นายกฯ ถกคกก.ที่ดินฯ สั่งเร่งแก้ป่าชายเลนเมืองระนอง เป็นโครงการนำร่องพื้นที่อื่น

“บิ๊กตู่” ถก คกก.ที่ดิน ย้ำต้องดำรงไว้ซึ่งกฎหมาย เร่งแก้ไข 3 ปัญหาหลัก เคลียร์ทุกพื้นที่ให้ชัดเจน เพื่อให้ปชช.ได้รับสิทธิ์

27 มิ.ย.2565 - ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2565 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวก่อนการประชุม ว่า ขอบคุณทุกหน่วยงานที่ปฏิบัติงานในช่วงเวลาที่ผ่านมา และแผนงานที่จะร่วมมือกันทำต่อไป เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน โดยดำรงไว้ซึ่งกฎหมายของบ้านเมือง และตระหนักว่าจะทำอย่างไรให้การแก้ปัญหาหนึ่ง จะไม่นำไปสู่ปัญหาหนึ่งตามมาภายหลัง เพราะฉะนั้นจะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ สิ่งที่ทำมาแล้วถือว่ารอบคอบพอสมควร แต่ขอฝากเรื่องการคัดแยกพื้นที่ที่มีปัญหามาก เพื่อคลี่คลายปัญหาให้ก่อน อย่างน้อยประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เหล่านั้นจะได้มีความสบายใจ เพราะเรื่องการพิสูจน์สิทธิหลายรายเคลียร์ได้บ้างแล้ว ที่เหลือซึ่งเป็นการแก้ปัญหาโดยรัฐกับรัฐ คงไม่น่าจะมีปัญหา จะมีปัญหาเฉพาะพื้นที่ที่มีประชาชนเข้าไปอยู่ร่วมด้วย ก็เรื่องของการพิสูจน์สิทธิในภายหลัง เช่น กรณีภูเขียว

ต่อมาเวลา 14.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ แถลงภายหลังการประชุมว่า ในการประชุมวันนี้เป็นการรายงานความก้าวหน้า รับทราบผลการดำเนินการ และข้อสรุปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งมีผลเป็นรูปธรรมในหลายพื้นที่ หลายจังหวัดที่มีปัญหาทับซ้อนที่ดินระหว่างรัฐต่อรัฐ และรัฐต่อรัฐที่มีประชาชนเข้าไปร่วมด้วย จึงมีมาตรการการใช้แผนที่มาตราส่วน 1: 4,000 (One Map) เพื่อเคลียร์พื้นที่ของรัฐต่อรัฐว่าเป็นของใครกันแน่ เนื่องจากบางพื้นที่มีการทาบทับกันอยู่ และการแก้ปัญหาลงรายละเอียดว่าหากมีประชาชนอยู่จะทำอย่างไร นี่คือการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ประชาชนเดือดร้อนและร้องเรียนมา ตนก็นำเข้าหารือในคทช. โดยปัญหาหลักประกอบ 1.ป่ารุกคน คือมีการประกาศพื้นที่ทับซ้อนลงไป 2.คนรุกป่า คือมีการฝ่าฝืนกฎหมายเข้าไปทำกินในพื้นที่ของป่า และ 3. บางพื้นที่เป็นพื้นที่ที่ต้องพัฒนาความมั่นคงจากสถานการณ์ในอดีตที่ผ่านมาก็มีการจัดคนลงไปในพื้นที่ดังกล่าว

"มันต้องเคลียร์ทุกพื้นที่ เพื่อให้เกิดความชัดเจนของกฎหมายของแต่ละหน่วยงานไม่ให้มีปัญหาซึ่งกันและกัน ประชาชนได้รับการดูแล ได้รับสิทธิ์ การพิสูจน์สิทธิ์ต่างๆ เพื่อให้เกิดความชัดเจน ผมรู้ว่าเดือนร้อนหลายพื้นที่ด้วยกัน" นายกฯ กล่าว

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ครั้งที่ 2/2565 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม ว่า นายกรัฐมนตรีขอบคุณคณะกรรมการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินงานในห้วงที่ผ่านมาและแผนงานที่จะร่วมกันดำเนินการต่อไป เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนทุกคน และดำรงไว้ซึ่งกฎหมายของบ้านเมือง โดยย้ำการแก้ปัญหาหนึ่งต้องไม่นำไปสู่อีกปัญหาหนึ่งตามมาภายหลัง ให้ดำเนินการอย่างรอบคอบ รวมไปถึงขอให้มีการดำเนินการคัดแยกพื้นที่ที่มีปัญหามาก เพื่อคลี่คลายปัญหาให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวได้มีความสบายใจ ซึ่งในส่วนของพื้นที่รัฐต่อรัฐ ก็ได้มีการดำเนินการแล้วไม่มีปัญหา แต่จะมีปัญหาเฉพาะพื้นที่ที่มีประชาชนเข้าไปอยู่ร่วมด้วย ซึ่งต้องไปพิจารณาดำเนินการในเรื่องของการพิสูจน์สิทธิ์ภายหลังเพื่อรักษาสิทธิ์ให้ประชาชนและไม่ให้เกิดปัญหาตามมาอีกในภายหลัง ขณะที่เรื่องการส่งเสริมเกษตรกรปลูกพืชเศรษฐกิจใหม่ ต้องมีการให้ความรู้แก่ประชาชนและเกษตรกรเกี่ยวกับการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practice : GAP) มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ และมาตรฐานด้านการเกษตรอื่น ๆ ตั้งแต่เริ่มต้นให้ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งการปลูกพืชที่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ ปริมาณน้ำ Agri-Map ตรงกับความต้องการของตลาดและผู้บริโภค ตลอดจนเรื่องของระบบขนส่ง เป็นต้น

นายธนกร กล่าวว่า นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการดำเนินงานของฝ่ายเลขานุการ คทช. และคณะอนุกรรมการภายใต้ คทช. โดยย้ำถึงปัญหาคนรุกป่า ต้องแก้ด้วยการดำเนินการของ คทช. ส่วนกรณีป่ารุกคน ให้แก้ด้วยหน่วยงานเครื่องไม้เครื่องมือ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งขอให้เร่งดำเนินการการแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าชายเลนชุมชนเมืองระนอง จังหวัดระนองโดยเร็ว เพื่อให้เป็นโครงการนำร่องเป็นตัวอย่างในการดำเนินการพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป พร้อมกับย้ำขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมกันทำงานแก้ปัญหาที่มีความซับซ้อนมายาวนานให้กับประชาชน ซึ่งขณะนี้หลายเรื่องก็มีความก้าวหน้าโดยลำดับในรัฐบาลนี้ โดยเกิดจากการร่วมมือของทุกคนที่พยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อทำให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถอยู่รอดปลอดภัย มีความสุข พอเพียงและยั่งยืน

นายธนกร กล่าวว่า ที่ประชุม คทช. รับทราบประเด็นสำคัญ จำนวน 2 เรื่อง ประกอบด้วย 1. ผลการดำเนินงานการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน 1.1 กำหนดพื้นที่เป้าหมายแล้ว 1,483 พื้นที่ 70 จังหวัด 5,792,144 - 3 - 44.75 ไร่ 1.2 ออกหนังสืออนุญาตแล้ว 356 พื้นที่ 1,123,171 - 3 - 64.82 ไร่ 1.3 จัดคนเข้าทำประโยชน์ในที่ดินแล้ว 73,809 ราย ใน 331 พื้นที่ 1.4 ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพแล้วใน 247 พื้นที่ 2. การส่งเสริมเกษตรกรในการปลูกพืชเศรษฐกิจใหม่ และการเข้าถึงการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practice : GAP) มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ และมาตรฐานด้านการเกษตรอื่น ๆ ของเกษตรกร โดยให้หน่วยงานที่รับผิดชอบที่ดินที่นำมาจัดที่ดินในประเภทอื่น ที่ออกหนังสืออนุญาตการเข้าทำประโยชน์แล้ว ยังไม่มอบสมุดประจำตัว ผู้ได้รับการคัดเลือกการจัดที่ดินทำกิน ให้ดำเนินการออกหนังสือหรือเอกสารรับรองการใช้ประโยชน์ในที่ดินให้กับราษฎร รวมถึงเกษตรกรทุกรายสามารถใช้ประโยชน์จากที่ดินทำกิน พร้อมส่งเสริมพัฒนาอาชีพเกษตรกร โดยการปลูกพืชเศรษฐกิจใหม่เพื่อเป็นการสร้างอาชีพอย่างยั่งยืน ต่อไป

นายธนกร กล่าวว่า รวมทั้งที่ประชุมมีมติเห็นชอบจำนวน 4 เรื่อง ประกอบด้วย
1. เห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าชายเลนชุมชนเมืองระนอง จังหวัดระนอง ตามที่คณะอนุกรรมการกลั่นกรองกฎหมายการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินเห็นชอบ และมอบหมายให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับไปดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป

2. เห็นชอบในหลักการการปรับเปลี่ยนให้ผู้ขอใช้ประโยชน์การอยู่อาศัยและทำกินในป่าสงวนแห่งชาติ จากผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน หรือกลุ่มเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานของรัฐในพื้นที่ที่จัดที่ดินทำกิน ให้ชุมชน และปฏิบัติตามภายใต้เงื่อนไขข้อกำหนดการใช้ที่ดินและแนวทางปฏิบัติของกรมป่าไม้ มาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 การชำระค่าธรรมเนียมหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และดำเนินการตามหลักเกณฑ์การประเมินความเข้มแข็งของสหกรณ์

3. เห็นชอบการเสนอเรื่องนำเรียนคณะรัฐมนตรี ให้กรมป่าไม้ส่งมอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเสื่อมโทรม “ป่าสวนเมี่ยง” เนื้อที่ประมาณ 361 ไร่ ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมนำไปดำเนินการตามกฎหมายการปฏิรูปที่ดิน เพื่อเกษตรกรรมให้แก่สมาชิกสมาคมทหารผ่านศึกพิการแห่งประเทศไทย และมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป

4. มอบหมายหน่วยงานไปดำเนินการแก้ไขปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ของพื้นที่กลุ่มที่ 2 จำนวน 11 จังหวัด และพื้นที่กลุ่มที่ 3 จำนวน 11 จังหวัด ให้มีรายละเอียดครบถ้วนยิ่งขึ้น ดังนี้ 4.1 พื้นที่กลุ่มที่ 2 จำนวน 11 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดจันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ชัยนาท ตราด นครนายก นครสวรรค์ ระยอง (ยกเว้นกรณีพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า - หมู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง) ลพบุรี ศรีสะเกษ และจังหวัดสระบุรี 4.2 พื้นที่กลุ่มที่ 3 จำนวน 11 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี เพชรบูรณ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด เลย สระแก้ว สุรินทร์ และจังหวัดอุบลราชธานี ทั้งนี้ พื้นที่กลุ่มที่ 1 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ อิ๊งค์ฝากติดตามแถลง 12 ธ.ค.ผลงานรัฐบาล 90 วัน

นายกฯอิ๊งค์ ลั่นรัฐบาล มุ่งสร้างโอกาสจับต้องได้ให้ประชาชน ปากท้องอิ่ม ดึงศักยภาพคนไทย ลั่นปรับสมดุลการค้าสหรัฐ-จีน ย้ำ รบ.อยู่ครบเทอม ฝากติดตามแถลงผลงานรัฐบาล 12 ธ.ค.นี้

เปิดโปรแกรมทัวร์ 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรกที่เมืองเหนือ

เปิดโปรแกรม 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรก จัดที่แม่ริม เชียงใหม่ 29 พ.ย. ก่อนถก 'คลังสัญจร' เชียงราย ฟื้นฟูพื้นที่เศรษฐกิจ พร้อมพบประชาชน

'ธนกร' ชี้หลัง 22 พ.ย.ประเทศก็ยังเดินหน้าต่อ!

'ธนกร' มองทุกคดีศาล รธน.ยึดตามหลักกฎหมาย เชื่อการเมืองหลัง 22 พ.ย.นี้ประเทศต้องเดินหน้าต่อ ขอทุกฝ่ายอย่าคาดเดาจนอาจก้าวล่วงอำนาจ ฝากรัฐบาลเร่งทำผลงาน