“กมธ.งบฯ 66” ถก งบก.ต่างประเทศเรียบร้อย เดินหน้าดีอีเอสต่อ ย้ำแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข ยกเป็นวาระแห่งชาติ
29 มิ.ย.2565 - ที่รัฐสภา นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย นายแพทย์บัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ และนางสาวจิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกันแถลงผลการประชุมกมธ.งบประมาณ ปี 2566 โดยนางสาวจิราพร กล่าวว่า ในการพิจารณาเมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.) กมธ.ได้พิจารณางบประมาณของกระทรวงการต่างประเทศ จำนวน 7,556,489,900 บาท ทั้งนี้มีกมธ.ฯบางคนสอบถามถึงความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับความตกลงที่ครอบคลุมและความก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ CPTPP โดยผู้แทนของกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่ากระทรวงการต่างประเทศ ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้เป็นประธานกนศ. เพื่อขับเคลื่อนเกี่ยวกับความตกลง CPTPP โดยมีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นเลขานุการของคณะกรรมการฯ ทั้งนี้ในปัจจุบันคณะกรรมการฯ กำลังรอให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศของกระทรวงพาณิชย์ นำข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับตัวของหน่วยงานต่างๆ และนำร่างกรอบเจรจาเข้าสู่ที่ประชุมกนศ.สรุปผล เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป อย่างไรก็ตามที่ผ่านมากมธ.ฯได้ใช้เวลาในการพิจารณางบประมาณมาแล้วทั้งหมด 15 วัน รวม 136 ชั่วโมง ซึ่งมีหน่วยงานที่ผ่านการพิจารณาไปแล้ว รวม 6 กระทรวง 4 หน่วยงาน 5 กองทุน คิดเป็นร้อยละ 22.2 ของหน่วยงานที่ต้องพิจารณาทั้งหมด ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ
ด้านนายณัฏฐ์ชนน กล่าวว่า นอกจากนี้เมื่อวาน (28 มิ.ย.) ที่ประชุมกมธ. ยังพิจารณางบประมาณภาพรวมของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ซึ่งมีกมธ.ส่วนใหญ่ท้วงติงเรื่องการจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยเสนอแนะและสะท้อนว่ามีประชาชนร้องเรียนเข้ามาจำนวนมาก จากกรณีที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหลอกให้โอนเงิน ซึ่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์รู้ถึงข้อมูลส่วนตัวในเชิงลึกของประชาชน เพราะมีการซื้อขายข้อมูลส่วนตัว และสามารถเลือกบัญชีเป้าหมายได้ตามความต้องการของมิจฉาชีพ เมื่อประชาชนถูกหลอกให้โอนเงินแล้วจะมีการโอนเงินจากบัญชีที่รับโอนภายใน 5 นาที ส่วนใหญ่จะมีการโอนในวันเสาร์และวันอาทิตย์ เพื่อที่จะไม่ให้เหยื่อสามารถไปทำธุรกรรมได้เหมือนวันปกติ และปกติคนไทยมีซิมโทรศัพท์เพียงแค่ 1-2 ซิม
แต่จากการตรวจสอบบางคนมีเบอร์โทรศัพท์ 4,000 ซิม หรือ 5,000 ซิมบ้าง นี่คือสิ่งที่กมธ.ต้องการให้กระทรวงดีอีเอสรีบไปดำเนินการ โดยให้ปัญหานี้เป็นวาระแห่งชาติ และประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงดีอีเอส ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย สำนักงานกฤษฎีกา สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และกรมประชาสัมพันธ์
นายณัฏฐ์ชนน กล่าวต่อว่า ด้านผู้แทนจากกระทรวงดีอีเอสชี้แจงว่า การแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นวาระแห่งชาติ เพราะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ใช่แก๊งระดับประเทศ แต่เป็นมิจฉาชีพข้ามชาติที่มีหลายประเทศตกเป็นเหยื่อ โดยแก๊งเหล่านี้จะอยู่บริเวณชายแดนประเทศไทย เพื่ออาศัยเสาสัญญาณโทรศัพท์ของประเทศไทยทุกเครือข่ายเอื้อประโยชน์ แม้ว่าจะใช้การโทรศัพท์ผ่านอินเตอร์เน็ตที่ไม่สามารถปิดกั้นได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงใช้วิธีการปิดกั้นทางการเงินเอา เพราะเมื่อมิจฉาชีพได้รับการโอนเงินมาแล้วจะโอนต่อไปอีกอย่างน้อย 4 บัญชี และเป็นบัญชีต่างประเทศ ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรร่วมกันแก้ปัญหา เช่นการส่งข้อความเอสเอ็มเอสแจ้งเตือนประชาชน หรือให้ผู้นำท้องถิ่นเตือนประชานเบื้องต้นอีกทาง นอกจากนี้ยังมีกมธ.บางส่วนท้วงติงเรื่องการจัดระเบียบสายสื่อสารในกทม. และทั่วประเทศที่ถือเป็นปัญหาใหญ่ โดยให้กระทรวงดีอีเอสจัดเก็บหรือตรวจสอบสายที่ไม่ใช้งานแล้ว เพื่อดำเนินการให้เรียบร้อย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลเร่งพัฒนาแพลตฟอร์ม สกัดมิจฉาชีพโทร-ส่งข้อความหลอกลวง คาดพร้อมใช้ต้นปี 68
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน
ตร. แถลงจับจีนเทาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เช่าเบอร์โทร 02 นับหมื่นเลขหมาย โทรหลอกกว่า 700 ล้านครั้ง
พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. แถลงผลการปฏิบัติการ “มาตรการระเบิดสะพานโจร” 2 ปฏิบัติการ จับแก๊งจีนเทาเช่าเบอร์โทร 02-xxxxxxx กว่าหมื่นเลขหมาย โทรหลอกประชาชนมากกว่า 700 ล้านครั้ง และใช้เครื่องส่ง SMS ปลอม (False Base Station) ส่งข้อความถึงประชาชนภายใน 3 วัน เกือบล้านครั้ง
'ธีระชัย' ชำแหละกต.ก่อคำถามคาใจ ไม่บอกว่าถ้าเจรจาตาม MOU44 เสี่ยงเสียเกาะกูด 99%
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ประธานร่วมศูนย์นโยบายและวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า
'มาริษ' เผยไทยพร้อมต่อยอดความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ หลังได้ประธานาธิบดีคนใหม่
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอย่างไม่เป็นทางการ ภายหลังผลการนับคะแนนการเลือกตั้ง นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ 267 คะแนน พร้อมประกาศชัยชนะ
'หม่อมกร' เห็นพ้อง 'ปานเทพ' ตอกย้ำ กต.แถลง MOU 44 ขัดกับพระบรมราชโองการโดยชัดแจ้ง
ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่าวันนี้ปรากฎหัวข้อข่าวว่า“ปานเทพ ซัด กต.กล้าบังอาจแถลงข่าวตัดตอนพระบรมราชโองการ ร.9 ถามกรมสนธิสัญญาฯ ทำเพื่อประโยชน์รัฐบาลชาติใด”
'ธีระชัย' ท้า! ก.ต่างประเทศแจง กัมพูชายอมรับเกาะกูดเป็นของไทยแล้วลากเส้นผ่าทำไม
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้