3 มิ.ย.2565 - นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2565 ซึ่งเป็นวันแรกของการจำหน่ายสลากดิจิทัลผ่านแอป “เป๋าตัง” สร้างความพึงพอใจต่อผู้ซื้อและผู้ขายเป็นอย่างมาก โดยยอดจำหน่ายสลากฯ ผ่านแอป “เป๋าตัง” วันแรกสามารถจำหน่ายได้ 2,460,723 ใบ จำนวนผู้ซื้อสลาก 612,141 คน
นายอนุชา กล่าวว่า การจำหน่ายสลากฯ ผ่านแพลตฟอร์มหรือสลากดิจิทัลนั้น สลากทุกใบเป็นของตัวแทนจำหน่ายรายย่อย สำนักงานสลากฯ เป็นแต่เพียงสนับสนุน จัดหาช่องทางการจำหน่ายในราคา 80 บาท ทำให้ได้ประโยชน์ทั้งผู้ซื้อ และส่งเสริมตัวแทนรายย่อยผู้ขาย ให้สามารถวางขายในแพลตฟอร์ม ซึ่งมีผู้เข้ามาซื้อเป็นจำนวนมาก ไม่ต้องเสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางเร่ขาย ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการมอมเมา เพราะปัจจุบันประชาชนที่ซื้อสลากตามแผงจำหน่ายก็สามารถซื้อได้แบบไม่จำกัดจำนวนอยู่แล้ว และขอย้ำว่าสลากทุกใบเป็นของตัวแทนรายย่อย ดังนั้นการจำหน่ายสลากดิจิทัล นอกจากประชาชนผู้ซื้อจะสามารถซื้อสลากได้ในราคาที่กำหนด คือ 80 บาทแล้ว ยังเป็นการช่วยส่งเสริมอาชีพ ส่งเสริมรายได้ให้กับพ่อแม่พี่น้องที่เป็นตัวแทนรายย่อยอีกด้วย
“ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าคนขายไม่สามารถนำสลากที่มีคนซื้อไปแล้ว มาขายซ้ำได้ เพราะสลากที่มีคนซื้อไปแล้ว จะหายไปจากแผงของร้านนั้นทันที และจะมาอยู่ในระบบของคนซื้อ ร้านไม่สามารถนำมาขายซ้ำได้แน่นอน นอกจากนี้เพื่อความมั่นใจของผู้ซื้อสามารถใช้คำสั่งนี้สแกนสลากเก็บไว้ในแอปได้ เพื่อป้องกันการสูญหาย เมื่อถูกรางวัลแอปฯจะแจ้งเตือน ให้เลือกว่าจะให้โอนเงินรางวัลเข้าบัญชีกรุงไทยที่เราผูกไว้ หรือจะไปขอรับเองที่สำนักงานสลากก็ได้ กรณีต้องการสลากคืนไม่ว่าจะถูกรางวัลหรือไม่ถูกรางวัล มีสิทธิ์ไปยื่นคำร้องขอรับสลากตัวจริงได้ ด้วยการนำหลักฐานการซื้อขายทางแอปฯ ไปแสดงต่อสำนักงานสลากฯ” นายอนุชา กล่าว
ด้านนายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ยอดการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มในวันแรกผลตอบรับเป็นไปด้วยดี ระบบมีความราบรื่น อาจเพราะเป็นการขายวันแรก เป็นเรื่องใหม่ จึงได้รับความสนใจ ที่สำคัญคือสามารถซื้อได้ในราคา 80 บาท โดยเมื่อวานนี้ (2 มิถุนายน 2565) หลังจากสิ้นสุดเวลาจำหน่าย 23.00 น. มียอดจำหน่ายสลาก 2,460,723 ใบ จำนวนผู้ซื้อสลาก 612,141 คน จากจำนวนสลากทั้งหมด 5,279,500 ฉบับ
ส่วนแนวทางการเพิ่มจำนวนสลากจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มนั้น คงต้องพิจารณาความเหมาะสม เพราะสำนักงานสลากฯ เอง ก็ต้องการให้สลากแบบใบสามารถขายควบคู่กันไปได้ ไม่ได้รับผลกระทบ ต้องดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป เมื่อวานนี้ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และเห็นว่าสลากดิจิทัลเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้ผู้ซื้อสามารถมาซื้อสลากได้ในราคา 80 บาทแน่นอน และระบบมีความพร้อมให้ผู้ที่ต้องการซื้อสลาก สามารถซื้อได้อีกทั้งในกรณีที่ถูกรางวัล ก็เลือกขึ้นเงินรางวัลผ่านแอพพลิเคชันได้ทันที นอกเหนือจาก การซื้อสลากจากโครงการ จุดจำหน่ายสลาก 80 บาทที่จะเพิ่มจุดจำหน่าย 1,000 จุด ทั่วประเทศไทย ได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้
ด้าน พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า สำหรับวิธีการขึ้นเงินรางวัลนั้น กรณีถูกรางวัล ระบบจะแจ้งเตือนไปที่แอพลิเคชันเป๋าตัง ภายในเวลา 18.00 น. ของวันที่ออกรางวัล โดยให้เลือกรับรางวัลได้ 2 ช่องทางคือ เลือกรับโดยการโอนเงิน ซึ่งจะโอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทยที่ผูกไว้กับแอพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งในอนาคตจะปรับเปลี่ยนให้สามารถผูกบัญชีธนาคารอื่น ๆ ได้ เพื่อความสะดวกของผู้ซื้อ วิธีนี้จะเสียค่าธรรมเนียม 1% และ ค่าภาษีอากรแสตมป์ 0.5% ส่วนวิธีที่สอง สามารถเลือกมารับเงินรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สนามบินน้ำ โดยต้องกำหนด วัน เวลา ที่ต้องการเข้ามารับเงินรางวัลเพื่อที่สำนักงานสลากฯ จะจัดเตรียมสลากแบบใบตัวจริง เพื่อส่งคืนให้กับผู้ซื้อ เพื่อเข้าสู่กระบวนการขึ้นเงินรางวัล วิธีนี้จะเสียเฉพาะค่าภาษีอากรแสตมป์ 0.5%
ทั้งนี้ ยืนยันว่าการกำหนดค่าธรรมเนียม และค่าอากรแสตมป์ดำเนินการเช่นเดียวกับที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการนำสลากไปขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลาก หรือธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ และธนาคารกรุงไทย
ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวต่อไปว่า กรณีที่ถูกรางวัลสลากที่จำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มฯ จะต้องแจ้งในระบบว่า จะเลือกรับเงินรางวัลผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่งภายใน 15 วัน หากไม่แจ้งภายในกำหนด จะต้องมาขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลากภายใน 2 ปี โดยสลากที่จำหน่ายผ่านแพลตฟอร์ม หรือดิจิทัล ที่ซื้อไว้จะแสดงอยู่ในประวัติข้อมูลการซื้อ 1 ปี ทั้งนี้ หากเลือกรับเงินรางวัลผ่านการโอนเงินเข้าบัญชีที่ผูกไว้ จะได้รับเงินโอนหลังจากที่แจ้ง ภายในระยะเวลา 12 ชั่วโมง ซึ่งยืนยันว่าจากที่ทดสอบระบบ การโอนเงินรางวัลไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ขอให้ผู้ซื้อสลากทุกคนไม่ต้องกังวล
พันโท หนุน กล่าวด้วยว่า การจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มหรือสลากดิจิทัลนั้น สลากทุกใบเป็นของตัวแทนจำหน่ายรายย่อย สำนักงานสลากฯ เป็นแต่เพียงสนับสนุน จัดหาช่องทางการจำหน่ายในราคา 80 บาท ที่ได้ประโยชน์ทั้งผู้ซื้อ และ ส่งเสริมตัวแทนรายย่อยผู้ขาย ให้สามารถวางขายในแพลตฟอร์มซึ่งมีผู้เข้ามาซื้อเป็นจำนวนมาก ไม่ต้องเสียค่าใช้ในการเร่ขาย ขณะเดียวกัน ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการมอมเมา เพราะปัจจุบัน ประชาชนที่ซื้อสลากตามแผงจำหน่ายก็สามารถซื้อได้แบบไม่จำกัดจำนวนอยู่แล้ว และขอย้ำว่า สลากทุกใบเป็นของพ่อแม่พี่น้องตัวแทนรายย่อย ดังนั้น การจำหน่ายสลากดิจิทัล นอกจากประชาชนผู้ซื้อจะสามารถซื้อสลากได้ในราคาที่กำหนด คือ 80 บาทแล้ว ยังเป็นการช่วยส่งเสริมอาชีพ ส่งเสริมรายได้ให้กับพ่อแม่พี่น้องที่เป็นตัวแทนรายย่อยอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เอ๋ เชิญยิ้ม' ถูกรางวัลที่ 1 และรางวัลอื่น ๆ รวม 26 ใบ
ปังไม่ไหวสำหรับนักแสดงตลกชื่อดัง เอ๋ เชิญยิ้ม หลังเจ้าตัวได้ถูกรางวัลใหญ่ จากการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 16 พฤศจิกายน 2567 ด้วยการถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 1 ใบ พ่วงรางวัลอื่น ๆ รวม 26 รางวัล งานนี้รับเงินก้อนโตเลยทีเดียว
ราชกิจจาฯ ประกาศ ประเภทและรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เรื่อง กำหนดประเภทและรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก โดยมีรายละเอียดดังนี้