้าที่มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ผู้ฟื้นผืนป่าเขาแผงม้า เจ้าของ ‘สวนลุงโชค’ บ้านคลองทุเรียน ตำบลวังน้ำเขียว อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

'ปลอดประสพ' ฟันฉับ สปก.รุกที่เขาใหญ่ อาจมีคนผิดม.157 เตือนการเมืองอย่ายุ่ง

นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กกรณี สปก.ประกาศที่เข้าไปในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ว่า

'พัชรวาท' มอบผู้ช่วยลงพื้นที่ กรมอุทยานฯสอบปมหมุดนิรนาม ที่ดิน ส.ป.ก. รุกป่าเขาใหญ่

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีพิพาท จุดหมุดนิรนาม ส.ป.ก. 4-01 ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ว่า เมื่อวันที่ 18ก.พ. ได้มอบหมายให้ ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร