'สุชาติ' แจงชัดแนวทางขึ้นทะเบียนแรงงาน 4 สัญชาติ ทำงานถูกกฎหมาย

กระทรวงแรงงาน แจงชัดแนวทางขึ้นทะเบียนแรงงาน 4 สัญชาติ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เริ่มดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศ หลังประกาศกระทรวงมหาดไทยและประกาศกระทรวงแรงงานมีผลบังคับใช้

9 ก.ค.2565 - นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันนานาประเทศ รวมทั้งประเทศไทยมีการผ่อนคลายมาตรการป้องกันและควบคุมโรค ซึ่งรัฐบาลโดยการนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน มีนโยบายเปิดประเทศควบคู่ไปกับการส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทำให้นายจ้าง/สถานประกอบการ ทั้งในภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม รวมถึงภาคบริการมีความต้องการจ้างแรงงานเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมที่ใช้กำลังแรงงานเข้มข้น ซึ่งบางส่วนจำเป็นต้องจ้างงานแรงงานข้ามชาติ ส่งผลให้เกิดการแสวงหาการมีงานทำ และการเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามชาติ ทั้งในลักษณะที่ถูกต้องและไม่ถูกต้องเพื่อขับเคลื่อนกิจการ โดยเบื้องต้นกระทรวงแรงงานได้รับทราบข้อมูลจากนายจ้าง/สถานประกอบการว่า ยังมีความต้องการแรงงานประมาณไม่น้อยกว่า 120,000 คน

นายสุชาติ กล่าวต่อไปว่า กระทรวงแรงงานจำเป็นต้องมีมาตรการสนับสนุนนายจ้าง/สถานประกอบการ และภาคการผลิตให้สามารถจ้างแรงงานข้ามชาติ ที่มีสถานะไม่ถูกต้องซึ่งประสงค์จะทำงานสามารถอยู่ในราชอาณาจักรเพื่อการทำงานได้ เพื่อฟื้นฟูประเทศในมิติต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน โดยให้แรงงานข้ามชาติสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ที่ยังมีสถานะไม่ถูกต้องด้วยเงื่อนไข และปัจจัยต่าง ๆ แต่ประสงค์จะทำงานอย่างถูกต้อง ดำเนินการตามแนวทางที่กรมการจัดหางานกำหนด เพื่ออยู่และทำงานเป็นการชั่วคราวได้ไม่เกินวันที่ 13 ก.พ. 66 และเมื่อได้รับอนุญาตทำงานและตรวจลงตราถึงวันที่ 13 ก.พ. 66 แล้ว หากประสงค์จะทำงานต่อไป สามารถอยู่และทำงานเป็นการชั่วคราวได้ไม่เกินวันที่ 13 ก.พ. 68 โดยขออนุญาตให้อยู่และทำงาน 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 1 ปี ครั้งแรกไม่เกิน 13 ก.พ. 67 ครั้งที่ 2 ไม่เกิน 13 ก.พ. 68 ซึ่งแรงงานข้ามชาติ ที่มีสถานะไม่ถูกต้องดังกล่าวจะต้องทำงานอยู่กับนายจ้างก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ในส่วนแรงงานสัญชาติเวียดนามต้องมีหนังสือเดินทางที่มีอายุและมีรอยตราประทับทุกกรณี

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า แรงงาน สัญชาติ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ที่ประสงค์ทำงานและมีนายจ้างถูกต้องตามกฎหมายต้องดำเนินการดังนี้

1. นายจ้างยื่นบัญชีรายชื่อแจ้งความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าว (Name list) ต่อกรมการจัดหางาน พร้อมด้วยรูปถ่ายปัจจุบันของคนต่างด้าวซึ่งเห็นภาพใบหน้าชัดเจน ภายในระยะเวลา 15 วัน หลังประกาศกระทรวงมหาดไทยและประกาศกระทรวงแรงงานมีผลบังคับใช้

2. ยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าว ภายในระยะเวลา 60 วัน หลังเสร็จสิ้นกระบวนการยื่น Name List โดยนายทะเบียนจะออกใบรับคำขออนุญาตทำงานและ QR Code สำหรับชำระค่าธรรมเนียมผ่านธนาคารกรุงไทย เป็นค่ายื่นคำขอฉบับละ 100 บาท และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงานฉบับละ 900 บาท หลังจากนั้นธนาคารกรุงไทยจะออกใบเสร็จรับเงินให้แก่นายจ้าง และให้คนต่างด้าวใช้ใบรับคำขออนุญาตทำงานและใบเสร็จรับเงินคู่กันเพื่อเป็นหลักฐานแสดงว่าได้รับการผ่อนผันให้ทำงานได้ จนกว่าจะได้รับใบอนุญาตทำงานตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว

3. คนต่างด้าวใช้ใบรับคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าวพร้อมกับใบเสร็จรับเงินค่าธรรมเนียม แสดงต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนกับสำนักงานประกันสังคม กรณีคนต่างด้าวที่ทำงานกับนายจ้างในกิจการที่ต้องขึ้นทะเบียนประกันสังคม ในระหว่างที่ยังไม่เกิดสิทธิประกันสังคมต้องซื้อประกันสุขภาพกับกระทรวงสาธารณสุข หรือซื้อประกันสุขภาพกับบริษัทประกันภัยเอกชน ซึ่งต้องได้รับสิทธิประโยชน์ไม่น้อยกว่าสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากการทำประกันสุขภาพกับกระทรวงสาธารณสุข
กรณีคนต่างด้าวทำงานกับนายจ้างในกิจการซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องขึ้นทะเบียนประกันสังคม จะต้องซื้อประกันสุขภาพกับกระทรวงสาธารณสุข และนำหลักฐานการทำประกันสุขภาพของคนต่างด้าวมายื่นต่อนายทะเบียน เพื่อรับการพิจารณาอนุญาตให้ทำงาน ไม่เกินวันที่ 13 ก.พ. 66

4. นายจ้างนำคนต่างด้าวไปดำเนินการจัดเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล ตรวจสุขภาพ 6 โรค จัดทำหรือปรับปรุงทะเบียนประวัติ และออกบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ภายในวันที่ 13 ก.พ. 66

ทั้งนี้คนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตทำงานถึงวันที่ 13 ก.พ. 66 แล้ว หากประสงค์จะทำงานต่อไปถึงวันที่ 13 ก.พ. 68 ให้ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตทำงานก่อนที่ใบอนุญาตทำงานจะสิ้นอายุไม่เกิน 120 วัน พร้อมกับยื่นขอตรวจลงตราหรือตรวจอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวต่อไป (VISA) ก่อนที่การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวสิ้นอายุ โดยนายทะเบียน จะอนุญาตให้ทำงานคราวละ 1 ปี รวม 2 ครั้ง ถึงวันที่ 13 ก.พ. 68

สำหรับนายจ้าง/สถานประกอบการ และแรงงานต่างด้าว ที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประกันสังคม มอบเงินช่วยเหลือ ผู้รับเหมา ผู้ประกันตนที่เสียชีวิตเหตุอาคารถล่ม ปราจีนบุรี แล้ว “พิพัฒน์” กำชับดูแลสิทธิประโยชน์ให้ทายาท

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กำชับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ เหตุการณ์อาคารโรงงานถล่มในนิคมอุตสาหกรรม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี วันที่ 30 ธันวาคม 2567 ทับคนงานของผู้รับเหมาที่กำลังปฏิบัติงาน เสียชีวิต 5 ราย พร้อมมอบให้สำนักงานประกันสังคม

“พิพัฒน์” ห่วงใย เหตุเครื่องบินตกรันเวย์ สนามบินมูอัน เกาหลีใต้ มอบ ประกันสังคมเยียวยาทายาทผู้เสียชีวิตชาวไทย กว่า 1.8 แสนบาท .

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ได้เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินของสายการบินเจจูแอร์ ไถลออกนอกรันเวย์ ของท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน สาธารณรัฐเกาหลี

กระทรวงแรงงาน มอบของขวัญปีใหม่ 2568 ลูกจ้าง นายจ้าง กว่า 20 ล้านบาท

เมื่อเข้าสู่เทศกาลปีใหม่แต่ละกระทรวงได้เตรียมของขวัญให้แก่พี่น้องประชาชน เมื่อเร็วๆ นี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

ข่าวดี ! ผู้ประกันตนรับเงินสงเคราะห์บุตรเพิ่มเป็นหนึ่งพันบาทต่อบุตรหนึ่งคน มีผลบังคับใช้มกราคม 68

นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เผยว่าตามที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ มอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมศึกษาการเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตร เพื่อส่งเสริมการมีบุตรให้กับผู้ประกันตน ด้วยสาเหตุจากประเทศไทยมีอัตราการเกิดของประชากรลดลงอย่างต่อเนื่อง

ตอบเคลียร์ “พิพัฒน์” แจงกระทู้ถามสด กรณีศูนย์ออกเอกสารรับรองบุคคล (CI) จะขยายเวลาลงทะเบียน อำนวยความสะดวกไม่ต้องบินกลับประเทศ

วันที่ 26 ธันวาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตอบกระทู้ถามสด ของ นายสหัสวัต คุ้มคง สส.พรรคประชาชน ในสภาผู้แทนราษฎร

ข่าวดี รมว.แรงงาน “พิพัฒน์” จัดเต็มของขวัญปีใหม่ปี 68 มอบประกันสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ผู้ประกันตน “ตรวจและรักษามะเร็งฟรี SSO Cancer Care”

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงาน ได้มอบนโยบายสำคัญให้สำนักงานประกันสังคมดูแลสุขภาพด้านการรักษาที่มีคุณภาพครอบคลุมทุกโรคให้แก่ผู้ประกันตนทุกคนอย่างดี