22 มิ.ย.2565 - สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) ได้เปิดเผยผลงานโครงการวิจัยและพัฒนาด้านหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิด ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ของเทคโนโลยีเป้าหมาย ตามวัตถุประสงค์เพื่อวิจัยและพัฒนาหุ่นยนต์ทั้งขนาดเล็กและขนาดกลางสนับสนุนภารกิจตรวจค้น พิสูจน์ทราบ เก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด และภารกิจทางด้านความมั่นคงต่าง ๆ ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งทางทหารและพลเรือน โดยรูปแบบการดำเนินงานมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือจากทั้งสถาบันการศึกษาและภาคอุตสาหกรรม เพื่อบูรณาการขีดความสามารถในการวิจัยและพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิดให้สามารถตอบสนองภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรงตามความต้องการของผู้ใช้งาน
จากการวิจัยและพัฒนาต้นแบบหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิดอย่างต่อเนื่อง สทป. ได้มีการนำข้อเสนอแนะจากหน่วยผู้ใช้มาพัฒนาและปรับปรุงสมรรถนะ เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนเป็นที่ยอมรับของหน่วยผู้ใช้ ทำให้หุ่นยนต์ของ สทป. ได้รับการรับรองมาตรฐานยุทโธปกรณ์กระทรวงกลาโหม พร้อมเดินหน้าเข้าสู่สายการผลิต จำนวน 2 รุ่น ได้แก่
1. ต้นแบบหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิดขนาดเล็ก รุ่น D-EMPIR V.4 ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง สทป. กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร เป็นหุ่นยนต์ที่สนับสนุนภารกิจตรวจค้น พิสูจน์ทราบ เก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด โดยออกแบบให้หุ่นยนต์มีความคล่องตัวในการเข้าพื้นที่ ทนต่อสภาพแวดล้อม ควบคุมและสั่งการแบบไร้สายระยะไกล 300 เมตร ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง 2 ชั่วโมง และสามารถรับน้ำหนักของวัตถุต้องสงสัยได้ถึง 30 กิโลกรัม
2. ต้นแบบหุ่นยนต์ตรวจการณ์ขนาดพกพา รุ่น NOONAR V.4 ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง สทป. กับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นหุ่นยนต์ที่สนับสนุนภารกิจตรวจค้น พิสูจน์ทราบ และภารกิจด้านความมั่นคงทั้งทางทหารและพลเรือน โดยออกแบบให้หุ่นยนต์มีขนาดเล็กสะดวกต่อการพกพา มีความคล่องตัว ทนทานสูง ควบคุมและสั่งการแบบไร้สายระยะไกล 300 เมตร ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง 2 ชั่วโมง 30 นาที และรองรับ แรงกระแทกจากการตกจากที่สูงได้เป็นอย่างดี
หุ่นยนต์รุ่นดังกล่าวได้ผ่านกระบวนการตรวจประเมินโรงงานหรือแหล่งผลิต ตรวจและทดสอบสมรรถนะทั้งห้องปฏิบัติการและภาคสนาม โดยมีผลการตรวจและทดสอบเป็นไปตามมาตรฐานยุทโธปกรณ์กระทรวงกลาโหมที่กำหนด จึงได้ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยระบบยานภาคพื้นไร้คนขับ สำหรับภารกิจตรวจการณ์ และ/หรือ การเก็บกู้/ทำลายวัตถุระเบิด ตามประกาศกระทรวงกลาโหม ณ วันที่ 7 มิถุนายน 2565
สทป. มุ่งหวังใหเผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศที่เกิดขึ้นจากความสามารถของคนไทยจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ทหาร ตำรวจ หรือหน่วยงานที่จะต้องเผชิญกับความเสี่ยงภัยในการเก็บกู้วัตถุระเบิดหรือสิ่งแปลกปลอมที่ไม่สามารถทราบได้ให้ปลอดภัยจากการปฏิบัติภารกิจ และที่สำคัญสามารถซ่อมบำรุงได้ภายในประเทศ นอกจากจะเป็นการสร้างหลักประกันความมั่นคงในด้านการทหารแล้วยังเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยได้ต่อไปในอนาคต
ความสำเร็จของการได้รับการรับรองมาตรฐานยุทโธปกรณ์กระทรวงกลาโหม จากคณะกรรมการมาตรฐานยุทโธปกรณ์กระทรวงกลาโหม (กมย.กห.) ของหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิดของ สทป. ในครั้งนี้ เป็นเครื่องยืนยันว่า สทป. พร้อมขยายผลเชิงพาณิชย์เข้าสู่สายการผลิต เพื่อส่งเสริม สนับสนุนกิจการป้องกันประเทศให้เข้มแข็ง เกิดการพึ่งพาตนเองด้านการป้องกันประเทศ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม เสริมสร้างความมั่นคง นำมาซึ่งผลประโยชน์ของชาติ ลดการนำเข้า มุ่งเป้าการส่งออก สร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป “สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ คิดเพื่อชาติ ทำเพื่อคุณ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘อดีตรองหน.เพื่อไทย’ เตือนสติ ‘ไว้ใจ-ศรัทธา’ คือพื้นฐานเสถียรภาพความมั่นคงรัฐบาล
สามารถ แก้วมีชัย อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เตือนสติรัฐบาล
โฆษก มท. แจงมติครม.เร่งแก้ปัญหาคนไร้สถานะทางทะเบียน 4.8 แสนราย ไม่ใช่ให้สัญชาติคนต่างด้าว
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติหลักเกณฑ์เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาสัญชาติ และสถานะให้แก่บุคคลที่อพยพเข้ามา
ครม. ไฟเขียวหลักเกณฑ์เร่งรัดแก้ปัญหาสัญชาติกว่า 4.8 แสนคน
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนออนุมัติหลักเกณฑ์ เพื่อเร่งรัดให้มีการแก้ไขปัญหาสัญชาติ, สถานะของกลุ่มบุคคลที่อพยพเข้ามาในไทยเป็นเวลานาน และกลุ่มบุตรที่เกิดขึ้นในราชอาณาจักรไทย
'บิ๊กอ้วน' ล่องหน! กมธ.สันติภาพชายแดนใต้ ถกคดีตากใบหมดอายุความ
ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษา และเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพ เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีการเชิญนายภูมิธรรม เวชยชัย
นายกฯอิ๊งค์ชู 3 ประเด็นบนเวทีสุดยอดอาเซียน
นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์เวทีสุดยอดอาเซียน ชู 3 ข้อ ความยั่งยืนของสมาชิก-ความมั่นคงของมนุษย์-การบูรณาการร่วมกันระดับภูมิภาค เชื่อมโยงอาเซียนที่แข็งแรง สู่การ 'กินดีอยู่ดี' ของประชากรกว่า 700 ล้านคนในภูมิภาค
'บิ๊กอ้วน' ชงแคนดิเดต 'เลขาฯสมช.' มากกว่า 1 รายชื่อ ให้ ครม. พิจารณาสัปดาห์หน้า
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2567 ว่า ที่ประชุมมีการพิจารณาเรื่องการแต่งตั้งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)